“เดชอิศม์” เผย 12 ต.ค.ถก ส.ส.ใต้ ก่อนประชุม กก.บห.สรรหาคนขึ้น รมต.แทน “นิพนธ์” ย้ำ โควตาภาคใต้ รับมี ส.ส.เสนอปรับ ครม.พรรคยกพวง “สาคร” แจงขอยึดจารีตพรรคไม่เพิ่มแรงช้ำ “อลงกรณ์” กลับลำ หนุนไม่เปลี่ยนม้ากลางศึก หวั่น ซ้ำเติมพรรคกระทบ รบ.
วันนี้ (9 ต.ค.) นายเดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลพื้นที่ภาคใต้ กล่าวถึงการพิจารณาบุคคลที่เหมาะสมจะขึ้นเป็นรัฐมนตรีแทนตำแหน่งที่ว่างในสัดส่วนของพรรคที่ นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ลาออก ว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ และ เลขาธิการพรรค รวมทั้งตนในฐานะรองหัวหน้าภาคใต้ ยืนยันว่า การพิจารณาบุคคลแทนตำแหน่งที่ว่างเพื่อขึ้นเป็นรัฐมนตรีครั้งนี้ของพรรค เป็นสัดส่วนโควตาของภาคใต้ ที่ว่างลงตำแหน่งเดียว แต่ยอมรับว่า มี ส.ส.ใต้หลายคนคุยรอบนอกว่า หากจะมีการปรับ ครม.ในสัดส่วนของพรรคแล้ว ก็ควรมีการปรับในหลายตำแหน่ง ไปในคราวเดียวกัน แต่รายละเอียดในเรื่องนี้ จะได้มีการพูดคุยกันในการประชุมสอสอพรรคพรรคใต้ในช่วงเช้าของวันที่ 12 ตุลาคมนี้ก่อนการประชุม กก.บห.พรรคว่า ผลจะเป็นอย่างไร
ขณะที่ นายสาคร เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ 3 สมัย ที่มีชื่อเป็นหนึ่งในแคนดิเดทของผู้ที่จะพิจารณาเป็นรัฐมนตรีในครั้งนี้ กล่าวว่า สาเหตุที่มีชื่อตนปรากฏในสื่อว่าเป็นหนึ่งในแคนดิเดต เข้าใจว่า คงมีเพื่อน ส.ส.บางคนให้ข่าวกับสื่อ ซึ่งการที่ตนอยู่ในพรรคปฏิบัติจนเป็นจารีตของพรรคการมีชื่อของตน ปรากฏว่า จะได้รับการคัดเลือกเพื่อพิจารณาเป็นรัฐมนตรีก็ทำให้ตนและทีมงานมีกำลังใจในการทำงาน แต่เมื่อมองบริบทโดยรวมแล้วเห็นว่า ที่ผ่านมา พรรคชอกช้ำมากพอแล้ว ตนจึงไม่ประสงค์ที่จะสร้างแรงช้ำ หรือทำให้พรรคเกิดแรงกระเพื่อมภายในเพิ่มขึ้นอีก หากมีการเสนอชื่อของตน ในที่ประชุม กก.บห. หรือที่ประชุมร่วม กก.บห.และ ส.ส.พรรคก็จะขอถอนตัวในครั้งนี้ แต่ขอสงวนสิทธิ์ในการเข้ารับการพิจารณาในครั้งหน้าหลังการเลือกตั้งทั่วไป ขอสร้างผลงานนำทีมอันดามันกลับเข้าสู่สภาให้ได้ก่อน ยืนยันว่า ไม่อยากสร้างแรงกระเพื่อมให้พรรคมากกว่านี้
ด้าน นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีมีผู้เสนอชื่อตนในการคัดเลือกบุคคลที่มีความเหมาะสมขึ้นเป็นรัฐมนตรีแทนตำแหน่งที่ว่างในครั้งนี้ด้วยว่า ส่วนตัวเห็นว่า ในช่วงท้ายของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ควรจะสรรหาบุคคลแทนเฉพาะตำแหน่ง รมต. ที่ว่างลงเท่านั้น ไม่ควรปรับหลายตำแหน่ง เนื่องจากเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของรัฐบาลนี้ เราไม่ควรเปลี่ยนม้ากลางศึก หรือเปลี่ยนขุนทัพกลางน้ำ เพราะจะเกิดแรงกระเพื่อมทั้งภายในพรรคและกระทบต่อรัฐบาลโดยรวม เว้นแต่ที่ประชุม กก.บห. หรือที่ประชุมร่วมระหว่าง กก.บห. กับ ส.ส.พรรคจะพิจารณาเห็นเป็นอย่างอื่น ซึ่ง รมต.ของพรรคแต่ละคนที่ทำงานมา ล้วนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ และเพื่อป้องกันแรงกระเพื่อมภายในพรรคและรัฐบาล ส่วนที่มีคนเสนอชื่อของตน ก็ขอขอบคุณที่มีการพูดถึงชื่อตน ขอย้ำว่า ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ กก.บห.และที่ประชุมร่วม ส.ส. พรรค