หนุ่มใหญ่ปรี่ชก “ศรีสุวรรณ จรรยา” หน้า บก.ปอท. ขณะมาร้องเรียน “โน้ส อุดม” ทอล์กโชว์ “เดี่ยวไมโครโฟน 13” ผิดกฎหมายหรือไม่ เหตุไม่ชอบใจ เพราะทำนิสัยร้องเรียนไปทั่ว
วันนี้ (18 ต.ค.) นายวีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล บุกทำร้าย นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาฯ สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ขณะเข้าพบพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เพื่อให้ตรวจสอบ นายอุดม แต้พานิช กรณีทอล์กโชว์เดี่ยว 13
ทั้งนี้ ก่อนเกิดเหตุ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เพื่อขอให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามครรลองของกฎหมาย กรณี นายอุดม แต้พานิช หรือ โน้ส แสดงทอล์กโชว์เดี่ยวไมโครโฟน-13 ซึ่งเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งมีการใช้ถ้อยคำบางคำพูดอันอาจมีลักษณะส่งเสริมให้บุคคลร่วมชุมนุมสาธารณะที่ผิดกฎหมาย ซึ่งอาจขัดต่อความมั่นคงของรัฐ และหรือละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น และหรือขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน อันเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ประกอบ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2560 หรือไม่ อย่างไร
ระหว่างที่ นายสุวรรณ ให้สัมภาษณ์ฺอยู่นั้น นายวีรวิชญ์ เดินเข้ามาทำร้ายร่างกายนายศรีสุวรรณกลางวงสื่อ ทั้งชกต่อย เตะ จนนายศรีสุวรรณ ต้องถอยไปตั้งหลัก และมีตำรวจเข้ามาล็อกตัวนายวีรวิชญ์ไปสอบสวน เบื้องต้นทราบว่า นายวีรวิชญ์ ไม่พอใจที่นายศรีสุวรรณ มักจะยื่นเรื่องร้องเรียนไปทั่ว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายศรีสุวรรณ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า บทพูดของการโชว์เดี่ยวไมโครโฟน-13 มีบางคำพูด อาทิ “วันนี้รถติดเยอะหน่อย มีม็อบไล่คนที่เราอยากจะไล่เขา ก็ให้อภัยเขาไปนะครับ ถือว่าเขาทำงานแทนเรา” นั้น จะสื่อความหมายไปอย่างอื่นมิได้ นอกเสียจากการพูดเพื่อที่จะสื่อหรือโฆษณาให้ผู้ฟังหรือผู้ชม ได้เข้าใจตรงกันว่า มีเจตนาหรือจงใจที่จะให้ทุกคนที่รับฟังและรับชมให้อภัยกลุ่มผู้ที่ออกมาชุมนุมสาธารณะที่เกิดขึ้นหลายๆ ครั้ง เมื่อช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานั้น “ทำงานแทนเรา” นั่นเอง โดยที่การชุมนุมเหล่านั้น ล้วนผิดกฎหมาย ฝ่าฝืนข้อกำหนดใน ม.9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2548 และมีการสอดไส้การชุมนุมเป็นเรื่องการยกเลิก ปอ.112 และการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ มิใช่การชุมนุมเพื่อขับไล่ผู้นำรัฐบาลแต่อย่างใดไม่ กรณีดังกล่าวจึงไม่ใช่เป็นเรื่องส่วนตัวของบุคคลใดบุคคลหนึ่งแต่อย่างใด หากแต่อาจเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความผิดต่อแผ่นดิน อาจกระทบต่อความมั่นคง และอาจขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน อันเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.84 ม.85 และหรือ ม.87 ประกอบ ม.14 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2560 ต้องระวางโทษกึ่งหนึ่งของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นด้วย และหรือต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงต้องนำความพร้อมพยานหลักฐานมาแจ้งต่อ บก.ปอท. ให้ใช้อำนาจตามกฎหมายในการตรวจสอบ สอบสวน กรณีดังกล่าวว่าเข้าข่ายความผิดอาญาต่อแผ่นดินหรือไม่ หากพบว่าเป็นความผิดให้ดำเนินการตามครรลองของกฎหมายต่อไป