“ลูกสาวนายใหญ่” นำคณะ พท.ให้กำลังใจชาว อ.ผักไห่ อยุธยา ประสบภัยน้ำท่วม เล็งปัดฝุ่นแผนบริหารจัดการน้ำสมัย “อาปู” อ้ำอึ้ง “เศรษฐา ทวีสิน” แคนดิเดตนายกฯ พลิ้วไม่ขอเอ่ยชื่อ แต่หากเป็นคนเก่ง ถือเป็นกำไรประเทศ “ประเสริฐ” ชี้ ยังเร็วเกินไป ปัดตอบ “ธรรมนัส” คืนรัง
วันนี้ (11 ต.ค.) ที่ ต.บ้านใหญ่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส. นครราชสีมา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายจิรทัศ ไกรเดชา, นายอัณณพ อารีย์วงศ์สกุล และ นายอาทิตย์ ภาคอินทรีย์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย เดินทางเข้าพบปะ และเยี่ยมเยียนให้กำลังใจประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่
โดยคณะของ น.ส.แพทองธาร ได้ขึ้นเรือเพื่อให้กำลังใจกับประชาชนที่ติดน้ำท่วมอยู่ภายในบ้านพัก และทันทีที่คณะของ น.ส.แพทองธาร มาถึงบ้านเรือนของประชนชน ได้มีประชาชนต่างพายเรือมาพบกับคณะ พร้อมทั้งพูดถึงความลำบากในการประสบอุทกภัย โดยประชาชนบอกว่าถูกน้ำท่วมมาเป็นเวลา 3 เดือนแล้ว และยังไม่มีหน่วยงานรัฐเข้ามาให้การช่วยเหลือ และยังขาดอาหารและเครื่องอุปโภคบริโภค
ต่อมาที่วัดลาดชิด ต.ลาดชิด อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา น.ส.แพทองธาร กล่าวกับประชนชนที่มาต้อนรับ ว่า จากการลงพื้นที่รู้สึกเห็นใจประชาชนที่ประสบอุทกภัย โดยเมื่อปี 2557 รัฐบาลพรรคเพื่อไทยขณะนั้นได้เคยมีนโยบายที่ดีในการบริหารจัดการน้ำ แต่ไม่มีโอกาสได้ทำ จึงอยากบอกพี่น้องประชาชนอีกครั้งว่าถ้าพรรคเพื่อไทยได้มีโอกาสหลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง เรามั่นใจจะจัดการดูแลเรื่องน้ำได้ดีกว่านี้แน่ๆ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความเป็นได้ในการผลักดันโครงการแผนบริหารจัดการน้ำในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร วงเงิน 3.5 แสนล้านบาท หากได้กลับมาเป็นรัฐบาล น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เรื่องการบริหารจัดการน้ต้องมีในนโยบายพรรคเพื่อไทยอย่างแน่นอน แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป คงต้องมาดูในรายละเอียดอีกครั้ง โดยต้องถามความเห็นกับทางพรรคเพื่อไทย และผู้เชี่ยวชาญทางด้านน้ำก่อน
นายประเสริฐ กล่าวเสริมว่า เดิมพรรคเพื่อไทยเคยมี แผนบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ซึ่งขณะนั้นพรรคได้มีแผนบูรณาการน้ำทั้งระบบ แต่ระหว่างนั้นมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านการเมืองก่อน ทำให้แผนนั้นหยุดชะงักลง ถ้า ถ้าพรรคเพื่อไทยมีโอกาสได้เป็นรัฐบาลจะยึดแผนดังกล่าวอยู่ แต่ก็ต้อง มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายไปบ้าง เพราะด้วยสถานการณ์ในวันนี้กับวันนั้นมีความแตกต่างกันมา10 ปีแล้วอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวว่า กลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย จะย้ายเข้ามาอยู่กับพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ กล่าวว่า ยังไม่ขอแสดงความคิดเห็น เพราะขณะนี้การเมืองเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ฉะนั้น ขอดูความชัดเจนในระยะหนึ่ง โดยพรรคเพื่อไทยมีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาที่จะรับคนสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคอยู่แล้ว ฉะนั้น การจะพูดถึงในตอนนี้ยังอาจจะดูเร็วไป
ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ตอบคำถามถึงกระแสข่าวที่มีชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ที่จะมาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ร่วมกับ น.ส.แพทองธาร ว่า จริงๆ แล้วไม่ต้องระบุชื่อก็ได้ ขอแค่คนพร้อมและมีความสามารถ การเมืองไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้ามีคนที่อยากจะเข้ามาช่วย ต้องเปิดโอกาสให้เข้ามา และขอให้มองอนาคตประเทศและประชาชนเป็นที่ตั้ง
“ประเด็นสำคัญ คือ ขอให้มีคนเก่งเข้ามา คือ กำไรของประเทศ ไม่ว่าจะอย่างไรพรรคเพื่อไทยสนับสนุนเต็มที่อยู่แล้ว เพราะอยากให้ประเทศไปต่อ ส่วนจะเป็นใครนั้น ยังไม่ขอระบุชื่อ ขอแค่คนที่มีความพร้อม ต้องรอลุ้นไปก่อน” น.ส.แพทองธาร กล่าว
ขณะที่ นายประเสริฐ กล่าวเสริมว่า เรื่องนี้ยังต้องผ่านขั้นตอนของกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรค อีกไม่นาน ขอให้ใจเย็นๆ.
