xs
xsm
sm
md
lg

สถานทูตอังกฤษรำลึก 2 พระมหากษัตริย์ผู้ทรงครองราชย์ยาวนานที่สุด “อัษฎางค์” 15.52 น.ตะวันลับลาจากขอบฟ้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ 2 พระมหากษัตริย์ผู้ทรงครองราชย์ยาวนานที่สุด
เทิดพระเกียรติ! สถานทูตอังกฤษรำลึก 2 พระมหากษัตริย์ผู้ทรงครองราชย์ยาวนานที่สุด “อัษฎางค์” เผยความในใจ สูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ “15.52 น.ตะวันลับลาจากขอบฟ้า” จวก “ตลก” แซะเรื่องสนับสนุนคนดี ซึ่ง “ร.๙” เคยสอนไว้ มันหมายความว่ายังไง?

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (13 ต.ค. 65) สื่อสังคมออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น เฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ของสถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย ได้โพสต์รูป พร้อมเนื้อหาว่า เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย ขอนำพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สอง และ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ออกเผยแพร่อีกครั้งเพื่อเป็นการระลึกถึงพระมหากษัตริย์ผู้ทรงครองราชย์ยาวนานที่สุดใน สหราชอาณาจักรและประเทศไทย (จากไทยโพสต์)

ภาพ ในหลวง ร.๙ กับความทรงจำของ “อัษฎางค์ ยมนาค” ขอบคุณข้อมูล-ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค
ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค ของนาย อัษฎางค์ ยมนาค โพสต์ข้อความระบุว่า

“บันทึกประวัติศาสตร์ 13 ตุลาคม 2559
ตอนที่ 1 “15.52 น.ตะวันลับลาจากขอบฟ้า”

สมัยเด็กๆ ตั้งแต่จำความได้ ก็ดูข่าวในพระราชสำนักทุกวัน อาจจะพูดได้ว่า เห็นในหลวงออกเยี่ยมเยือนประชาชนแทบจะครบทุกวัน

แต่อยู่ออสเตรเลียมานาน โดยไม่มีโอกาสได้ชมข่าวในพระราชสำนัก หลายวันก่อนทราบข่าวจากแถลงการณ์สำนักพระราชวัง เรื่องการประชวรของพระเจ้าอยู่หัว เมื่ออ่านรายละเอียดของพระอาการแล้ว ภายในจิตใจลึกๆ ได้บอกอะไรบ้างอย่างแล้ว แต่แกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน

วันต่อๆ มา เริ่มเห็นคนถวายพระพรกันมากขึ้น และมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนั้นเริ่มรู้สึกว่าหลายคนคงมีอาการเดียวกับเรา

วันที่ 13 ซึ่งที่เมืองไทยยังเป็นช่วงเวลาบ่ายๆ เย็นๆ แต่ที่ออสเตรเลียนั้นเป็นเวลาค่ำแล้ว ค่อยๆ เริ่มมีสิ่งที่เรียกว่าข่าวลือ ในโลกโซเชี่ยล โดยเฉพาะในลายที่หนักขึ้นทุกนาที

ในขณะที่ทางราชการก็ออกประกาศให้หยุดลือ ซึ่งในจำนวนข่าวลือทั้งหลายที่ผมได้รับ ก็พอจะดูออกว่าอันไหนจริงหรือไม่จริง

แม้แต่ตัวเองก็โพสต์ลงในเฟซบุ๊กให้หยุดข่าวลือ เพราะส่วนใหญ่เป็นภาพและข่าวลวงที่ทำให้ผู้คนสับสนและกังวลใจ

แต่แล้วในที่สุดก็มีเพื่อนส่งข้อความสั้นๆ แบบมีนัยยะว่า
“ดวงตะวันลับลา จากขอบฟ้า 15.52”

