วันนี้(23 ต.ค.)นายสฤษฎ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่าขณะนี้ประเทศไทยเกือบทุกจังหวัดประสบอุทกภัยน้ำท่วม การที่ผู้แทนจะเข้าไปช่วยเหลือประชาชนไม่สามารถกระทำได้ ซึ่งผิดเกี่ยวกับระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้งนั้นว่า ตนและพรรคภูมิใจไทยทุกคนพยายามเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้งกลาง เพื่อที่จะปลดล็อค ถ้าในกรณีที่ไม่ปลอดล็อคให้ผู้แทนเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในห่วง 180 วันก่อนเลือกตั้ง ก็คงจะต้องเป็นมติผ่อนผันคงจะมีอะไรออกมาเพื่อที่จะผ่อนผัน ให้นักการเมืองไปช่วยพี่น้องประชาชนในพื้นที่อุทกภัยจากน้ำท่วม หรือวาตภัย ในกรณีอย่างจังหวัดอุบลราชธานีน้ำท่วมเกือบทั้งจังหวัด ในภาคอีสานหลายจังหวัดนักการเมืองไปดูชาวบ้านอย่างเดียวมันเป็นไปไม่ได้ แล้วกลับมานอนไม่หลับชาวบ้านเขามีความเดือดร้อน แต่เราไปเห็นสภาพเขาแล้วเขาต้องการความช่วยเหลือ ก็เป็นที่มาของนักการเมืองบางครั้งทนไม่ได้ก็คงจะต้องให้ทีมงานหาคนไปช่วยเหลือ คือหมายความว่าหลังบ้านอีกแบบหนึ่งต่อหน้าอีกแบบหนึ่ง อย่างนี้มันเป็นเรื่องของการกระทำความผิดกฎหมาย ซึ่งตรงนี้มันเป็นความอึดอัดของนักการเมือง
เพราะฉะนั้นในเรื่องอย่างนี้ตนคิดว่าในทางภาคใต้อย่างจังหวัดกระบี่ของตน ที่อำเภอเกาะลันตาแผ่นดินสไลด์และน้ำท่วม ที่แหล่งท่องเที่ยวต่างๆถนนหนทางก็ไปไม่ได้ ชาวบ้านถูกวาตภัยพายุพัดเรือล้ม เรือหางยาวนำเที่ยวก็มีปัญหา จังหวัดภูเก็ตน้ำท่วมทั้งจังหวัด จังหวัดฝั่งอันดามันที่ติดชายทะเลก็น้ำท่วมทั้งหมด เพราะ
ฉะนั้นประเด็นข้อกฎหมายก่อนหน้า 180 วันก็ไม่มีปัญหา แต่ ณ วันนี้กฎหมายบังคับเราก็เข้าใจ นักการเมืองก็อยากปฏิบัติตามกฎหมาย แต่คราวนี้มันจะมีคู่แข่งเพื่อที่จะเอาจุดอ่อนอย่างนี้ไปร้องเรียนกันมา ก็เกิดความแตกแยกเกิดความบาดหมาง และเป็นภาระหน้าที่ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง ตนคิดว่าอย่างนี้น่าจะมีการยกเว้นหรือไปแก้กฎหมายเพื่อที่จะให้เป็นกรณีตัวอย่าง ลองไปดูซิครับว่าการที่บอกว่าไม่ให้หาเสียงไม่ให้ไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชน มันฝืนต่อความเป็นจริงฝืนต่อหลักธรรมชาติ และประเพณีไทยด้วย
นายสฤษฎ์พงษ์ กล่าวต่อไปว่าประกอบกับในขณะนี้จังหวัดท่องเที่ยวโดยเฉพาะที่จังหวัดกระบี่ จังหวัดภูเก็ต จังหวัดพังงา จังหวัดอันดามันทั้งหมด หรือจังหวัดอื่นก็ตามนักท่องเที่ยวเริ่มเข้ามาแล้ววันนี้ ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเช่น อินเดีย ฝรั่งแถบยุโรปเริ่มเข้ามาเที่ยว แต่เข้ามาเที่ยวเสร็จแล้วแหล่งท่องเที่ยวของเราถูกอุทกภัยถูกวาตภัยประชาชนเดือดร้อน อย่างนี้มันต้องรีบไปแก้ไขมิเช่นนั้นแล้ว ไวรัสโควิด 19 ทำลายเรามา 3 ปี แต่พอมาอย่างนี้ภัยธรรมชาติเข้ามาทำลาย แต่นักการเมืองจะเข้าไปช่วยจะเข้าไปสะท้อนปัญหาความคิดเห็น หรือว่าจะไปเอาหน่วยงานอะไรมาทุกคนกลัวหมดเลย
"เพราะฉะนั้นอันนี้เรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้งได้ไปทบทวน ว่าจะแก้ปัญหาในช่วงเวลาที่พี่น้องประชาชนได้รับภัยพิบัติทางธรรมชาติในขณะนี้อย่างไร เราในฐานะเป็นนักการเมืองที่ดีเราไม่อยากทำผิดกฎหมายในส่วนของการเลือกตั้ง พรรคภูมิใจไทยเข้าใจปัญหาอยากช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และเรารู้ว่าเราวางแผนในนโยบายการท่องเที่ยวเป็นภาพรวมยิ่งใหญ่ทั้งทั่วประเทศ แล้วเราเสียหายเมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาแต่สภาพปัญหาของเราในพื้นที่ มันเป็นสภาพปัญหาที่ไม่เอื้อประโยชน์ ไม่เอื้ออำนวยที่จะรองรับนักท่องเที่ยวได้ ผมกลัวว่านักท่องเที่ยวเขาเกิดอารมณ์เบื่อแล้วเขาก็จะไปเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงเรา อย่างสิงคโปร์ บาหลี หรือว่าประเทศเวียดนาม วันนี้เป็นการเปิดการแข่งขันในเรื่องของการท่องเที่ยวด้วย ผมคิดว่ามันเชื่อมโยงกัน ขอลองไปพิจารณาดู และฝากขอบคุณในส่วนของผู้หลักผู้ใหญ่ในคณะกรรมการการเลือกตั้งด้วย ถ้านำเรื่องนี้ไปพิจารณา ผมเชื่อว่าภาคการเมืองให้การสนับสนุน"
นายสฤษฎ์พงษ์ กล่าวอีกว่า เรื่องของรัฐบาลคิดว่ายังอยู่ได้ควรจะปรับคณะรัฐมนตรี ปรับเล็กไปและยังไม่มีความจำเป็น ณ วันนี้บ้านเมืองกำลังเดินต่อได้ ตนคิดว่าแรงกระเพื่อมในเรื่องของการปรับตำแหน่งว่างในส่วนของรัฐบาลนั้น ก็ปรับไปตามพรรคการเมืองของพรรคร่วมรัฐบาล และก็ทำหน้าที่เพราะเหลือไม่กี่เดือนแล้วเราก็จะต้องให้ประชาชนทบทวนใหม่ว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นอยู่นั้นทำงานเข้าตาทำงานให้พี่น้องภาคประชาชนพึงพอใจหรือไม่ คนไหนที่ไม่ได้ทำงานก็สอบตกไปพี่น้องประชาชนก็ไม่เลือกกลับมา แต่สำหรับประชาชนที่ทำงานดีเข้าถึงพี่น้องประชาชน ตนเชื่อเหลือเกินว่าพี่น้องประชาชนก็คงจะเลือกและให้ความไว้วางใจในการทำงานในหน้าที่ต่อไปอีกสมัยหนึ่ง