“ประวิตร” ฮักคนอีสาน ลงพื้นที่ช่วยชาวสกลนคร ตรวจ “บึงหนองหาร” เร่งฟื้นฟู เล็งขยายผลใช้ประโยชน์เป็นแหล่งน้ำดิบขนาดใหญ่ และแหล่งท่องเที่ยว พร้อมสั่งเตรียมกักเก็บน้ำไว้ใช้ฤดูแล้ง
วันนี้ (5 พ.ย.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ พร้อมคณะ ได้เดินทางไปตรวจ ติดตามแผนพัฒนาหนองหาร จ.สกลนคร ซึ่งถือเป็นโครงการสำคัญในการบริหารจัดการน้ำ เพื่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคอีสาน โดยมี นางจุรีรัตน์ เทพอาสน์ ผวจ.สกลนคร ให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุม ภูริทัตโต รพ.ศูนย์สกลนคร อ.เมือง จ.สกลนคร
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้รับฟังการบรรยายสรุป ภาพรวมการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และแผนหลักการพัฒนาหนองหาร โดย เลขาฯ สทนช. รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่กรมประมง, กรมชลประทาน, กรมโยธาธิการและผังเมือง และ ก.ทรัพย์ โดยสรุป หนองหาร เป็นบึงน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน และเป็นพื้นที่ใช้ประโยชน์ทั้งเป็นแหล่งน้ำดิบ สำหรับอุปโภคบริโภค และการเกษตร การบำรุงพันธุ์สัตว์น้ำ พื้นที่ชะลอน้ำเพื่อบรรเทาอุทกภัย และแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันมีปริมาณน้ำเก็บกัก ร้อยละ 93 ของความจุ ซึ่งในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมาสามารถชะลอน้ำและเก็บกักน้ำฝนไว้ใช้ประโยชน์ในช่วงแล้งได้เป็นอย่างดี สำหรับความก้าวหน้าโครงการ ตามแผนแม่บทน้ำ 20 ปี ห้วงระยะเวลา 10 ปี (ปี63-72) มี 62 แผนงาน/โครงการ ซึ่งผลการดำเนินงาน ปี63-65 แล้วเสร็จ 19 โครงการ สำหรับแผนปี 66 มี 30 โครงการ และแผนปี 67 อีก 34 โครงการ ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานเร่งบูรณาการขับเคลื่อนแผนงาน/โครงการ อย่างเคร่งครัด รวมทั้งขับเคลื่อน 13 มาตรการฤดูฝน และ 10 มาตรการฤดูแล้ง โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์พื้นที่ในการหน่วงและกักเก็บน้ำสำรองไว้ใช้เพื่อป้องกัน และลดผลกระทบประชาชนในช่วงฤดูแล้งนี้ด้วย
จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้ลงพื้นที่ตรวจสภาพรอบ บึงหนองหาร ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเฉลิมพระชนมพรรษา 80 ปีโดยมีประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับซึ่ง พล.อ.ประวิตร ได้พบปะทักทายและได้กล่าวขอบคุณ พร้อมฝากความปรารถนาดีและความห่วงใยจากรัฐบาลและพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นรม. โดยยืนยันจะเร่งแก้ปัญหาน้ำให้ครอบคลุมทุกมิติ ผ่านกลไกการทำงานของภาครัฐ และความร่วมมือจากภาคเอกชนและประชาชนเพื่อให้ชาวหนองหาร และชาวสกลนคร ลดผลกระทบจากภาวะ น้ำท่วม ภัยแล้ง มีน้ำสะอาดใช้อย่างเพียงพอ และมีความอยู่ดีกินดี พร้อมทั้งจะพยายามพัฒนาบึงหนองหาร ให้กลับมามีความอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งน้ำจืด ที่มีคุณค่าทางธรรมชาติและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัด และคนอีสานอีกครั้งหนึ่ง