xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ตรวจการแผ่นดิน ไม่หนักใจรับเผือกร้อนสอบปมให้ต่างชาติถือครองที่ดินไว้พิจารณา ระบุยึดข้อ กม.-ประโยชน์สาธารณะ-ความโปร่งใสเป็นกรอบการพิจารณา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้ตรวจการแผ่นดิน ไม่หนักใจรับเผือกร้อนสอบปมให้ต่างชาติถือครองที่ดินไว้พิจารณา ระบุยึดข้อ กม.-ประโยชน์สาธารณะ-ความโปร่งใส เป็นกรอบการพิจารณา ลั่นเร่งพิจารณาเพราะสังคมสนใจ

วันนี้ (2 พ.ย.) นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินไทย กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส. พรรคไทยศรีวิไลย์ ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนโยบายให้ต่างชาติถือครองที่ดินได้ของรัฐบาล ว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นสาธารณะ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ก็ให้ความสำคัญ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการรับเรื่องร้องเรียนแล้ว โดยในขั้นตอนปฏิบัติก็จะดูว่าเรื่องร้องเรียนเข้าเงื่อนไขหลักเกณฑ์ที่จะรับพิจารณาหรือไม่ ถ้าเข้าเงื่อนไขก็จะไปพิจารณาข้อกฎหมายต่อไป คงใช้เวลาสักช่วงหนึ่ง เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จะต้องดูกฎหมายและแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง
เมื่อถามว่า รัฐบาลระบุเรื่องนี้ยังอยู่ในขั้นตอนและต้องถามความเห็นจากกฤษฎีกา ผู้ตรวจฯจะสามารถพิจารณาได้หรือไม่ นายสมศักดิ์ ระบุว่า ก็จะต้องดูในเงื่อนไขหลักเกณฑ์ว่ามันเป็นกฎหมายแล้วเสร็จหรือยัง สมควรที่จะรับไว้พิจารณาได้หรือไม่ โดยในขั้นแรกต้องพิจารณาว่าประเด็นที่เป็นวัตถุแห่งการร้องเรียนเข้าเงื่อนไขที่จะรับไว้พิจารณาหรือไม่ ถ้าเข้าเงื่อนไขก็ที่รับไว้พิจารณาก็ไปพิจารณาในข้อกฎหมาย ซึ่งจะรีบดำเนินการโดยเร็ว

ส่วนกรณีหลายฝ่ายกังวลว่าปัจจุบันมีปัญหาต่างชาติใช้คนไทยเป็นนอมินีในการถือครองที่ดิน และที่ผ่านมา ผู้ตรวจการแผ่นดินชุดที่แล้วเคยมีแนวคิดจะเสนอปรับปรุงกฎหมายเพื่อเป็นการป้องกันนอมินีนั้น นายสมศักดิ์ ระบุว่า ต้องพิจารณาในรายละเอียดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ทรงคุณวุฒิ คงจะต้องรวมความเห็นตรงนั้น เมื่อถามย้ำว่าผู้ตรวจการแผ่นดินจะมีการหยิบยกเรื่องเป็นนอมินีต่างชาติถือครองที่ดินเสนอให้รัฐบาลพิจารณาอีกหรือไม่นั้น ต้องนำมาพิจารณาว่ามันเข้ากับเงื่อนไข หลักเกณฑ์ สถานการณ์เหตุการณ์ปัจจุบันหรือไม่ ถ้าเกี่ยวข้องกันก็จะนำไปทบทวน

ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้เหมือนจะเป็นกระแสสังคมที่สับสนกันไปหลายทิศทาง ผู้ตรวจการแผ่นดินหนักใจหรือไม่ เพราะถือเป็นเผือกร้อน นายสมศักดิ์ ระบุไม่หนักใจ เรารอความชัดเจนของวัตถุแห่งการร้องเรียนเท่านั้น และจะนำไปสู่การพิจารณา มันมีข้อกฎหมายและแนวปฏิบัติอยู่แล้ว ผู้ตรวจการแผ่นดินยึดหลักนิติธรรม ความถูกต้อง หลักความโปร่งใสและประโยชน์สาธารณะ ก็เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาอะไร ส่วนจะใช้ระยะเวลานานหรือไม่ ในการตรวจสอบก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขความชัดเจนแห่งวัตถุต้นเรื่องเป็นลำดับแรก โดยจะได้นำมาดูข้อกฎหมาย แต่ทั้งนี้ ยืนยันจะเร่งดำเนินการ ขณะนี้กำลังศึกษาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายไว้แล้วส่วนหนึ่ง ซึ่งมีข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องหลายฉบับด้วยกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น