รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลเร่งเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการเรื่องร้องทุกข์ของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สายด่วน 1111 ให้รวดเร็ว ตรวจสอบติดตามได้ มีกรอบเวลาแก้ไขชัดเจน
วันนี้ (11 ต.ค..) น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2565 รับทราบและเห็นชอบการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการเรื่องร้องทุกข์ของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กับหน่วยงานเครือข่าย (สปน.) ดังนี้
1.พัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพระบบการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์
1.1 ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล พัฒนาแพลตฟอร์มของระบบการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ เช่น ระบบติดตามผลเรื่องร้องทุกข์ เพื่อให้ประชาชนสามารถติดตามผลความคืบหน้า ได้ด้วยตนเองได้ทุกที่ทุกเวลา และระบบการประเมินติดตามผลความพึงพอใจ โดยประชาชนสามารถประเมินให้กับหน่วยงานได้ทันที
1.2 ด้านกระบวนการและฐานข้อมูลขับเคลื่อนการจัดตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียน แบบเบ็ดเสร็จ โดยบูรณาการเชื่อมโยงฐานข้อมูลเรื่องร้องทุกข์ของหน่วยงานราชการ กับระบบการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ของศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111
2. ด้านกลไกและวิธีการจัดการเรื่องร้องทุกข์เช่น
2.1 จัดให้มีช่องทางการรับเรื่องร้องทุกข์เช่น จุดบริการประชาชน1111 ตู้ ป.ณ.1111 สายด่วนของรัฐบาล 1111 เว็บไซต์ www.1111.go.th และ โมบายแอปพลิเคชัน PSC 1111
2.2 บูรณาการความร่วมมือในการดำเนินการในระดับกระทรวง/กรม จังหวัด รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอิสระ 330 หน่วยงาน
2.3 ปรับเปลี่ยนแนวทางการประสานงานเรื่องร้องทุกข์กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตช.)โดยส่งเรื่องร้องทุกข์ที่อยู่ในหน้าที่และอำนาจของ ตช.ให้สำนักงานจเรตำรวจพิจารณาดำเนินการโดยส่งเรื่องต่อให้กองบัญชาการ/ตำรวจภูธรภาคดำเนินการและติดตาม เรืองร้องทุกข์เพื่อรายงานผลให้ทราบ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนา “ระบบบริหารจัดการเรื่องร้องเรียนของ สนง. จเรตำรวจออนไลน์” โดย สปน. ได้ประชุมหารือร่วมกันเพื่อหาแนวทางการประสานงานเรื่องร้องทุกข์ร่วมกัน และเสนอ นายกรัฐมนตรีเห็นชอบตามแนวทางดังกล่าว
2.4 กำหนดระยะเวลาแล้วเสร็จของงาน โดยหากมีกฎหมาย ระเบียบกำหนดไว้ เป็นการเฉพาะให้หน่วยงานพิจารณาการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายเป็นล าดับแรก ซึ่งปัจจุบันมีหน่วยงานที่แจ้งข้อมูลระยะเวลาแล้วเสร็จ 18หน่วยงาน ได้แก่ (1) กรณีเรื่องร้องเรียนทั่วไป กาหนดระยะเวลาแล้วเสร็จในเบื้องต้น 15วันทำการ (2) กรณีเรื่องร้องเรียนที่มีความยุ่งยากซับซ้อน ยังไม่สามารถกำหนดระยะเวลาได้ชัดเจน และ (3) กรณีการกหนดระยะเวลาเป็นภาพรวม เช่น 30 วันทำการ เป็นต้น
พร้อมกันนี้ยังมอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการพัฒนาปรับปรุงการให้บริการ/ การปฏิบัติงานเรื่องร้องทุกข์ดังนี้ 1. ขอความร่วมมือให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดกรอบระยะเวลาแล้วเสร็จ ในการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องทุกข์ เพื่อให้ประชาชนทราบถึงระยะเวลา ในการดำเนินการแก้ไขปัญหา ซึ่งจะช่วยให้ลดเวลารอคอยและลดการติดตามเรื่อง กับผู้ปฏิบัติงาน 2. ผลักดันให้เกิดการขยายผลและเชื่อมโยงเครือข่ายด้านการจัดการเรื่องร้องทุกข์ ไปยังระดับภูมิภาคและท้องถิ่น เพื่อให้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้รับการดูแลแก้ไขอย่างครอบคลุมและเป็นธรรม น.ส. ทิพานัน กล่าว