ความหวังของ "ครูใหญ่เนวิน" ภท. เกินร้อย- "อนุทิน" นายกฯ **ทัวร์ลงแบบรัวๆ กับดรามาของ “ลุงตู่” ช่วงลงพื้นที่แก้น้ำท่วม

ข่าวปนคน คนปนข่าว

**ความหวังของ "ครูใหญ่เนวิน" ภท. เกินร้อย- "อนุทิน" นายกฯ

ถูกจับตามากเป็นพิเศษสำหรับวันคล้ายวันเกิดของ "เนวิน ชิดชอบ" ในปีนี้ นอกจากจะครบ 64 ปีเต็ม ไม่ว่าจะบรรยากาศ ผู้เข้าร่วมงาน ตลอดจนคำพูดที่จะออกจากปากของเขาต่างถูกจับจ้องด้วยสื่อ เพราะรู่กันว่า "เนวิน" นั้นไม่ใช่ธรรมดา หากเป็น "ครูใหญ่" ของพรรคภูมิใจไทย ที่จะส่งสัญญานอะไรออกมาจากงานนี้ย่อมมีนัยยะทางการเมือง

ว่ากันว่า งานนี้เจ้าตัวต้องการจัดแบบเรียบง่าย งดของขวัญ -รับดอกไม้ เริ่มต้นด้วย "พิธีปะกำช้าง" ที่เป็นการสืบทอดมาอย่างยาวนานของตระกูล “ชิดชอบ”

แน่นอนว่าบรรดาแขกเหรื่อ "คนกันเอง" มากันอุ่นหนาฝาคั่ง นำโดย "หมอหนู" อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ทีมรัฐมนตรี กรรมการบริหารพรรค และ ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย ส่วนราชการ พ่อค้า ประชาชน รวมทั้งนักเตะทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาร่วมงานด้วย

ขณะที่กลุ่มส.ส.ต่างพรรค ก็มาทั้งพรรคร่วมรัฐบาล และฝ่ายค้าน มีที่เคยเปิดตัวไปแล้วว่าจะย้ายเข้าสังกัดภูมิใจไทย จากเพื่อไทย 7 คน ก้าวไกล 5 คน ล่าสุด ปรากฏตัวภายในงานอีกจำนวนไม่น้อย ...และยืนยันจะเข้าร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย
นั่งนับนิ้วไล่เรียงก็มีกว่า 28 คน


ตั้งแต่ ขวัญเลิศ พานิชมาท ชลบุรี ก้าวไกล , มณเฑียร สงฆ์ประชา ชัยนาท พปชร., สัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ ชัยภูมิ พปชร., เอกภพ เพียรพิเศษ เชียงราย ก้าวไกล, พีรเดช คําสมุทร เชียงราย ก้าวไกล , ธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ ตาก พปชร., วุฒิชัย กิตติธเนศวร นครนายก พท. , ปฐมพงศ์ สูญจันทร์ นครปฐม พปชร. ,สุชาติ ภิญโญ นครราชสีมา พท.

อารี ไกรนรา บัญชีรายชื่อ เพื่อชาติ , เกษมสันต์ มีทิพย์ บัญชีรายชื่อ ก้าวไกล, คารม พลพรกลาง บัญชีรายชื่อ ก้าวไกล , น.ส.นันทนา สงฆ์ประชา บัญชีรายชื่อ พปชร., นพ ชีวานันท์ พระนครศรีอยุธยา พท., อนุชา น้อยวงศ์ พิษณุโลก พปชร.,นิยม ช่างพินิจ พิษณุโลก พท. , กฤษณ์ แก้วอยู่ เพชรบุรี พปชร., สุชาติ อุสาหะ เพชรบุรี พปชร., ประทวน สุทธิอํานวยเดช ลพบุรี พปชร.,

จาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ศรีสะเกษ พท. , ธีระ ไตรสรณกุล ศรีสะเกษ พท., ผ่องศรี แซ่จึง ศรีสะเกษ พท.,
ณัฏฐพล จรัสรพีพงษ์ สุรินทร์ พปชร. , จักรพรรดิ ไชยสาส์น อุดรธานี พท. , ธนะสิทธิ์ โควสุรัตน์ อุบลราชธานี พปชร., สมัคร ป้องวงษ์ อุบลราชธานี ชพน., น.ส.บุณย์ธิดา สมชัย อุบลราชธานี ปชป., และ ประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส. กทม. เพื่อไทย

เรียกได้ว่า เป็นกลุ่มส.ส.กลุ่มใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่ม ที่จะเข้ามาเสริมทัพภูมิใจไทย ในการสู้ศึกเลือกตั้งที่จะมาถึง

งานนี้ “ครูใหญ่เนวิน” ยิ้มแก้มปริ ทักทายบรรดา ส.ส.พรรคภูมิใจไทย และ ส.ส.ต่างพรรค พร้อมตบบ่าว่า “ขอให้ได้เป็นส.ส.ทุกคนและมึงต้องดูแลประชาชน” แถมพูดคุยกับแกนนำพรรคภูมิใจไทยว่า “รอบหน้าให้ได้ 120 คน เท่ากับอายุหมอช้าง ที่มาทำพิธีในวันนี้”

ช่วงเป่าเค้ก เห็นว่าหน้าเค้กเขียนว่า “Happy birthday อาจารย์ใหญ่ที่เคารพ” โดย"หมอหนู" เป็นตัวแทนนำเค้กวันเกิด พร้อมอวยพร ว่า...เนวิน เป็นครูใหญ่ เป็นพี่ใหญ่ที่รักที่สุดของพวกเรา ปีนี้อายุ 64 ถือเป็นเลขมงคล เพราะ 6 บวก 4 เป็น 10 เติมศูนย์อีกตัว ก็เป็น 100 ขอให้ครูใหญ่เป็นหลักชัย ประสบความมุ่งมั่นทุกอย่าง ทั้งการเมืองและครอบครัว


ขณะที่ “ครูใหญ่เนวิน” กล่าวตอบว่า ขอบคุณทุกคนทั้งที่อยู่พรรคภูมิใจไทย และที่กำลังจะมาอยู่พรรคภูมิใจไทย ขอบคุณในทุกกำลังใจ และคำอวยพร สิ่งที่เป็นพรที่ดีมากสำหรับตัวเองก็คือ การได้เห็นทุกคนชนะการเลือกตั้ง กลับมาเป็น ส.ส.และขอให้เป็นพรรคการเมืองที่สามารถยุติความขัดแย้งภายในบ้านเมืองเพื่อให้ประชาชนอยู่อย่างมีความสุข เลิกแบ่งฝักแบ่งฝ่าย แก้ปัญหาปากท้อง ความทุกข์ยากของประชาชนให้ดีที่สุด สำหรับตัวเองอายุมากขึ้นทุกวัน แต่เมื่อหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย บอกว่า มีหน้าที่เป็นครูใหญ่ ก็จะเป็นครูใหญ่ให้ตลอดไป ก็หวังว่าครูใหญ่จะมีโอกาสมีลูกศิษย์สักคนหนึ่งเป็นนายกรัฐมนตรี... ทันทีที่ “เนวิน” กล่าวถึง “อนุทิน” ที่หวังจะได้เห็นเป็นนายกฯนี้ ฟังว่า มีเสียงเฮดีใจของบรรดาแขกเหรื่อทั้งหลายกันเกรียว

“ครูใหญ่เนวิน”ขยายเหตุและผลของความหวังว่า ถ้าการรณรงค์เลือกตั้งครั้งหน้า ไม่สู้ให้อนุทินเป็นนายกรัฐมนตรีก็จะลาออกจากครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย แล้วลงสนามเลือกตั้งไปด้วยกัน เป้าหมายอย่างที่หัวหน้าพรรคพูดไว้ต้อง 100 ขึ้น...

