วันนี้(7 ต.ค.)นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม และ ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย ได้ออกมาแสดงความเสียใจกับกรณี เกิดเหตุสลด ที่อดีตตำรวจ ยศ ส.ต.อ. ผบ.หมู่ป.สภ.นาวัง จว.หนองบัวลำภู เครียดจากการถูกให้ออกจากราชการเพราะเคยถูกจับคดีครอบครองยาบ้าและเสพยาจนหลอน ก่อเหตุกราดยิง เด็กและชาวบ้าน ในศูนย์เด็กเล็ก จนมีผู้เสียชีวิต 36 ศพ ในช่วงเวลาประมาณ 12.30 น.ของวันที่ 6 ต.ค.65 ที่ผ่านมา
นายสามารถ เปิดเผยว่า ตนเองเห็นข่าวกราดยิงจนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากนั้น ตนเองคิดว่าเรื่องนี้จะปล่อยผ่านไปไม่ได้ ตนเองเชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์โศกนาฏกรรมครั้งนี้ ซึ่งตนเองเคยดำรง ตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและที่ปรึกษากรรมาธิการวิสามัญศึกษาแก้ไขปัญหายาเสพติดของสภาผู้แทนราษฏร์ ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น ตำรวจติดยาเสพติดจนถูกให้ออกจากราชการทำให้เกิดความเครียดจนนำมาสู่การก่อเหตุน่าสลดและยังมาปิดฉากชีวิตตัวเองและครอบครัวอย่างน่าอนาถ เรื่องนี้ตนเองมั่นใจว่ากระทรวงยุติธรรม มีกฏหมายที่จะเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบและเสียหายจากเรื่องนี้ คาดว่าอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพจะเร่งดำเนินการเยียวยาตามกฏหมายทุกฉบับที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นคาดว่าจะมีเงินเยียวยาศพละ หนึ่งแสนหนึ่งหมื่นบาท ตามกรณีและขึ้นอยู่กับคำพิจารณาของอนุกรรมการฯ
"ผมมองว่ายาเสพติดนั้นเป็นภัยร้ายที่สะสมอยู่ในสังคมไทย ปัจจุบันยาเสพติดมีมากขึ้นเพราะเนื่องจากเปลี่ยนจากการผลิตด้วยฝิ่นมาเป็นทำจากสารเคมีทำให้ผลิตกันได้ง่าย จากที่ตนเองได้ข้อมูลมาว่า ส.ต.อ.ผู้ก่อเหตุนั้น ติดยาเสพติดมาตั้งแต่เด็กนั่นคือสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่ายาเสพติดมันทำลายชีวิต ทั้งนี้ยาเสพติดไม่ได้ทำลายชีวิตแค่คนเสพ แต่ทำลายครอบครัวด้วย ดังนั้นการทำลายวงจรนี้ต้องตัดทั้งระบบวงจรยาเสพติด ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ก็ให้ความสำคัญในเรื่องนี้"
นายสามารถ กล่าวต่อว่า ตนมั่นใจว่า ส.ส.และข้าราชการทุกคนให้ความสำคัญในการป้องกันปราบปรามในเรื่องนี้ ตนคิดว่าการแก้ปัญหาเรื่องยาเสพติดนั้นเราแก้ปัญหาถูกทางหรือไม่ เพราะตอนนี้ยาเสพติดมีมากขึ้นปัญหาคนเสพคนเกิดอาการคลั่งมีมากขึ้น ตนมองว่าการยึดทรัพย์และให้รางวัลแก่ผู้แจ้งเบาะแสคือยิ่งแจ้งจับได้เยอะยิ่งได้รางวัลมาก นั้นยังไม่ตอบโจทย์เท่าที่ควร บางทีตนเองนึกถึงพ่อค้าหมูที่เลี้ยงหมูให้อ้วนก่อนแล้วค่อยเชือดเพราะจะได้น้ำหนักมาก ขายได้ราคา แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องหมูแต่เป็นเรื่องของยาเสพติด ยาเสพติดเพียงหลุดมาหนึ่งเม็ดก็สามารถทำลายชีวิตของคนหนึ่งคนหรือหนึ่งครอบครัวและจะมีเหตุการณ์อีกมากมายที่จะเกิดขึ้น ยกตัวอย่างเหตุการณ์กราดยิงที่ จว.หนองบัวลำภู เกิดความสูญเสียทั้งทางตรง ทางอ้อมนับหลายสิบหลายร้อยครอบครัว
"ผมอยากให้มีการแก้ไขปัญหายาเสพติดดำเนินการทุกมิติ แม้ทุกวันนี้สามารถจับยึดเงินจากการค้ายาเสพติดเป็นหมื่นล้านแต่ยาเสพติดก็ไม่ได้ลดลงเลย การแก้ไขปัญหานี้ต้องตัดต้นวงจร ทำทั้ง demand และsupply ในการประชุมกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแก้ไขปัญหายาเสพติดของสภาผู้แทนราษฏร ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาได้มีการพูดถึงเรื่องนี้อยู่หลายครั้ง จนรายงานนี้เสร็จซึ่งได้ยื่นเรื่องไปยังสภาผู้แทนราษฏรจนไปถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ แล้วขณะนี้ ก็ต้องรอว่าท่านชวน หลีกภัย จะหยิบยกปัญหาเรื่องนี้ขึ้นมาพิจารณาเมื่อไร ตนเองในฐานะที่ปรึกษากรรมาธิการฯ คิดว่าเราต้องบำบัดผู้ติดยาเสพติดให้หาย ขณะนี้เรายังขาดเจ้าภาพในการดูแลผู้ติดยาเสพติด ตนเองจึงอยากเสนอให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม.รับเป็นเจ้าภาพ โดยร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข ช่วยกันดูแลบำบัดผู้เสพยาเสพติด ปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้คือผู้เสพยาเสพติด ครอบครัวเขาไม่เอาตำรวจไม่ได้มีอำนาจจับกุม เพราะตัว พรบ.ยาเสพติด ได้มีการแก้ไขปริมาณยาเสพติด กรมคุมประพฤติที่เมื่อก่อนมีอำนาจในการบำบัดฟื้นฟูก็ได้ถูกยกเลิกอำนาจนี้ไป เพราะฉะนั้นตนเองคิดว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม. ซึ่งชื่อกระทรวงก็บอกอยู่แล้ว ควรเป็นเจ้าภาพเรื่องของผู้ติดเสพติดให้เลิกเสพยาอย่างยั่งยืนเพื่อทำลายวงจรนี้ เมื่อไม่มีคนซื้อ คนขายก็หมดไป นั่นคือเจตจำนงค์ในการแก้ไขปัญหายาเสพติด"
นายสมารถ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนพร้อมที่จะเดินและยืนเคียงข้างกับคนไทยทุกคน ท้ายสุดนี้ตนเองขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งและขอเป็นกำลังใจให้กับครอบครัวผู้สูญเสียทุกครอบครัว ตนเองมั่นใจว่าท่าน พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร มีจิตใจตั้งมั่นในการแก้ไขปัญหานี้และพร้อมช่วยเหลือประชาชนทุกคน