กก.จริยธรรมฯ มีมติรับคำร้อง ปม “สหายแสง” ครองที่ดินผิด กม. ให้ผู้ถูกร้องส่งคำชี้แจงภายใน 15 วัน พร้อมรับคำร้อง “พีรวิทย์” เรียกรับทรัพย์สินแลกรับกับแต่งตั้งทางการเมือง และได้ตีตกคำร้องต่อ “ประเสริฐ” ส.ส.เพื่อไทย ปมฉ้อโกงที่ดิน
วันนี้ (3 ต.ค.) นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการจริยธรรม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงผลการประชุมคณะกรรมการจริยธรรม สภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 5/2565 ที่มี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม ว่า ที่ประชุมยังไม่มีข้อยุติในคำร้องปม นายศุภชัย โพธ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 กรณีครอบครองที่ดินผิดกฎหมาย แต่มีมติรับคำร้องไว้พิจารณา โดยขั้นตอนต่อไปให้จัดส่งสำเนาเรื่องร้องเรียนให้ผู้ถูกร้องชี้แจง แก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งให้ยื่นคำชี้แจง ซึ่งเป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎรว่าด้วยหลักเกณฑ์ และวิธีพิจารณาของคณะกรรมการ จริยธรรมสภาผู้แทนราษฎร ปี 2563 ข้อ 25
นายนิกร กล่าวว่า เมื่อผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแล้ว ให้คณะกรรมการกำหนดวันพิจารณาครั้งแรกเพื่อพิจารณาเรื่องร้องเรียนดังกล่าว โดยคณะกรรมการฯ จะเป็นคณะที่พิจารณาสอบหาข้อเท็จจริง หรืออาจมอบหมายให้คณะอนุกรรมการฯ ดำเนินการก็ได้ ในกรณีที่คณะกรรมการฯ เห็นว่ามีพยานหลักฐานที่มีน้ำหนักรับฟังได้ และที่ประชุมคณะกรรมการฯ พิจารณาวินิจฉัย ว่า ผู้ถูกร้องฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และกรรมาธิการปี 2563 ซึ่งคณะกรรมการมีอำนาจที่จะลงโทษโดยการตักเตือน ตำหนิ ให้ขอโทษต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรตามที่คณะกรรมการฯ กำหนด หรือประณามให้เป็นที่ประจักษ์ หรือในกรณีที่คณะกรรมการฯ เห็นว่าไม่มีพยานหลักฐานที่มีน้ำหนักรับฟังได้ว่าผู้ถูกร้องฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมฯ ให้ยกคำร้องโดยเร็ว และให้รายงานต่อสภาผู้แทนราษฎรทราบ
“สำหรับกรณีที่คณะกรรมการ เห็นว่า มีพยานหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า ผู้ถูกร้องฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมอันเกี่ยวกับมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ให้เสนอความเห็นต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาลงมติว่าเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมฯ อันเกี่ยวกับมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป” นายนิกร กล่าว
นายนิกร กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการจริยธรรมฯ ยังมีมติรับเรื่องร้องเรียนกรณีที่ นายพีรวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทรักธรรม เรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินเพื่อแลกรับกับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในสภาผู้แทนราษฎร รวมทุ้งได้ตีตกคำร้องกรณีขอให้ตรวจสอบจริยธรรมนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย กรณีการฉ้อโกงที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างจำนวน 3 ไร่ หมู่บ้านสันติ ต.มะเกลือใหม่ อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา โดยคณะกรรมการ พิจารณาแล้วเห็นว่าไม่มีมูลเพียงพอที่จะรับไว้พิจารณา เนื่องจากผู้ร้องไม่จัดส่งข้อมูลมายังคณะอนุกรรมการ เพื่อประกอบการพิจารณา นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการจริยธรรมฯ ยังพิจารณารับทราบเรื่องร้องเรียนที่ประชาชนได้ยื่นเสนอเข้ามาใหม่จำนวน 7 เรื่องด้วย
