3 ป.ยกคณะบินหนองบัวลำภู เยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ เหยื่อเหตุกราดยิง ด้าน “มท.1” ยันมีกฎเกณฑ์ออกใบอนุญาตพกพาอาวุธปืนอยู่แล้ว ชี้ฆาตกรโหดมาจากเรื่องสภาวะจิตใจ
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 7 ต.ค. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พร้อมคณะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายสุพัฒน์พงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ออกเดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจผู้บาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิต ที่ จ.หนองบัวลําภู
โดย พล.อ.ประยุทธ์ มีสีหน้าที่เคร่งเครียดไม่ตอบคำถามสื่อมวลชนแต่อย่างใด เช่นเดียวกับ พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธตอบข้อซักถามเช่นกัน ทั้งนี้ ก่อนขึ้นเครื่อง พล.อ.ประยุทธ์ ได้มีการหารือร่วมกับ ครม.ที่ร่วมคณะ ที่ห้องรับรองพิเศษ ประมาณ 20 นาที ก่อนออกเดินทาง
ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการและกฎเกณฑ์การออกใบอนุญาตพกพาอาวุธปืนที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงมหาดไทย ว่า การออกใบอนุญาตเราจะมีกฎเกณฑ์และขั้นตอนต่างๆ ในการพิจารณา ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีการดำเนินการอย่างรอบคอบ โดยเกณฑ์การพิจารณามีขั้นตอนละเอียดรอบคอบอยู่แล้ว
“แต่สิ่งที่ผมอยากจะบอกวันนี้ ก็คือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องลึกๆ ข้างใน เราดูคุณสมบัติว่าเขามีคุณสมบัติที่เหมาะสมที่จะสามารถพกพาอาวุธได้หรือไม่ ซึ่งก็มีหลักเกณฑ์ทั่วไป แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ผมคิดว่าเป็นเรื่องของจิตใจภายใน คนที่ก่อเหตุเช่นนี้ เป็นคนที่มีจิตใจภายใน ข้างใน ที่ผิดปกติ ซึ่งก็ต้องหามาตรการที่จะควบคุมให้ได้ ที่สำคัญ ลองคิดดูว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ได้ใช้อาวุธปืนอย่างเดียว แต่มีการใช้มีดด้วย แล้วอย่างนี้จะต้องให้เราห้ามใช้มีดด้วยหรือ อย่าลืมว่าครั้งนี้เขาใช้มีดทำร้ายเด็ก ถ้าเรามองผลที่เกิดขึ้นในขณะนี้มันไม่ใช่ไปดูเรื่องปืนเพียงอย่างเดียว จะต้องดูว่าทำไมคนถึงมีจิตใจข้างในอย่างนี้ได้ สังคมเราจะต้องทำให้ไม่มีคนเป็นแบบนี้ เพราะเขาไม่รู้จักความมีเมตตาปรานี ไม่รู้ในเรื่องจิตใจของคน ซึ่งเขาไม่มีสิทธิจะไปทำร้ายใคร ผมคิดว่าน่าจะเป็นพื้นฐานในตัวของผู้ที่ก่อเหตุ” พล.อ.อนุพงษ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในเรื่องของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กจะต้องมีมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นกว่านี้หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ถ้าพูดไปเดี๋ยวจะกลายเป็นประเด็น เอาเป็นว่าคุณจะไปทำอย่างนั้นไม่ได้ พออีกวันก็ต้องไปดูที่โรงเรียนมัธยมอีก มันเป็นไปไม่ได้ เขามีครูที่คอยดูแล แล้วจะต้องให้ครูเขามีปืนหรือถึงจะหยุดได้ อย่าลืมว่า เขามีครูคอยดูแลและครั้งนี้ครูก็เสียชีวิตด้วย เพราะฉะนั้นจะให้ไปเพิ่มเติมอย่างไร มันไม่ได้ คุณไปแก้ตรงนี้แล้วโรงเรียนมัธยมล่ะ อย่าให้ตนพูดเลยดีกว่าเดี๋ยวจะกลายเป็นประเด็น อย่างไรก็ตาม ทุกสถานที่เขามีมาตรการดูแลอยู่แล้ว