หัวหน้า ปชป. รอลุ้นปรับ ครม. มั่นใจ ปชป.ไม่เกิดแรงกระเพื่อม ทุกอย่างจะราบรื่น เชื่อ “บิ๊กตู่” จะให้เกียรติพรรคร่วมฯ หารือก่อนยุบ-ไม่ยุบสภา เผย พรรคเตรียมพร้อมทุกสถานการณ์
วันนี้ (2 ต.ค.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ต้องเริ่มจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กลับมาปฏิบัติหน้าที่เสียก่อน เพราะที่ผ่านมา ไม่ได้ไปรบกวนท่าน แต่ได้สื่อสารทางด้านอื่นและประสานงานกับนายกฯมาตลอด เพียงแต่ไม่ได้ให้ข่าวกับสื่อเท่านั้นเอง เมื่อนายกฯกลับมาปฏิบัติหน้าที่ก็จะได้มีโอกาสหารือว่ามีความคิดเห็นอย่างไร ต้องนับหนึ่งที่นายกฯด้วย เราต้องให้เกียรติผู้ที่เป็นผู้นำรัฐบาล แม้พรรคประชาธิปัตย์จะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเราก็ต้องให้เกียรตินายกฯ สำหรับตนเมื่อมีโอกาสเหมาะสมก็จะไปหารือกับนายกฯต่อไป
เมื่อถามว่า ระยะเวลาที่เหลืออยู่ของรัฐบาลไม่นานก็จะครบเทอม เหมาะที่จะปรับ ครม.หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละสถานการณ์ ไม่มีเงื่อนไขอะไรที่จะบังคับ รัฐธรรมนูญก็เปิดให้ทำได้ ไม่ว่ารัฐบาลใดก็ตามหรือเหลือเวลาเท่าใดก็ตาม
ถามว่า จะมีการปรับเปลี่ยนโควตากระทรวงหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า คงเป็นไปตามเดิม ยังไม่มีสัญญาณอะไรที่จะเปลี่ยนแปลง ทุกพรรคทราบดีว่าสัดส่วนมีเท่าใด ฉะนั้น ถ้าจะมีการปรับก็คงจะเป็นตำแหน่งเดิม แต่ทั้งหมดต้องหารือกับนายกฯ ส่วนจะเกิดแรงกระเพื่อมภายในพรรคหรือไม่นั้น มั่นใจภายในพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีแน่นอน ทุกอย่างจะเรียบร้อยและราบรื่น เพราะต้องผ่านกระบวนการขั้นตอนของพรรค
ถามต่อว่า หลังจากนี้ รัฐบาลจะอยู่ครบเทอม หรือยุบสภาก่อน นายจุรินทร์ กล่าวว่า เป็นไปได้ทั้งสองทาง ทั้งหมดอยู่ที่หัวหน้ารัฐบาล แต่ตนคิดว่าน่าจะมีการหารือกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ตนก็เชื่อว่า นายกฯจะให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาลในการสอบถามหารือด้วย อย่างไรก็ตาม สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ก็ได้เตรียมรับมือไว้ทุกสถานการณ์
ถามย้ำว่า ถ้าจะยุบสภา คิดว่าจะยุบช่วงใด นายจุรินทร์ กล่าวว่า ถ้ายุบสภาช่วงการประชุมเอเปคจะยุ่ง เพราะการประชุมนี้เป็นการประชุมระดับโลก ที่มีสมาชิกจาก 21 เขตเศรษฐกิจทั่วโลก
เมื่อถามว่า สถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้ดูเหมือนมีบางกลุ่มไม่ยอมรับการกลับมาของนายกฯ จะส่งผลกระทบในการบริหารราชการไม่ราบรื่นหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติของสังคมในระบอบประชาธิปไตย นายกฯหรือรัฐบาลต้องมีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินให้เกิดประโยชน์สุงสุดกับประชาชน ขณะเดียวกันต้องบริหารความเห็นต่างที่เกิดขึ้นให้ได้ ซึ่งมีประสบการณ์มาแล้ว 3 ปีครึ่ง นายกฯก็คงทราบว่าจะต้องทำอย่างไร และทุกฝ่ายก็ต้องยอมรับความเห็นรวมของประชาชนทั้งประเทศด้วย