xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ เป็นประธานร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์สะพานมิตรภาพแห่งที่ 5 บึงกาฬ-บอลิคำไซ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายกฯ เป็นประธานร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์ (Groundbreaking Ceremony) โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ)
วันนี้ (28 ต.ค.) เวลา 09.10 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางถึงบริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 เพื่อเป็นประธานร่วมในพิธีวางศิลาฤกษ์ (Groundbreaking Ceremony) โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) ณ จังหวัดบึงกาฬ ประเทศไทย
ในการเดินทางครั้งนี้ มีบุคคลสำคัญฝ่ายไทยร่วมงานด้วย ดังนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และ นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางถึงบริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 ฝั่งไทย ณ จังหวัดบึงกาฬ นายกรัฐมนตรีพบปะประชาชนที่มาร่วมในพิธีวางศิลาฤกษ์ โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวทักทายประชาชนที่มาร่วมงานและรอต้อนรับ นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณประชาชนชาวบึงกาฬทุกคน ยินดีที่เห็นบ้านเมืองสงบเรียบร้อย โดยเข้าใจดีว่า ทุกวันนี้ยังมีปัญหาอยู่บ้าง รัฐบาลพร้อมดูแลและให้ความช่วยเหลืออย่างรอบด้าน ทั้งด้านอาชีพ ชีวิตความเป็นอยู่ การบริหารจัดการน้ำ รวมถึงระบบน้ำ โดยยินดีที่ได้มาวางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) ณ แขวงบอลิคำไซ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในวันนี้ และขณะนี้กำลังพิจารณาเรื่องสะพานแห่งที่ 6 พร้อมที่จะช่วยเหลือดูแลชาวบึงกาฬ ในวันนี้ได้เอาหัวใจ ความคิดถึง ความรักชาวกรุงเทพฯ มาด้วย ซึ่งยืนยันว่า คนไทยจะไม่ทิ้งกัน

จากนั้น นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้ลงเรือข้ามแม่น้ำโขงไปยังบริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 แขวงบอลิคำไซ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อร่วมพิธี

อนึ่ง เมื่อการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) แล้วเสร็จ จะทำให้เกิดการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจบริเวณด่านชายแดนฝั่งจังหวัดบึงกาฬ และชายแดนฝั่งแขวงบอลิคำไซ ให้เป็นอีกหนึ่งประตูการค้าที่สำคัญ ซึ่งจะมีส่วนกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และการค้าการลงทุนระหว่างประเทศไทย กับ สปป.ลาว ทำให้การขนส่งสินค้าจากไทยไปสู่ตลาดจีนตอนใต้คล่องตัวขึ้น โดยเฉพาะ “ยางพารา” ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจของจังหวัดบึงกาฬ อีกทั้งยังเป็นการอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้า จากไทยไปสู่ตลาดในจีนตอนใต้ และเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าจากภาคกลางของ สปป.ลาว สู่ท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบังของไทย เพื่อส่งออกทางทะเลต่อไปยังภูมิภาคอื่นๆ นอกจากนี้ สะพานมิตรภาพไทย-ลาว ยังช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ในระดับประชาชนของทั้งสองประเทศให้มีความใกล้ชิดและเดินทางไปมาหากันได้สะดวกยิ่งขึ้น เป็นการเพิ่มจุดเชื่อมต่อการเดินทางของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว เปิดเส้นทางท่องเที่ยว 3 ประเทศ “ไทย-ลาว-เวียดนาม” ภายหลังการคมนาคมเชื่อมโยงถึงกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น