xs
xsm
sm
md
lg

ปิดฉาก APPF 30 อย่างเป็นทางการ รัฐสภาไทยได้รับเสียงปรบมือดังกึกก้อง ชื่นชมที่จัดงานได้เป็นอย่างดี และการประชุมครั้งนี้บรรลุข้อตกลงทั้ง 11 ข้อ โดยฉันทามติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันนี้ (28 ต.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น B ๒ อาคารรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ในฐานะประธานเจ้าภาพการประชุมประจำปีรัฐสภา
ภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 30 หรือ APPF ครั้งที่ 30 และประธานคณะกรรมการบริหาร เป็นประธานในพิธีปิดการประชุมประจำปีรัฐสภาภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 30 ซึ่งรัฐสภาเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุม ระหว่างวันที่ 26-29 ตุลาคม 2565 ณ รัฐสภา โดยมี หัวหน้าและคณะผู้แทนจากประเทศสมาชิก APPF ประเทศผู้สังเกตการณ์ องค์การระหว่างประเทศ คณะทูตานุทูต ศาสตราจารย์พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง สมาชิกรัฐสภาไทย คณะผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมพิธี

​โอกาสนี้ ประธานรัฐสภา ในฐานะประธานเจ้าภาพการประชุมประจำปีรัฐสภาภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 30 หรือ APPF ครั้งที่ 30 และประธานคณะกรรมการบริหาร กล่าวสุนทรพจน์ปิดการประชุม ใจความสำคัญว่า “การประชุมได้ดำเนินมาจนถึงวันสุดท้ายของการประชุมแล้ว ขอแสดงความขอบคุณ อย่างสุดซึ้งต่อผู้เข้าร่วมประชุมจากประเทศสมาชิก APPF ทุกท่านสำหรับการสนับสนุนอันมีค่ายิ่งในการประชุมประจำปีครั้งนี้ ด้วยบรรยากาศแห่งมิตรภาพและความสมัครสมานสามัคคี ขอแสดงความขอบคุณเป็นพิเศษ

สำหรับความร่วมมือขององค์กรระหว่างประเทศต่างๆ ที่มีส่วนช่วยให้การประชุมประจำปีรัฐสภาภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 30 ประสบความสำเร็จ ประเทศไทยมีความยินดีที่ได้เห็นความมุ่งมั่นของประเทศสมาชิก APPF ในการฟื้นฟูอย่างเท่าเทียม สมดุล โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง อันสะท้อนให้เห็นในผลลัพธ์หลัก ของการประชุมนี้ ด้วยความเข้มแข็งและความหลากหลายของเรา เราจะสร้างอนาคตที่ดีขึ้นและเจริญรุ่งเรืองขึ้นร่วมกัน เพื่อพวกเราทุกคนผู้เข้าร่วมประชุมทุกท่าน การประชุมเมื่อสองวันที่ผ่านมาเป็นเครื่องพิสูจน์ที่ชัดเจนถึงพลังของพหุภาคี ด้วยการแบ่งปันข้อห่วงใยร่วมกันอย่างแข็งขันและการทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ในรูปแบบความเป็นหุ้นส่วน เรามั่นใจว่าภูมิภาคของเราจะก้าวไปข้างหน้าในทุกมิติอย่างยั่งยืนมากขึ้น APPF ในฐานะตัวแทนของประชาชน เป็นเครื่องมือในการส่งเสริมฉันทามติและการสนับสนุนจากประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ของเรา เราต้องเปลี่ยนผ่านวิสัยทัศน์ไปสู่การปฏิบัติ และขับเคลื่อนภูมิภาคของเราไปสู่สันติภาพ ความมั่งคั่ง และความยั่งยืน เพื่ออนุชนคนรุ่นหลังของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ประชาคมโลก ตลอดจนโลกของเรา”

​จากนั้น นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ในฐานะประธาน APPF และประธานกรรมการบริหาร ส่งมอบธง APPF ให้แก่เจ้าภาพการประชุม APPF ครั้งที่ 31 โดย Mr.Ronald dela Rosa สมาชิกวุฒิสภา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ หัวหน้าคณะผู้แทนสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ กล่าวสุนทรพจน์รับตำแหน่งเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐสภาภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิกครั้งต่อไป พร้อมกล่าวว่า ฟิลิปปินส์มีความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพการประชุมครั้งถัดไปเพื่อบรรลุถึงวัตถุประสงค์ของ APPF ฟิลิปปินส์มีความยินดีที่จะแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับทุกประเทศ ความร่วมมือระหว่างกันของประเทศสมาชิกเป็นสิ่งที่ฟิลิปปินส์จะดำเนินการต่อไป และจะเรียนรู้การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมจากไทย การได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งถัดไป ถือเป็นความภาคภูมิใจของฟิลิปปินส์ที่จะได้ต้อนรับทุกท่านที่กรุงมะนิลา ขอบคุณประเทศไทยที่จัดการประชุมครั้งนี้เป็นอย่างดี


