เครือข่ายต้านทุจริต ฯ ร้องก.ล.ต.ติดตามกรณีแบงก์การันตีปลอม โครงการท่อส่งน้ำ EEC หลังผ่านมา6เดือนแล้ว ยังไม่มีความคืบหน้า
วันนี้(28 ก.ย.2565) นายวิวัฒน์ สมบัติหลาย ประธานกลุ่มธรรมาภิบาล เครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอร์รัปชั่น ได้รับมอบหมายจากเครือข่ายผู้ถือหุ้นบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์วอเตอร์ หรือ EASTW เข้ายื่นหนังสือต่อน.ส. รื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. โดยมีน.ส.ฉันท์สุดา รักตะบุตร รองผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารและบริหารผู้ลงทุน เป็นผู้รับหนังสือแทน เพื่อติดตามสอบถามความคืบหน้า กรณี ผู้ถือหุ้นEASTW ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบความโปร่งใสของกรรมการและผู้บริหารEASTW ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 และเมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 ได้ยื่นเรื่องติดตามเรื่องร้องเรียนและให้ตรวจสอบเพิ่มเติม คือการจัดจ้างโครงการปรับปรุงสระเก็บน้ำสำนักบก ต.สำนักบก อ.เมือง จ.ชลบุรี งบประมาณ 75,000,000 บาท ที่ผู้รับจ้างทำและนำหนังสือสัญญาค้ำประกันธนาคารปลอม ( LGปลอม ) มาทำสัญญากับEASTW แต่EASWTไม่ดำเนินคดีและไม่ยกเลิกสัญญาและกลับให้เปลี่ยนเป็นแคชเชียร์เช็คเพื่อทำสัญญาต่อ และให้ตรวจสอบโครงการจัดทำท่อส่งน้ำEEC โครงการระบบท่อส่งน้ำหนองปลาไหล-หนองค้อ-แหลมฉบัง และ โครงการก่อสร้างสถานีเพิ่มแรง ดันน้ำหนองปลาไหล วงเงิน 4,291,000,000 บาท ที่บอร์ดEASTWได้เร่งรีบและเร่งจัดจัดซื้อจัดจ้างภายใน 15 วัน
ทั้งที่ตามปกติจะต้องจัดจ้างในระหว่าง 30-45 วัน ว่ามีความผิดปกติส่อไปในทางเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อผู้ใดหรือไม่ อาจไม่คุ้มค่าและไม่เหมาะสม และเป็นการอนุมัติทั้งทวนหรือไม่ ซึ่งทั้ง 2 กรณีอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้ถือหุ้น
นายวิวัฒน์ กล่าวว่า ในวันนี้ตนในฐานะผู้รับมอบหมายจากผู้ถือหุ้นจึงมาติดตามเรื่องดังกล่าวว่า ก.ล.ต.ได้ดำเนินการตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายถึงไหนอย่างไรแล้ว เนื่องจากเป็นเวลากว่า 6เดือนแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้า เพราะถือว่าEASTWกำลังทำให้ผู้ถือหุ้นได้รับความเสียหายหรือไม่จากกรณีแบงค์การันตีปลอมและทำโครงการท่อส่งน้ำEECที่เร่งรีบเร่งรัดเกินจำเป็น จึงอยากให้ ก.ล.ต.ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กำกับดูบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ให้มีจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจและมีธรรมาภิบาลที่ดีเพื่อไม่ให้ผู้ถือหุ้นเสียประโยชน์ เร่งตรวจสอบ
"แบงค์การันตีปลอม เชื่อว่าต้องมีการทำกันเป็นขบวนการอย่างแน่นอน เพราะขณะนี้ได้มีกระแสข่าวการนำแบงค์การันตีปลอมไปทำสัญญากับหน่วยงานรัฐและเอกชนหลายโครงการ เป็นการรู้เห็นกันระหว่างคนบางคนทั้งในฝ่ายจ้างและผู้รับจ้างหรือไม่ ซึ่งกรณีนี้ผมจะนำเรื่องให้ ป.ป.ง.ตรวจสอบอีกทางหนึ่ง เพราะพฤติการณ์อาจเข้าข่ายมูลฐานตามกฎหมายหมายฟอกเงินหรือไม่และจะทำหนังสือให้ธนาคารกสิกรไทยยืนยันว่าเป็นแบงค์การันตีปลอมเพื่อให้ผู้ถือหุ้นEASTWนำไปสอบถามผู้บริหารEASTWเพราะเหตุใดจึงไม่ยอมดำเนินคดีกับขบวนการแบงค์การันตีกลุ่มนี้อย่างเด็ดขาดเสียที"