หัวใจหล่นลงไปทันที แต่เพียงเสี้ยววินาทีก็แกล้งทำเป็นเหมือนไม่เห็น แล้วกลับไปทบทวนคำประกาศที่ว่า ให้ฟังประกาศจากสำนักพระราชวังเท่านั้น

ช่วงนั้นมีข่าวว่ามีการเตรียมตัวที่จะประกาศข่าวสำคัญ หลังจากนับเวลารอคอยมาพักใหญ่ เวลา 1 ทุ่มของเมืองไทยก็มาถึง แต่ในขณะนั้นเป็นเวลา 5 ทุ่มที่ออสเตรเลียแล้ว

และแล้วคำที่ไม่อยากได้ยินก็ถูกประกาศออกมา

มันไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกออกมาเป็นคำพูดหรือตัวอักษรได้อย่างไร

ไม่ว่าจะจมอยู่ในความโศกเศร้าขนาดไหนแต่สติก็เตือนอยู่ตลอดเวลาว่า ต้องรีบเข้านอน แต่ในเวลานั้นสติก็สู้อารมณ์ไม่ได้ กว่าสติจะเตือนตัวเองได้สำเร็จก็เหลือเวลาไม่ถึงชั่วโมงแล้วที่จะต้องออกไปทำงาน

ก่อนจะหลับนึกขึ้นได้จึงส่งแมสเสจเข้าไปในกลุ่มเพื่อนร่วมงาน แจ้งข่าวการสวรรคตและเข้างานสายสัก 1 ชั่วโมง เพื่อจะได้งีบสักพัก คืนวันนั้นจึงนอนไปไม่ถึงชั่วโมงครึ่ง

เมื่อไปถึงที่ทำงาน เจอน้องสาวชาวเกาหลีเป็นคนแรก ซึ่งเธอคงอ่านแมสเสจแล้ว เพราะเธอถามสั้นๆ แบบไม่กล้ามองหน้า คงเพราะกลัวที่จะถามถึงเรื่องที่น่าเสียใจ ว่าโอเคมั้ย

หลังจากนั้น ก็เริ่มมีเพื่อนร่วมงานเข้ามาถามคำถาม บางคนเดินเข้ามาลูบหลังพร้อมกับถามว่า เป็นยังไงบ้าง แต่เราในตอนนั้นเหมือนน้ำที่เต็มแก้วและพร้อมจะล้นตลอดเวลา ยิ่งการมาลูบหลังปลอบใจนั้นยิ่งทำให้พูดออกมาไม่ได้

ไอ้เราก็มีอายุเป็นผู้ใหญ่มากแล้ว แถมเป็นลูกผู้ชาย และที่นี่มันไม่ใช่เมืองไทย ทำให้เราไม่อยากที่จะต้องร้องไห้ออกมา ในที่สุดต้องเข้าไปแอบร้องไห้ในห้องน้ำ

ไม่น่าเชื่อว่าข่าวมาถึงชาวต่างประเทศได้อย่างรวดเร็ว เพราะหลายๆคนทราบข่าวการสวรรคต รวมไปถึงการรับรู้ในความรักที่คนไทยมีต่อในหลวงนั้นมากมาย

บางคนรู้ว่า ทำไมคนไทยถึงเสียใจมากมาย บางคนไม่รู้ จึงต้องตอบคำถามว่า ทำไมคนไทยเสียใจกันมากขนาดนี้ ทำไมคนไทยรักในหลวงมากขนาดนี้

ผมเงียบไปตลอดครึ่งค่อนวันจนน้องสาวเกาหลีที่เป็นคนแรกที่ทักแบบไม่กล้ามองหน้าคงเริ่มรู้สึกว่าเสียใจมาก และพยายามทำใจ เดินเข้ามาลูบหลังเพื่อช่วยปลอบโยนอยู่พักใหญ่

กว่าผมจะทำใจให้สงบและตอบคำถามที่เพื่อนๆ ผลัดกันวนเวียนมาถามได้ ก็ผ่านไปครึ่งค่อนวันแล้ว

