รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินหน้าปราบปรามยาเสพติด ทั้งการผลิต การนำเข้า การนำผ่าน และการลักลอบจำหน่าย โดยสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่อปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มงวด ล่าสุด กรมศุลกากรได้จับกุมการลักลอบการขนย้ายเฮโรอีน ที่ซุกซ่อนมากับสินค้าทางพัสดุไปรษณีย์ ณ สำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำนวน 7,210 กรัม มูลค่ากว่า 21 ล้านบาท จากประเทศกัมพูชา ผ่านประเทศไทย โดยมีปลายทางที่ไต้หวัน
วันนี้ (17 ต.ค.) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินหน้าปราบปรามยาเสพติด ทั้งการผลิต การนำเข้า การนำผ่าน และการลักลอบจำหน่าย โดยสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่อปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มงวด
ล่าสุด กรมศุลกากรได้จับกุมการลักลอบการขนย้ายเฮโรอีนที่ซุกซ่อนมากับสินค้าทางพัสดุไปรษณีย์ ณ สำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำนวน 7,210 กรัม มูลค่ากว่า 21 ล้านบาท จากประเทศกัมพูชา ผ่านประเทศไทย โดยมีปลายทางที่ไต้หวัน
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรมศุลกากรร่วมมือกับบริษัทโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ ภายใต้โครงการสร้างภาคีความร่วมมือเพื่อสกัดกั้นการขนส่งยาเสพติดทางพัสดุไปรษณีย์และสินค้าเร่งด่วนระหว่างประเทศ (Narcotics Interdiction on Postal and Express Consignment) เฝ้าระวังการลักลอบลำเลียงยาเสพติดผ่านช่องทางศุลกากร โดยมี ชุดปฏิบัติการ Airport Interdiction Task Force (AITF) ประกอบด้วย กรมศุลกากร สำนักงาน ป.ป.ส. กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย ร่วมกันตรวจสอบ
“นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการกวาดล้างกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในทุกขั้นตอนทั้งการผลิต การนำเข้า การนำผ่าน และการลักลอบจำหน่ายยาเสพติด และสารตั้งต้นมาโดยตลอด ซึ่งนายกรัฐมนตรีขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ร่วมกันทำงานเพื่อปราบปรามยาเสพติดมาอย่างต่อเนื่อง เชื่อมั่นว่า หากทุกหน่วยงานร่วมมือกันจับกุม ดำเนินคดี และลงโทษผู้กระทำความผิด ย่อมทำให้สถานการณ์ด้านยาเสพติดดีขึ้นอย่างแน่นอน” นางสาวรัชดา กล่าว