นี่ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า วาจาของครูใหญ่เนวิน จะเป็นจริงหรือไม่ เลือกตั้งครั้งหน้าประชาชนจะให้คำตอบ!!



**ทัวร์ลงแบบรัวๆ กับดรามาของ “ลุงตู่” ช่วงลงพื้นที่แก้น้ำท่วม

หลัง “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พ้นขวากหนามเรื่องวาระ 8 ปี มาได้ก็มาเจอศึกหนักจากพิษพายุ “โนรู” ที่พาฝนมาถล่มในหลายจังหวัด ทั้งภาคเหนือ และอีสาน ประชาชนเดือดร้อนแสนสาหัสไปตามๆ กัน

“ลุงตู่” เลยประเดิมภารกิจแรกในเช้าวันจันทร์ผ่านมา ด้วยการเข้ากระทรวงมหาดไทย เรียกประชุม ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ และฝ่ายที่เกี่ยวข้อง กับการบริหารจัดการปัญหาน้ำท่วม ผ่านระบบเทเลคอนเฟอเรนซ์ ก่อนจะลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น และ อุบลราชธานี ในวันรุ่งขึ้น


งานนี้ “ลุงตู่” กำชับผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดว่า ต่อไปนี้เวลานายกฯไปจังหวัดไหนก็ไม่ต้องมาขึ้นป้าย หรือเกณฑ์ประชาชน มาชูป้ายต้อนรับ เพราะไม่ต้องการให้ใครเดือดร้อน และยังได้กำชับผู้ที่เกี่ยวข้อง ให้ดูแลพื้นที่สำคัญ อย่างพื้นที่ เศรษฐกิจ โรงพยาบาล รวมถึงการให้บริการไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ ให้ดีด้วย เพราะถ้าระบบมันล่มไปทั้งหมด การสื่อสารแจ้งข้อมูลจะทำได้ลำบาก อาจจะต้องไปใช้วิทยุทรานซิสเตอร์ ในการออกอากาศแจ้งเตือนประชาชน ซึ่งเคยใช้กันเมื่อปี 2554 เพราะตอนนั้นไฟฟ้าดับหมด ดังนั้น เราต้องเตรียมแผนตรงนี้ไว้ด้วย

เมื่อมีผู้ที่จับเอาคำพุดของ “ลุงตู่” พูดถึงการใช้วิทยุทรานซิสเตอร์ แจ้งเตือนภัย เลยกลายเป็นประเด็นดรามา ในโลกโซเชียลฯ ประมาณว่า ยุคนี้เขาใช้สมาร์ทโฟนกันหมดแล้ว ...นายกฯ ย้อนยุคไปไกลมาก...สงสัยยังมึนกับปัญหาน้ำท่วม ...ใครยังไม่ซื้อวิทยุให้รีบไปซื้อ เดี๋ยวขาดตลาด...

เรียกว่าล้อเลียน เสียดเย้ย ลุงตู่กันเป็นที่สนุนกสนาน

ต่อมาเช้าวันอังคารที่ 4 ต.ค. “ลุงตู่” และคณะบินไปตรวจสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.ขอนแก่น ก็ปรากฏว่า ไม่มีการขึ้นป้าย หรือเกณฑ์คนมาต้อนรับนายกฯจริงๆ ... ซึ่งเรื่องนี้มีเบื้องหลัง เพราะมีรายงานว่า ป้ายต้อนรับนั้นไม่มี มีแต่ป้ายขับไล่ เพราะ จ.ขอนแก่น เปรียบเสมือนเมืองหลวงอีกแห่ง ของ “กลุ่มคนเสื้อแดง” จึงได้เตรียม“ป้ายขับไล่” ไว้รอรับ เพราะมองว่าก็แค่มาหาเสียง ไม่ได้มาช่วยเหลือประชาชนอย่างจริงจัง ... แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาบล็อกเอาไว้เสียก่อน