มีตอนหนึ่งที่ผมคุยให้เพื่อนฟังว่า ผมกำลังจะไปเมืองไทยเดือนธันวา เพราะน้องสาวจะแต่งงานกลางเดือน แต่ผมจะบินไปตั้งแต่ต้นเดือน เพราะตั้งใจจะไปร่วมงานเฉลิมพระชนมพรรษา แต่ตอนนี้ฝันมันสลายไปแล้ว พร้อมๆ กับใจที่สลายลงไป ซึ่งคำพูดเรื่องนี้ทำให้เพื่อนๆ ชาวต่างชาติเข้าใจถึงความโศกเศร้าไปตามๆ กัน

พระเกียรติยศเลื่องลือ ระบือไกลจริงๆ เพราะเพื่อนต่างชาติจำนวนมากทราบข่าวการสวรรคตตั้งแต่เช้าตรู่ และทุกคนรับรู้ถึงความรักและความเสียใจของคนไทยอย่างลึกซึ้ง

ทุกคนทราบพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจที่ทรงทำเพื่อประเทศชาติและประชาชนคนไทยเป็นอย่างดี ซึ่งผมคิดไม่ถึงเลยว่าชาวต่างชาติจะรับรู้เรื่องราวเหล่านี้ เพราะเราเป็นเพียงประเทศเล็กๆ ที่ไม่ได้ร่ำรวยและยิ่งใหญ่ แต่เพราะเรามีพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ ทำให้เป็นที่โจษขานไปทั่วโลกแบบนี้”

ภาพ “ตลก” แซะเรื่องสนับสนุนคนดี ซึ่งในหลวง ร.๙ เคยสอนไว้ ขอบคุณข้อมูล-ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เพจเฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค ยังโพสต์ด้วยว่า

“แซะเรื่องสนับสนุนคนดี ซึ่ง ร.๙ เคยสอนไว้
มันหมายความว่ายังไง ?

ดาวตลกพูดเรื่อง
•ทำไมไม่เอาคนเก่งมาทำงาน
เอาคนดีมาทำงานไม่ได้
การส่งเสริมคนดี กับความชำนาญการในการทำงานมันคนละเรื่องเดียวกัน การพูดแบบนั้นมันบ่งบอกว่า ไม่มีความเข้าใจ แต่ยังกล้าออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งเป็นการกระทบถึงคำสอนของในหลวง ร.๙ โดยไม่รู้ว่าตั้งใจหรือไม่

•บอกว่า นายกฯ ไม่เคยบอกว่าจะขับเคลื่อนประเทศชาติไปทางไหน

ทั้งที่นายกฯ ประกาศเป้าหมาย และบรรลุไปหลายเป้าหมายแล้ว

นี่แหละฟังดาวตลก
ที่อยากโชว์ว่า “เป็นมากกว่าตัวตลก”
สุดท้ายก็โชว์ว่า “ก็เป็นได้แค่ตัวตลก”
“ฉลาดพูด ตอนไม่พูดฉลาดกว่า”
เฮียพูดไว้เอง เอาคำพูดตัวเองกลับไปทบทวนเสียด้วย”

แน่นอน, สิ่งที่คนไทยมีหัวใจเดียวกันในวันนี้ก็คือ การย้อนรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของ “ในหลวง ร.๙”

และไม่แต่เฉพาะคนไทยเท่านั้น แม้แต่ สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย ยังขอนำพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สอง และพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ออกเผยแพร่อีกครั้งเพื่อเป็นการระลึกถึงพระมหากษัตริย์ผู้ทรงครองราชย์ยาวนานที่สุดในสหราชอาณาจักรและประเทศไทย

ส่วนคนไทยบางคน บางกลุ่มจะคิดอย่างไร ก็ถือเสียว่า เป็นความเห็นต่าง เป็นสิทธิเสรีภาพก็แล้วกัน!?


กำลังโหลดความคิดเห็น