หัวหน้าพลังธรรมใหม่ จุดพลุ กม.นิรโทษกรรรมทุกสี เว้นโทษทุจริต-คดีอาญารุนแรง-ม.112 เผยหารือแกนนำกลุ่มต่างๆส่วนใหญ่เห็นด้วย หวังพิจารณาเสร็จทันก่อนปิดสมัยประชุม เชื่อรัฐบาล-ฝ่ายค้านเห็นชอบ
วันนี้ (9พ.ย.) นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาได้ไปหารือกับหลายฝ่ายเพื่อหาทางสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ยุติความแตกแยกทางความคิดในบ้านเมืองช่วง 10กว่าปีที่ผ่านมา พร้อมยกร่างกฎหมายเสร็จเรียบร้อยแล้วชื่อว่า ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมืองของประชาชน มีวัตถุประสงค์ให้คนในชาติกลับสู่ความสงบสุขสามัคคีกัน สาระ สำคัญร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้คือ การนิรโทษกรรมแก่ประชาชนทุกกลุ่มที่ได้กระทำผิดจากการชุมนุมทางการเมืองและการแสดงออกทางการเมือง ตั้งแต่วันที่ 19ก.ย.2549จนถึงวันที่ 30พ.ย.2565 ครอบคลุมตั้งแต่การใช้วาจา การโฆษณาต่อต้านรัฐบาล การต่อสู้ขัดขืนการดำเนินการของเจ้าหน้าที่รัฐในการชุมนุม การประท้วงที่กระทบต่อสิทธิของบุคคลอื่นที่เป็นเหตุสืบเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง จะไม่ถือเป็นความผิดทางอาญาและแพ่ง ให้พ้นจากการกระทำผิดและความรับผิดโดยสิ้นเชิง
นพ.ระวี กล่าวว่า อย่างไรก็ตามร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนี้ จะไม่ครอบคลุมถึงความผิด 3กรณีได้แก่ 1.การทุจริตคอร์รัปชัน 2.ความผิดทางอาญาที่รุนแรง เช่น การยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร หรือบุคคลอื่น 3.ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ไม่อยู่ในข่ายได้รับนิรโทษกรรม หากร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้มีผลบังคับใช้ ถ้าคดีใดยังไม่ถูกฟ้องต่อศาลหรืออยู่ระหว่างสอบสวน ถือว่าให้ระงับการสอบสวน หรือยุติการส่งฟ้องต่อศาล หากถูกฟ้องต่อศาลแล้วให้ถอนฟ้อง หรือถ้าคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นศาล ให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดี และกรณีที่มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษบุคคลใดไปแล้ว ให้ถือว่า บุคคลนั้นไม่เคยต้องคำพิพากษาว่าได้กระทำความผิด หากใครอยู่ระหว่างการรับโทษให้การลงโทษนั้นสิ้นสุด และได้รับการปล่อยตัว ร่างกฎหมายฉบับนี้ เพิ่งยกร่างเสร็จเมื่อวันที่ 8พ.ย.2565 ขณะนี้จะนำไประสานส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล และนายกรัฐมนตรีเพื่อขอความเห็นชอบ ผลักดันเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร จะพยายามผลักดันเข้าสู่สภาฯให้เร็วที่สุด ให้พิจารณาเสร็จทันก่อนปิดสมัยประชุมสภาฯนี้ โดยใช้เวลาพิจารณาในชั้นกมธ.ไม่นานแค่ 2-3 สัปดาห์ ก็ส่งให้สภาลงมติวาระ2-3ได้ เพราะจะมีเนื้อหาแค่ 7มาตราเท่านั้น มั่นใจจะได้รับความเห็นชอบจากทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน เพราะตอนยกร่างกฎหมายฉบับนี้ได้ไปหารือกับแกนนำทุกกลุ่มทั้งเสื้อเหลือง เสื้อแดง กปปส. แม้จะไม่ได้เห็นชอบด้วยทุกคน แต่ส่วนใหญ่ก็เห็นชอบด้วย