เมื่อวันที่ 1 ต.ค.นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคร่วมฝ่ายค้าน ขอเปิดอภิปรายเพื่อซักถามให้ข้อเสนอแนะหรือข้อท้วงติงต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 เมื่อเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 1 พ.ย. นี้ ภายหลังที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปฏิบัติหน้าที่นายกฯต่อได้โดยยังไม่ครบการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี ว่า เป็นสิทธิที่พรรคร่วมฝ่ายค้านสามารถยื่นญัตติขออภิปรายตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ได้ ถือเป็นเรื่องที่ไม่เหนือความคาดหมายที่ฝ่ายค้านจะใช้ทุกช่องทางในการตรวจสอบรัฐบาล เพราะมีเป้าหมายเพื่อหวังผลในทางการเมืองมาตลอดอยู่แล้ว ฝ่ายรัฐบาลโดยเฉพาะ ครม. และพรรคร่วมรัฐบาล ก็พร้อมที่จะชี้แจงข้อซักถามและข้อเสนอแนะของฝ่ายค้าน ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่ฝ่ายรัฐบาลจะใช้เวทีดังกล่าวในการสื่อสารถึงผลงานที่รัฐบาลได้ดำเนินการที่ผ่านให้กับประชาชนได้รับทราบด้วย
นายนิโรธ กล่าวต่อว่า ตนมองว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ฝ่ายค้านจะใช้ทุกช่องทางและกลไกของสภา ในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล แต่การจะอภิปรายในประเด็นการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ครบ 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยในกรณีดังกล่าวออกมาแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ สามารถปฏิบัติหน้าที่นายกฯต่อไปได้ ยังไม่ครบ 8 ปี หากฝ่ายค้านจะอภิปรายเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ฝ่ายค้านจะต้องระมัดระวังในการอภิปรายไม่ให้สุ่มเสี่ยงว่าเป็นการละเมิดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ในฝ่ายของรัฐบาล และ พล.อ.ประยุทธ์ คงไม่ได้กังวลอะไร เพราะจะยึดหลักชี้แจงตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมาอย่างชัดเจนแล้ว