ถึงกระนั้นก็ยังมีการโพสต์ผ่านโซเชียลฯ ถึงความเดือดร้อนที่ได้รับจากการลงพื้นที่ของ “ลุงตู่” ในครั้งนี้ อย่างเช่น คาเฟ่ แห่งหนึ่ง โพสต์ขอโทษลูกค้า-ไรเดอร์ ที่ต้องยกเลิกออเดอร์ เพราะตำรวจมาตั้งแถวเต็มหน้าหน้าร้านไปหมด เพื่อรอรับและอารักขาลุงตู่


ขณะเดียวกัน คำพูดของ “ลุงตู่” ที่พูดกับประชาชน ก็ถูกจับไปเป็นประเด็น ก่อกระแสดรามาในโซเชียลฯ...อย่างเช่นคำพูดที่ว่า...รู้ว่าประชาชนยังลำบาก ถ้าเป็นนายกฯไม่รู้ว่าประชาชนลำบากอย่างไร ก็อย่าเป็นเสียดีกว่า ... คำพูดนี้เรียกทัวร์มาลงกันแทบไม่มีที่จอด ...

ส่วนที่ จ.อุบลราชธานี ก็เช่นกัน มีการเช็ก และสกรีนคนที่จะมาต้อนรับ“ลุงตู่” ชนิดที่ว่าตรวจเข้มเช่นกัน แต่ก็ไม่วายที่จะเจอเข้าจนได้ อย่างเช่นเวลารถ “ลุงตู่” ผ่านบริเวณน้ำท่วม ก็จะขับช้าๆ ให้นายกฯได้โบกมือทักทายประชาชน ก็ยังมีคนที่ชู 3 นิ้ว พร้อมตะโกนว่า “มาทำให้คนอื่นลำบากทำไม” ทำเอาเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาห้าม ขอให้เอามือที่ชู 3 นิ้วลงอย่างด่วน

หรืออย่างกรณีที่มีการระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่าพันนาย มาวางกำลังคุมเข้มช่วงนายกฯลงพื้นที่ ต้องเตรียมข้าวกล่องเป็นพันๆ กล่องไว้ให้เจ้าหน้าที่ ทั้งที่ควรจะเอาข้าวกล่องเหล่านี้ ไปแจกจ่ายช่วยเหลือประชาชนที่ถูกน้ำท่วม ออกจากบ้านไม่ได้เสียยังจะดีกว่า

ยังมีช่วงที่ “ลุงตู่” เดินตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัยตามเต้นท์ ภายในศูนย์พักพิงฯ โดยนายกฯเข้าไปตบไหล่ พร้อมกล่าวปลอบใจว่า “ของจะเสียมันก็ต้องเสีย เดี๋ยวเราค่อยหาใหม่ บางอย่างเป็นโชคชะตาเรา ถ้าเราไม่อยู่ตรงนั้นมันก็ไม่ท่วม แต่เราต้องอยู่ตรงนั่นไง ”

คำพูดของนายกฯ ช่วงนี้ ถูกเอาไปโพสต์ว่า “น้ำท่วมเป็นโชคชะตา” ก็ก่อกระแสดรามาอีกเช่นกัน แถมบางคนยังบอกว่า ยังดีที่นายกฯไม่บอกให้สวดมนต์แก้น้ำท่วม

เกี่ยวกับดรามานายกฯ ลงพื้นที่ช่วงนี้ มีการตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะเกี่ยวเนื่องกับ “กฎเหล็ก กกต.” ช่วง 180 วันก่อนสภาหมดวาระ ห้ามนักการเมือง พรรคการเมือง ไปแจกของให้ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน ... แต่รัฐบาลสามารถทำได้ ก็เลยถูกมองว่าไม่แฟร์ ฝ่ายตรงข้ามเลยแก้ลำด้วยการจัดหนักทางโซเชียลฯ