“สุทิน” ยกผลโหวต กม.สุราก้าวหน้า ชี้ ฝ่ายรัฐบาลมีปัญหาด้านเอกภาพ ระบุ โอกาสร่าง กม.กัญชาฯ ผ่านครึ่งต่อครึ่ง กังขา เพิ่มเนื้อหาใหม่เยอะมาก จาก 42 เป็น 95 มาตรา เหมือนยกร่างใหม่ ต้องทำประชามติก่อนหรือไม่ ย้ำจุดยืนกัญชาต้องใช้ทางการแพทย์เท่านั้น
วันนี้ (3 พ.ย.) ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต หรือ ร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ที่ตกไป ว่า ได้มีการวิเคราะห์กันว่าต่อไปการทำงานในสภาน่าจะมีปัญหา เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นสัญญาณ ปัญหาเรื่องความเป็นเอกภาพของซีกรัฐบาล เพราะหากการประชุมสภาเมื่อวานนี้ (2 พ.ย.) หากรัฐบาลมีเอกภาพเสียงจะไม่ออกมาเช่นนั้น ส่วนซีกฝ่ายค้านไม่ได้มีปัญหา เพียงแต่คิดว่าอาจจะต้องทำหน้าที่หนักขึ้นในช่วงที่เหลือ และจะต้องมีการตรวจสอบที่เข้มข้นขึ้น เพราะช่วงสุดท้ายของสภาในอดีตเท่าที่มีมา รัฐบาลมักจะทำเพื่อการหาเสียง ใช้งบประมาณเพื่อการหาเสียง และการโยกย้ายก็เพื่อวางฐานเสียง รวมทั้งทรัพยากรต่างๆของประเทศก็จะถูกนำไปใช้ เพื่อการหาเสียงในมือของผู้ถืออำนาจรัฐ ซึ่งเป็นการพรากประโยชน์ไปจากประชาชน ฝ่ายค้านก็ต้องทำหน้าที่เข้มข้นขึ้น
เมื่อถามว่า การประชุมสัปดาห์หน้าอาจต้องพิจารณาร่าง พ.ร.บ. กัญชา กันชง (ฉบับที่…) พ.ศ… คิดว่าจะมีปัญหาอีกหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า อยู่ที่รัฐบาล เพราะเห็นว่ามีปัญหากันอยู่ และชัดแล้วว่า พรรคประชาธิปปัตย์ (ปชป.) เขาก็ไม่เห็นด้วย และฝ่ายค้านก็ไม่เห็นด้วย แนวโน้มจึงเชื่อว่าอาจจะไม่ผ่าน ดังนั้น จุดชี้วัดจึงอยู่ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แต่ที่สอบถามส.ส.พรรค พปชร.หลายคนบอกว่า เขาเห็นด้วยกับการใช้ในทางการแพทย์ และเห็นว่า เขากำลังควบคุมอยู่ แต่หากไม่ควบคุมเขาก็ไม่เห็นด้วย ดังนั้น โอกาสที่จะผ่านจึง 50-50
นายสุทิน กล่าวต่อว่า ในส่วนฝ่ายค้านคงยืนตามหลักการเดิม และคิดว่า คงจะมีการอภิปรายกันข้ามสัปดาห์ เพราะเนื้อหาเยอะ อาจจะต้องประชุม 2-3 นัด อย่างไรก็ตาม มีข้อน่าสังเกตว่า อาจจะมีคนเห็นด้วยกับประเด็นที่ร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ มีการเพิ่มเนื้อหาเยอะมาก จาก 42 มาตรา เป็น 95 มาตรา เหมือนกับร่างใหม่ ซึ่งต้องไปถามความเห็นประชาชนตามรัฐธรรมนูญ เพราะธรรมดาแล้วกฎหมายทุกฉบับที่จะผ่านสภา ต้องผ่านกระบวนการรับฟังความคิดเห็นประชาชนก่อน ซึ่งร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ไม่ทราบว่าที่เพิ่มขึ้นมานั้น ได้ถามประชาชนก่อนหรือไม่
นายสุทิน กล่าวอีกว่า หากการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ไม่เป็นไปตามหลักการเดิมที่พรรค พท.เคยเสนอ คือ ต้องใช้ในทางการแพทย์ และโดยตามร่างที่เสนอมานั้นไม่ใช่ควบคุมเพื่อการแพทย์ แต่ยังปล่อยไปในทางสันทนาการ ดังนั้น จึงต้องดูว่า เขาแก้มาหรือไม่ และการอภิปรายในสภาจะเป็นไปในทิศทางใด หากในแต่ละมาตราไปในทาง ใช้ในทางการแพทย์ เราก็ผ่านให้ แต่หากแต่ละมาตรามีการเปิดช่องไปทางสันทนาการเราก็ไม่ให้ผ่าน และจะประมวลภาพรวมอีกครั้ง ว่า จะควบคุมกัญชาหรือไม่ แต่ถ้าเปิดช่องไปทางสันทนาการเราก็ไม่ให้ผ่าน ทั้งนี้ ฝ่ายค้านยืนยันว่า กัญชาจำเป็นที่จะต้องกลับไปเป็นยาเสพติด เพราะหากกลับไปเป็นยาเสพติดก็สามารถใช้ในทางการแพทย์ได้