xs
xsm
sm
md
lg

"ผู้อำนายการเจ้าท่าภูมิภาคสาขากาญจนบุรี"ยันบริสุทธิ์ หลัง กรมเจ้าท่าสั่งย้ายด่วน เหตุถูกร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จากกรณีที่นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมเจ้าท่า มีคำสั่ง ให้นายประทิน ออมสิน ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขากาญจนบุรี เข้ามาช่วยราชการ ที่กรมเจ้าท่า กรุงเทพมหานคร หลังมีชาวบ้านในพื้นที่ร้องเรียน

ล่าสุด นายประทิน ออมสิน ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขากาญจนบุรี ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหว ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยได้แชร์ ข้อความของ นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ที่โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ชี้แจงเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างหาดทราย-สนามหญ้า ริมแม่น้ำแควใหญ่ ถนนริมน้ำหน้า ใกล้สะพานสมเด็จพระสังฆราช ต.บ้านเหนือ อ.เมืองกาญจนบุรี ซึ่งนายประทิน ก็โพสต์ข้อความทำนองยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง จากเรื่องที่ถูกร้องเรียนก่อนหน้านี้ จนมีคำสั่งย้ายจาก "กรมเจ้าท่า" ให้ไปช่วยราชการ ที่ "กรมเจ้าท่า" กรุงเทพมหานคร

โดยนายประทิน ระบุข้อความว่า "ผมไม่ต้องพูดอะไรเยอะ ท่านผู้นี้พูดแทนผมหมดแล้ว นับถือในน้ำใจ นับถือในความเป็นผู้นำ กระทรวงมหาดไทย ไม่สิ้นคนดี เราชาวเมืองกาญจนบุรี ต้องกลับมาถามตัวเองว่าเรารักเมืองกาญน์เราแค่ไหน? ทำเพื่อส่วนรวมแค่ไหน??? หรือรักแต่ปาก ปล่อยให้คนอื่นมาทำให้ ?แล้วมานั่งติ…สำหรับผม ท่านคือผู้นำที่อยู่ในใจตลอดไป ผู้ว่าจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ "

หลังจากมีการโพสต์เฟซบุ๊ก ออกไป นายวิศารท์ พจน์ประสาท ประธานวิสาหกิจชุมชนศูนย์อภิบาลด้วยพืชสมุนไพรแห่งริเวอร์แคว จ.กาญจนบุรี ผู้ที่ยื่นเรื่องร้องเรียนไปยัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ กรมเจ้าท่า ให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของนายประทิน ออมสิน ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าสาขากาญจนบุรี หลังพบว่ามีการเลือกปฏิบัติ เกี่ยวกับสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำลำน้ำ จนเป็นเหตุให้นายประทิน ต้องถูกตรวจสอบ และมีคำสั่งย้ายด่วน ไปช่วยราชการ กรมเจ้าท่า ส่วนกลาง ตั้งแต่วันที่20 กันยายน ที่ผ่านมา ก็ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ว่า

"การที่นายประทิน ออมสิน ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก โดยเเชร์ข้อความของ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เรื่อง โครงการก่อสร้างหาดทราย-สนามหญ้า ริมแม่น้ำแควใหญ่ ถนนริมน้ำหน้า ใกล้สะพานสมเด็จพระสังฆราช ต.บ้านเหนือ อ.เมืองกาญจนบุรี ในทำนอง ยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง ส่วนตัวมองว่า เป็นสิ่งที่ ไม่สามารถ พึงกระทำได้ตามกฎหมาย และระเบียบการจัดจ้างเนื่องจากการจัดซื้อจัดจ้างการจ้างเหมาในหมวดค่าครุภัณฑ์ที่ดินและสิ่งก่อสร้างใดๆจำเป็นต้องมีการสรรหาผู้รับจ้างถึงแม้จะได้เงินบริจาค เงินบริจาคก็ต้องนำเข้าสู่กระบวนการและยิ่งการดูดทรัพยากรของแผ่นดินมาใช้ตามอำเภอใจนั้น ยิ่งเป็นสิ่งที่ควรจะต้องระวังเป็นอย่างยิ่ง

เนื่องจากใน 2 ปีที่ผ่านมาจังหวัดกาญจนบุรีมีการดูดทรายผมสิ่งล่วงล้ำลำน้ำจำนวนมาก จนเป็นที่ชินตาของประชาชนโดยทั่วไป และกรณีดังกล่าวก็เช่นกัน หากเจ้าท่ามีความประสงค์จะดำเนินการก็ต้องได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติการเดินเรือ ไม่ว่าจะเป็นสกายวอล์คที่ก่อสร้างสิ่งรุกล้ำลำน้ำ การดูดทรายถมดินทรายก็ต้องรับอนุญาตเช่นกัน

