ข่าวปนคน คนปนข่าว
**“เสียงหัวเราะ” สวนโศกนาฎกรรม เด้ง “พล.ต.ต.ไพศาล” พ้นโฆษก ตร.ภาค 4
แม้จะใช้เวลาไตร่ตรองนานไปหน่อย แต่ก็ยังพอจะกล่าวชื่นชม “พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ” ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ได้บ้าง ที่ตอบสนองต่อ “ความรู้สึก” ของประชาชน สั่งสอนคนของตัวเองในสังกัด ด้วยการสั่งปลด ”รองเต๋อ”... “พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์” รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 4 พ้นตำแหน่งโฆษก บช.ภ.4 และมีคำสั่งแต่งตั้งให้ “พล.ต.ต.พุฒิพงษ์ มุสิกูล” รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เป็นโฆษก บช.ภ.4 แทน
ว่ากันว่า เหตุที่ ผบช.ภ.4 ปลด “พล.ต.ต.ไพศาล” มาจาก “ไวรัล” เสียง “หัวเราะ” ขณะโฆษกตำรวจ ภาค 4 โฟนอินให้สัมภาษณ์สื่อ ถึงความคืบหน้า กรณีเหตุกราดยิงที่หนองบัวลำภู เมื่อหลายวันก่อน จนถูกโซเชียลฯ วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ถึงความไม่เหมาะสม ไม่รู้กาลเทศะ
ไม่มีใครรู้ว่า “พล.ต.ต.ไพศาล” ขณะให้สัมภาษณ์นั้นคิดอะไรอยู่ หรือเคยชินโดยที่ไม่รู้ตัว ขณะที่โฟนอิน เจ้าตัวจึงหลุดเสียงกลั้วหัวเราะออกมา ซึ่งต่อมาผู้ฟังแปลความหมายคล้ายกับไม่ได้เศร้าสลดกับเหตุร้ายที่เกิดขึ้น และเป็นช่วงเวลาที่คนไทยทั้งประเทศกำลังเศร้าเสียใจ และส่งกำลังใจถึงครอบครัวผู้สูญเสีย
เสียงกลั้วหัวเราะของโฆษกฯ จึงกลายเป็นประเด็นดรามาที่ชาวเน็ตยอมไม่ได้ จัดทัวร์ลงรัวๆ พร้อมกับขอให้พิจารณาตัวเอง โทษฐานแสดงออกไม่เหมาะสม เป็นถึงนายตำรวจระดับสูง แต่ไม่รู้กาละ เทศะ
ถามว่า “รองเต๋อ” พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ เป็นใคร ? ตามโปรไฟล์ ระบุว่า พื้นเพเป็นคนชลบุรี พ่ออยากให้เป็นทหารเรือเหมือนพ่อ แต่เจ้าตัวชื่นชอบเครื่องแบบ นตท. และ นรต.ตำรวจ จึงตอบโจทย์ของเขา
“พล.ต.ต.ไพศาล” จบ.นรต.รุ่น 43 เติบโตในเส้นทางสายสอบสวนกลาง อาทิ บก.ปอศ. บก.ป. บก.ปคม. บก.อก.บช.ก. บช.ทท. แฉลบนครบาล เป็น ผกก.สน.ปทุมวัน
จากนั้นไปพึ่งบารมี “หลวงพ่อพระใส” ที่ จ.หนองคาย เป็น ผกก.สภ.เมืองหนองคาย รอง ผบก.ภ.จว.หนองคาย และ ผบก.ภ.จว.หนองคาย ซึ่งจากข้อมูลจากกองทะเบียนพล เป็นคนเดียวใน สตช. ที่รับตำแหน่งในหน่วยเดิมต่อเนื่องนานที่สุดกว่า 9 ปี
ว่ากันว่า ที่หนองคาย “รองเต๋อ” ได้ทำผลงานสร้างชื่อให้ตัวเอง พล.ต.ต.ไพศาล เป็นที่รู้จักในแวดวงสีกากีด้วยกัน จนก้าวมาสู่ตำแหน่ง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 4 และ โฆษกฯ แต่การ “แสดงออก” จะด้วยบุคลิกส่วนตัว ที่อารมณ์ดีเป็นประจำหรือไม่ จึงปรากฏเป็นดรามาดังกล่าว เมื่อมันใช่เวลาที่ถูก ก็ต้องรับ “สภาพ” โดนเด้งเซ่นเสียงหัวเราะเป็นบทเรียนของทั้ง สตช. และพล.ต.ต.ไพศาล ที่หลังอยาหาทำ... เอวังก็มีด้วยด้วยประการฉะนี้
**“ลุงป้อม” บอกซีเกมส์ปีหน้า บอลไทยต้องเหรียญทองเท่านั้น ถ้าไม่ได้นายกสมาคมฯ ก็พอกันที ...แฟนบอลขอให้ลุงทำจริงทีเถอะ ขอร้อง...
