พล.อ.ประวิตร ประชุม"กองทุนกีฬา" สนับสนุนงบให้ สมาคมและกีฬาจังหวัด ทั่วประเทศ มุ่งพัฒนานักกีฬา ต่อเนื่อง เน้นยกระดับมาตรฐานมวยไทย สู่สากล ควบคู่สวัสดิการ/ความปลอดภัย ย้ำ ใช้วิทยาศาสตร์การกีฬา ให้เต็มที่
วันนี้ (28 ก.ย.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 5/ 2565 ณ ห้องประชุม มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5จังหวัด ผ่านระบบสื่ออิเล็คทรอนิกส์
ทั้งนี้ก่อนเริ่มการประชุม พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวแสดงความยินดี กับ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ที่ได้รับความเห็นชอบ จาก ครม.ให้ ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย ต่ออีก 1สมัย(วาระ 4ปี) พร้อมขอให้ขับเคลื่อนการพัฒนาการกีฬา ให้มีความก้าวหน้า ต่อเนื่อง ต่อไป จากนั้นเข้าสู่วาระการประชุม โดยที่ประชุมได้รับทราบผลการให้การสนับสนุนของกองทุน ประจำปี2565 วงเงิน 4,204 ล้านบาทเศษ และรับทราบรายงานการสนับสนุนงบประมาณ โครงการอุปกรณ์กีฬา กิจกรรมกีฬา และวิทยาศาสตร์การกีฬา แก่สมาคมกีฬาแห่งจังหวัด อาทิ โครงการจัดซื้ออุปกรณ์กีฬา จำนวน 50จังหวัด โครงการจัดกิจกรรมกีฬา จำนวน 31จังหวัด และโครงการนักวิทยาศาสตร์การกีฬาของสมาคมกีฬาแห่งจังหวัด จำนวน 77จังหวัด เป็นต้น รวมถึงรับทราบรายงานโครงการพัฒนากีฬามวยไทยให้มีความนิยมและมีมาตรฐานเดียว โดยร่วมกับสหพันธ์กีฬามวยไทยที่ IOC รับรอง
จากนั้น คณะกรรมการฯ ได้ร่วมกันเห็นชอบเรื่องสำคัญได้แก่ การอนุมัติปรับกรอบวงเงินการสนับสนุนระบบการพัฒนานักกีฬาสู่ความเป็นเลิศ ทั้งในระดับชาติ นานาชาติ และปรับเพิ่มเติมการสนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬาอาชีพ เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ และการสนับสนุนอุปกรณ์กีฬามวยและเวทีมวยมาตรฐาน สำหรับการแข่งขันและการฝึกซ้อมเพิ่มเติม จากที่กกท.ได้ดำเนินการแล้วในปี64 เพื่อให้นักกีฬามวย มีความปลอดภัย ลดการบาดเจ็บ การสูญเสียชีวิต และเป็นการกำกับเวทีมวยให้ได้มาตรฐาน ทั่วประเทศ ตามที่สหพันธ์ (IFMA) กำหนด รวมทั้งได้เห็นชอบการสนับสนุนเงินรางวัลให้แก่นักกีฬา ผู้ฝึกสอน และสมาคม จำนวน 9รายการ จาก 8สมาคมกีฬา เป็นเงิน 10,038,000 บาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ให้กับนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ ในการสร้างผลงาน และชื่อเสียงประเทศชาติให้ดียิ่งขึ้น ต่อไป
พล.อ.ประวิตร ยังได้เน้นย้ำ ผู้จัดการกองทุนกีฬา ให้เร่งดำเนินการตามมติ ในวันนี้ โดยเคร่งครัด อย่างถูกต้องตามกฏหมาย ภายในกรอบเวลาที่กำหนด พร้อมกำชับ กกท.ให้บริหารงบประมาณเป็นไปตามวัตถุประสงค์ ของกองทุน ให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่างมีประสิทธิภาพ และเน้นการใช้วิทยาศาสตร์การกีฬา เพิ่มศักยภาพนักกีฬา อย่างเต็มที่ เพื่อพัฒนาการกีฬาของไทยให้มีผลงานก้าวหน้า และสามารถสร้างความสุขให้คนไทย ได้ต่อเนื่อง ต่อไป