“ป่าชุมชนโคกป่าซี” จ. กาฬสินธุ์ คว้ารางวัลป่าชุมชนชนะเลิศระดับประเทศ ประจำปี 2565 จากโครงการ “คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน” ราช กรุ๊ป - กรมป่าไม้ ขับเคลื่อนพลังชุมชนเพิ่มผืนป่า “วราวุธ ศิลปอาชา” รมว.ทส.ชี้ป่าชุมชนเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ปัญหาให้กับโลก ขณะที่อธิบดีกรมป่าไม้ เร่งจัดตั้งป่าชุมชนทั่วประเทศ ให้ครบ 15,000 ป่าชุมชน
เมื่อวันที่ 19 ต.ค.กรมป่าไม้ และ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จัดพิธีมองรางวัลถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โครงการ “คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน” ประจำปี 2565 มีนายวราวุธ ศิลปอา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เป็นประธาน กล่าวว่า โครงการป่าชุมชน ปัจจุบันมี 12,017 ถือเป็นอนาคตของลูกหลานและคนรุ่นต่อไป ในอนาคตกรมป่าไม้ตั้งเป้าจะทำให้ได้ 15,000 ป่าชุมชน ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อประเทศและประชาชน ป่าชุมชน คือการสร้างความสมดุลให้กับธรรมชาติและเป็นการแก้ปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้งที่ต้นเหตุ เป็นสิ่งที่ปรับสมดุลให้กับธรรมชาติและเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ปัญหาให้กับโลก
ด้านนายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส.ได้ให้ความสำคัญกับการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับพี่น้องประชาชน จึงได้มอบหมายให้กรมป่าไม้ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนที่อยู่รอบ ๆ ป่า เข้ามามีส่วนร่วมกับภาครัฐในการบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ให้เกิดความยั่งยืน ในรูปแบบของป่าชุมชน จนมาถึงวันนี้ประเทศไทย มีป่าชุมชนมากกว่า 12,000 ป่าชุมชน ชุมชนมีส่วนร่วม จำนวน 13,748 หมู่บ้าน เนื้อที่มากกว่า 6.6 ล้านไร่ กรมป่าไม้จะเร่งจัดตั้งป่าชุมชนทั่วประเทศ ให้ครบ 15,000 ป่าชุมชน เพื่อให้ชุมชนได้เข้ามามีส่วนร่วมดูแล รักษาทรัพยากรป่าไม้ และใช้ประโยชน์จากผลิตผลในป่าชุมชนได้อย่างยั่งยืน
ขณะที่ น.ส.ชูศรี เกียรติขจรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าบริษัทฯ ได้ดำเนินโครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชนเพื่อสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชนในการบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ในท้องถิ่น ตลอดระยะเวลา 15 ปี ได้สนับสนุนเงินรางวัลแก่ป่าชุมชนที่ได้ผ่านเกณฑ์ของป่าชุมชนตัวอย่างรวม 1,400 แห่ง เป็นจำนวนเงินรวม44.4 ล้านบาท ป่าชุมชนที่ได้รับรางวัลทั้งหมดมีพื้นที่ป่ารวม 1,283,169 ไร่ ซึ่งสามารถกักเก็บและดูดกลับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 8,083,964 ตันคาร์บอน บริษัทฯ มีความภูมิใจที่ได้ทำงานร่วมกับภาครัฐและชุมชนพลิกฟื้นและขยายพื้นที่ป่าของประเทศให้เพิ่มขึ้นและมีความอุดมสมบูรณ์จนชุมชนและสังคมได้รับผลประโยชน์จากระบบนิเวศ
จากนั้นมีการประกาศรางวัลรางวัลป่าชุมชนชนะเลิศระดับประเทศ ประจำปี 2565 ปรากฎว่า ป่าชุมชนโคกป่าซี ต.กุดค้าว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ได้รับรางวัลป่าชุมชนชนะเลิศระดับประเทศ ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และเงินรางวัล 200,000 บาท
รางวัลรองชนะเลิศระดับประเทศ จำนวน 3 รางวัล ได้รับถ้วยรางวัลเกียรติยศและเงินรางวัลแห่งละ 150,000 บาท ได้แก่ ป่าชุมชนบ้านต้าหัวฝาย หมู่ที่ 3 ต.ต้า อ.ขุนตาล จ.เชียงราย ป่าชุมชนบ้านชัฎน้ำเงิน หมู่ที่ 8 ต.หนองกร่าง อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ป่าชุมชนบ้านนา หมู่ที่ 6 ต.เขาต่อ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่
รางวัลป่าชุมชนระดับภาค จำนวน 4 รางวัล ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณและเงินรางวัลแห่งละ 100,000 บาท ภาคเหนือ ป่าชุมชนบ้านม่วงเจ็ดต้น อ.บ้านโคก จ.อุตรดิตถ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ป่าชุมชนบ้านดอนกอย อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ภาคกลางและตะวันออก ป่าชุมชนชนบ้านเขาสามยอด อ.โคกเจริญ จ.ลพบุรีภาคใต้ ป่าชุมชนบ้านบนควน อ.รัตภูมิ จ.สงขลา
รางวัลป่าชุมชนรองชนะเลิศระดับภาค จำนวน 4 รางวัล ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณและเงินรางวัลแห่งละ 50,000 บาท ภาคเหนือ ป่าชุมชนบ้านปางมะกล้วย อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ป่าชุมชนบ้านนามาลา อ.นาแห้ว จ.เลย ภาคกลางและตะวันออก ป่าชุมชนชนบ้านหนองประดู่ อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ภาคใต้ ป่าชุมชนชนควนออก อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช
ประเภทการประกวดป่าชุมชนดีเด่นด้านการพัฒนา จำนวน 4 รางวัล จะได้รับถ้วยรางวัลและเงินรางวัลแห่งละ 50,000 บาท ได้แก่ ป่าชุมชนบ้านห้วยขึมหมู่ที่3 ต.น้ำเลา อ.ร้องกวางจ.แพร่ ป่าชุมชนบ้านห้วยขมนอกหมู่ที่10 ต.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย ป่าชุมชนบ้านคลองห้วยหวาย หมู่ที่21 ต.แม่เปิน อ.แม่เปิน จ.นครสวรรค์ ป่าชุมชนตำบลเจริญสุข หมู่ที่ 1, 12, 14 ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์