​โดยในช่วงก่อนพิธีปิดการประชุมเป็นการประชุมเต็มคณะ วาระที่ 4 ด้านการดำเนินกิจกรรม ของ APPF ประกอบด้วย การรายงานการประชุมสมาชิกรัฐสภาสตรี โดย นางสาวเพชรดาว โต๊ะมีนา ประธานการประชุมสมาชิกรัฐสภาสตรี กล่าวรายงานการประชุมต่อที่ประชุมว่า ที่ประชุมได้พูดคุยใน 2 ประเด็นหลัก คือ การเสริมสร้างศักยภาพของสตรีเพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์ในอนาคต และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสตรีในการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้สร้างผลกระทบในทุกๆ ด้าน ตลอดจนความเป็นอยู่ของสตรีที่ได้รับผลกระทบเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะความท้าทายด้านเศรษฐกิจ ความไม่แน่นอนด้านการทำงาน และสวัสดิการ ของสตรี ปัญหาความรุนแรงภายในครอบครัว ขณะที่ต้องเผชิญความท้าทายระดับโลกด้านต่างๆ อาทิ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ นอกจากนี้ ที่ประชุมสมาชิกรัฐสภาสตรี ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นทั้งด้านงบประมาณ ด้านสังคม การเข้าถึงสาธารณสุข ตลอดจนการกำจัดความรุนแรงต่อสตรี การสร้างความเท่าเทียมกันในสถานที่ทำงาน และการใช้ระบบดิจิทัลเข้ามาช่วยในการทำงาน อีกทั้งยังมีข้อคิดเห็นร่วมกันว่ารัฐบาลควรส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีในการทำงาน ซึ่งรัฐสภาต้องกระตุ้นให้รัฐบาลพัฒนานโยบายต่างๆ ที่อนุญาตให้ผู้หญิงสามารถเข้าถึงสิ่งเหล่านี้ได้อย่างสะดวก มุ่งส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต สนับสนุนทักษะในด้านต่าง ๆ เพื่ออนาคตที่ดี การพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งจะทำให้สตรี และเด็กผู้หญิงมีโอกาสพัฒนาทุกด้านในชีวิตให้มีศักยภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พูดถึงการส่งเสริมโอกาสการเป็นผู้นำทางการเมือง ที่จะต้องส่งเสริมให้สตรีเข้ามามีส่วนร่วมในทางการเมืองให้มากที่สุด และเห็นร่วมกัน ที่จะผลักดันให้เกิดความเท่าเทียมกันทางเพศให้เกิดขึ้นจริงให้ได้ ภายหลังการแลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็นร่วมกัน ที่ประชุมสมาชิกรัฐสภาสตรีได้เห็นชอบ 2 ข้อมติ คือการเสริมสร้างศักยภาพสตรีเพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์ในอนาคต เสนอโดยรัสเซียและประเทศไทย และข้อมติการมีส่วนร่วมของสตรีในการฟื้นฟูเศรษฐกิจภายหลัง การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 เสนอโดยประเทศไทยและแคนาดา และนำข้อมติดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาร่วมกันของที่ประชุมเต็มคณะ วาระที่ 4 และท้ายที่สุด ที่ประชุมเต็มคณะได้ร่วมให้การรับรองรายงานของสมาชิก รัฐสภาสตรี เพื่อเป็นแนวทางร่วมกันที่จะผลักดันให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป

การรายงานการประชุมคณะกรรมาธิการยกร่างข้อมติและแถลงการณ์ร่วม โดย นายกิตติ วะสีนนท์ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างข้อมติและแถลงการณ์ร่วม (Joint Communique) กล่าวรายงาน การประชุมต่อที่ประชุม ว่ารัฐสภาสมาชิกได้ร่วมกันทำหน้าที่อย่างหนักในการพิจารณาร่างข้อมติที่เกิดขึ้นจากการประชุมทั้ง 4 คณะ ก่อนได้ข้อยุติ 11 ร่างข้อมติ จากคณะทำงานด้านการเมืองและความมั่นคง คณะทำงาน ด้านเศรษฐกิจและการค้า คณะทำงานด้านสมาชิกรัฐสภาสตรี และคณะทำงานด้านความร่วมมือในระดับภูมิภาค อาทิ การฟื้นฟูอย่างยั่งยืนภายหลังการระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อส่งเสริมประชาธิปไตย สันติภาพและความมั่นคง การเสริมสร้างศักยภาพของสตรีเพื่อรับมือ กับวิกฤตการณ์ในอนาคต การพัฒนาและการขยาย การเข้าถึงสาธารณสุขมูลฐานอย่างเท่าเทียม การส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับภูมิภาค และการสนับสนุนความเข้าใจในความหลากหลายทางวัฒนธรรม โดยที่ประชุมให้การรับรองทั้ง 11 ร่าง

​นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ในฐานะประธาน APPF ทำหน้าที่ประธานในการประชุมคณะกรรมการบริหาร APPF กล่าวรายงานต่อที่ประชุมว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการพบปะกันครั้งแรกหลังจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ตามหัวข้อที่ได้กำหนดไว้ในแต่ละวาระการประชุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการพยายามไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ส่งเสริมความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกโดยมุ่งไปที่สันติภาพ ประชาธิปไตย และความเจริญรุ่งเรืองในกลุ่มภูมิภาค การส่งเสริมความร่วมมือ ทุกองค์การ การขยายความร่วมมือและการพัฒนาที่ยั่งยืน เสริมสร้างสันติภาพ และความมั่นคงในภูมิภาค การประชุมครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่ได้มีการประชุมโต๊ะกลมของยุวสมาชิกรัฐสภาในภูมิภาคที่จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารได้มีมติรับรองข้อบังคับการประชุม APPF และระเบียบวาระและกำหนดการประชุม APPF ครั้งที่ 30 ซึ่งมีการรับรองวาระและกำหนดการของการประชุมในปีนี้ และเรื่องอื่นๆ ที่ได้นำเสนอในการประชุม รวมไปถึงการทบทวนแนวทางการพิจารณาสมาชิกภาพของสมาชิกและวาระของการดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการบริหารทั้งในอนุภูมิภาค โดยเสนอให้รัฐสภาแต่ละประเทศพิจารณาวาระการดำรงตำแหน่ง ของคณะกรรมการบริหาร ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบ

ด้านการเมืองและความมั่นคง เน้นการส่งเสริมการทูตเชิงรัฐสภา ส่งเสริมบทบาทของสมาชิกรัฐสภาเป็นศูนย์กลางภายหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งเสริมประชาธิปไตยสันติภาพและความมั่นคงภายในภูมิภาค

​ด้านเศรษฐกิจและการค้า เป้าประสงค์คืออภิปรายในการส่งเสริมเศรษฐกิจชีวภาพเพื่อให้เกิดการพัฒนาที่เชื่อมโยง ส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกด้านความร่วมมือในภูมิภาคในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก เน้นย้ำไปที่ความสำคัญของรัฐสภาในการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน (BCG model) ส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนเพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ การพัฒนาและการขยายการเข้าถึงสาธารณสุขมูลฐานอย่างเท่าเทียม การส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับภูมิภาคและการสนับสนุนความเข้าใจในความหลากหลายทางวัฒนธรรม 
 
​การประชุมสมาชิกรัฐสภาสตรีเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการส่งเสริมศักยภาพของสตรีเพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์ในอนาคต และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสตรีในการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

​จากนั้น เป็นการรับรองข้อมติและแถลงการณ์ร่วม และการลงนามในแถลงการณ์ร่วม โดยหัวหน้าคณะผู้แทนแต่ละประเทศลงนามตามลำดับตัวอักษร เมื่อถึงลำดับของประเทศไทยขึ้นเวทีเพื่อลงนามในแถลงการณ์ร่วม ประเทศสมาชิกต่างยืนขึ้นพร้อมใจกันปรบมือเพื่อเป็นเกียรติในฐานะที่เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมของรัฐสภาไทย ที่ต้อนรับผู้เข้าร่วมการประชุมได้เป็นอย่างดี บรรยากาศเป็นไปด้วยความชื่นมื่น อบอุ่น ได้รับเสียงปรบมือดังกึกก้อง ถือเป็นความสำเร็จของรัฐสภาไทยในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในครั้งนี้ อีกทั้งที่ประชุมมีฉันทามติรับรองร่างมติต่างๆ รวม 11 ร่าง จนบรรลุเป็นแถลงการณ์ร่วมกัน เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมในอนาคต เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนและภูมิภาค



















กำลังโหลดความคิดเห็น