หากผู้ใดไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายใหม่ ต้องกระทำการรื้อถอนแต่เพียงอย่างเดียว ยิ่งเป็นส่วนราชการยิ่งต้องมีความระมัดระวังเรื่องนี้เป็นอย่างสูง แต่ที่ผ่านมาไม่ประพฤติปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับการจัดซื้อจัดจ้าง

แต่หลังจากนี้ก็ต้องรอการตรวจสอบ ไปยัง สำนักงาน ปปช. ที่ผมร้องเรียน และวิธีปฏิบัติของ "กรมเจ้าท่า" ว่าเรื่องที่ผมร้องเรียน ขอตรวจสอบ ไปทั้งหมด ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพราะผมก็เชื่อมั่นในหลักฐานที่ผมมี ประกอบกับระเบียบวิธีปฏิบัติ ว่าหน่วยงานของรัฐไม่จำเป็นต้องได้รับอนุญาตใช่หรือไม่

โดยเฉพาะเรื่อง การก่อสร้าง อาคารประกอบหรืออาคารบ้านพักที่อยู่ด้านติดริมน้ำ ซึ่งยังไม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ถึงหลักฐานทางที่ดินการขออนุญาตก่อสร้าง การหวงแหนกั้น ในส่วนดินผมและการตรวจสอบเรือยอร์ช การตรวจสอบเครื่องเล่นเจ็ตสกี และทุ่นลอยน้ำชั่วคราว ซึ่งยังไม่ได้ข้อยุติแต่ไปร้องทุกข์กล่าวโทษ ซึ่งคำอุทธรณ์ก็เป็นผลแล้วก็ยังได้ไปถอนแจ้งความทำให้เกิดความเสียหายอย่างมาก

ส่วนโรงเรือนที่พักและโรงปลูกกัญชา ในนามของวิสาหกิจชุมชนศูนย์อภิบาลด้วยพืชสมุนไพรแห่งริเวอร์เเคว เป็นการดำเนินการขออนุญาตตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคารจากเทศบาลท่ามะขามอย่างถูกต้อง ยกเว้นอาคารเก่าบางอาคาร ที่มีการสร้างมานานแล้ว ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับศูนย์แต่อย่างใด แต่ตัวเองกลับถูกนำเรื่องนี้มาใช้ในการกล่าวโทษ และสร้างความชอบธรรมให้กับตัวเอง

จากเหตุการณ์ดังกล่าวจึงได้ทำเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง กรมเจ้าท่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ปลัดกระทรวงคมาคม อธิบดีกรมเจ้าท่า รวมไปถึงสื่อมวลชน แต่เรื่องดังกล่าวก็เงียบหายไป กระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ที่ผ่านมา ได้ทำหนังสือร้องเรียนเพื่อติดตามผลไปยังหน่วยงานดังกล่าวอีกครั้ง เเต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบ

พร้อมกันนี้ยังได้แนบเรื่อง การสร้างสกายวอล์ค ของกรมโยธาธิการและผังเมืองของจังหวัดกาญจนบุรี ที่ได้ตรวจสอบในเบื้องต้น พบว่ามี เอกสารบางตัว ที่ทางกรมโยธาธิการและผังเมืองของจังหวัดกาญจนบุรี ทำหนังสือขออนุญาติรุกล้ำลำน้ำ แต่ก็ยังไม่ได้รับอนุญาติ เพราะลักษณะการก่อสร้างยื่นลงไปในลำน้ำมากกว่า อาคารบ้านพักในพื้นที่โรงเรือนปลูกกัญชาที่กำลังมีปัญหาด้วยซ้ำ

จึงอยากให้ ทาง กรมเจ้าท่า ตรวจสอบ เรื่องนี้ ภายใต้กฎหมายฉบับเดียวกัน ว่าทำไม หน่วยงานของรัฐจึงสามารถสร้างได้ โดยไม่ยึดถือตามกฎหมายและพระราชบัญญัติ การเดินเรือ และทำไมประชาชนทำไม่ได้ เพื่อคลายข้อสงสัยให้กับตัวเองรวมถึงประชาชนทั่วไป ที่สำคัญจะได้นำเรื่องที่เกิดขึ้นมาเป็นมาตรฐาน และบรรทัดฐานทางกฎหมายให้กับชาวบ้านในพื้นที่ต่อไป

ส่วนกรณีที่ผู้ว่าฯกาญจนบุรี โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวนั้น ไม่ขอออกความคิดเห็น เพราะไม่ได้ติดใจในเรื่องที่ท่านโพสต์ และส่วนตัวก็เคารพรักท่านผู้ว่าฯอยู่เสมอ






กำลังโหลดความคิดเห็น