ปิดฉากไปแล้ว สำหรับวอลเลย์บอลสาวทีมชาติไทย กับการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2022 ในรอบ 2 (16 ทีมสุดท้าย) แม้ในรอบนี้สาวไทยจะไม่สามารถชนะคู่แข่งได้เลย แต่ก็ชนะใจแฟนวอลเลย์บอลชาวไทย และทั่วโลกไปได้อย่างไม่มีข้อกังขา... ในโลกโซเชียลฯ มีแฟนๆ เข้ามาชื่นชมเป็นจำนวนมาก
โดยเฉพาะนัดสุดท้าย ที่แข่งกับสหรัฐอเมริกา ทีมอันดับ 3 ของโลก นักตบสาวไทยได้ทำให้โลกตะลึง ตึง ตึง... เมื่อสามารถออกนำไปก่อน 2-0 เซต (25-23) และ (25-21)
ใน 50 คะแนนแรกของสาวไทยนี้ แฟนๆ ที่ตามเชียร์จะเห็นได้ว่าไม่มีคะแนนไหนเลยที่ได้มาแบบ “โชคช่วย”... ทุกแต้ม ทุกคะแนน มาจากความมุ่งมั่น อดทน ชั้นเชิง ฉับไว เฉียบขาด สวยงาม และยอดเยี่ยม !!
แม้ใน 3 เซตต่อมา สาวมะกันจะสามารถเอาชนะสาวไทยไปได้ ด้วยสกอร์ (25-19) (27-25) และ (15-13) แต่ 57คะแนน ใน 3 เซตหลังนี้ ก็ได้ดึงดูดให้ชาวโลกหันมาเอาใจช่วย เอาใจเชียร์สาวไทยอย่างใจจดใจจ่อ และชูกำปั้นทุกครั้งที่เป็นคะแนน
หลังจบเกม ไม่มีคำว่า “เสียดาย”...และไม่มีคำว่า “เสียใจ”
ในโลกโซเชียลฯ มีแต่คนเข้ามาเข้ามาให้กำลังใจ มาชื่นชม มาขอบคุณในความสุข ความอิ่มเอมใจที่ได้รับ และก็ไม่ลืมที่จะอวยชัยให้พรสาวไทย ได้เข้าไปสร้างตำนานในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ที่ปารีส ในอีก 2 ปีข้างหน้า
มีแฟนๆ จำนวนไม่น้อยที่เข้ามาชื่นชมผลงานของนักวอลเลย์บอลสาวไทย แล้วก็อดใจไว้ไม่ไหวที่จะนำไปเปรียบเทียบกับผลงานของนักฟุตบอลทีมชาติไทย ในยุคของ “พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง” นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่ยังก้าวข้าม “ระดับอาเซียน” ไม่พ้น !!
“ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน” อดีตนักฟุตบอลกองหน้าทีมชาติไทย เคยพูดถึง วิกฤตบอลไทย กับความหวังไปบอลโลกว่า ฟุตบอลโลก 2026 ในอีก 4 ปีข้างหน้า เอเชียได้โควตาเพิ่มเป็น 8 ทีมครึ่ง ถือเป็นโอกาสดีที่สุดที่ “ทีมชาติไทย” จะสานฝันให้เป็นจริงกับการไปบอลโลกรอบสุดท้าย และโดยส่วนตัวเชื่อมั่นในศักยภาพฝีเท้าของนักเตะไทยยุคนี้ ว่ามีมากพอที่จะทำสำเร็จ...
... แต่เราติดปัญหาเรื่อง “การจัดการ” ของผู้บริหารที่นโยบายไม่ชัดเจน การทำงานก็เลยไม่มีประสิทธิภาพ จึงออกปากอาสาว่า ถ้าตนเองได้มีโอกาสเข้าไปบริหารสมาคมฯ ก็จะใช้ประสบการณ์ที่อยู่กับฟุตบอลมาทั้งชีวิต เพื่อทำให้ทีมชาติไทยไปฟุตบอลโลกให้ได้ ถ้า 4 ปี ยังทำไม่ได้ ก็พร้อมลาออก ไม่มานั่งให้ด่า ให้ไล่กันอย่างทุกวันนี้แน่นอน !!
เช่นเดียวกับ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ที่เพิ่งนั่งหัวโต๊ะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหาร คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ เมื่อวันก่อน มีการพูดถึงการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่จะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคมปีหน้า กัมพูชาเป็นเจ้าภาพ
“ลุงป้อม” ก็พูดถึงสมาคมฟุตบอล ว่า ซีเกมส์ครั้งนี้บอลไทยจะต้องได้เหรียญทองเท่านั้น ผิดไปจากนี้ นายกสมาคมฟุตบอลฯ จะต้องรับผิดชอบด้วยการ “ลาออก” ... เพราะฟุตบอลเป็นกีฬาที่เป็นไฮไลต์
ไม่ว่าการพูดของ “ลุงป้อม” คราวนี้ จะเป็นการพูดแบบ “ทีเล่น ทีจริง” หรือไม่ก็ตาม แต่เมื่อเป็นข่าวออกไป แฟนบอลต่างประสานเสียง บางคนยกมือท่วมหัว ว่าขอให้ลุงป้อมทำจริงทีเถอะ ขอร้อง... ถ้าลุงยื่นมือเข้ามาจัดการเรื่องนี้ รับรองว่าคนจะรักลุงขึ้นอีกเยอะ!!