อดีต กก.ผู้ช่วยรองนายกฯ ชี้โอละพ่อ ข่าวจับนักธุรกิจค้าอาวุธเมียนมาในไทย ฝีมือชาติมหาอำนาจอีกขั้ว ใช้แผนยืมมีดฆ่าคน ชี้ ไทยเป็นสมรภูมิข่าวกรองของหลายชาติไปแล้ว
วันนี้ (25 ก.ย.) นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีด้านความมั่นคง (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี) โพสต์ข้อความตั้งข้อสังเกต กรณีทางการไทยเข้าจับกุมนักธุรกิจค้าอาวุธชาวเมียนมาในไทย พร้อมกับโยงความสัมพันธ์ไปถึงนักการเมืองไทย ว่า คมเฉือนคม หน่วยข่าวของประเทศมหาอำนาจได้กลิ่นว่า มีเครือข่ายของรัฐบาลพม่าลักลอบ ซื้อหาอาวุธให้กับรัฐบาลพม่า ต่อมา จึงมีเหตุการณ์จับกุมเครือข่ายดังกล่าวในข้อหายาเสพติด การฟอกเงิน และค้าอาวุธสงคราม จนเป็นข่าวฮือฮาดังลั่นสนั่นประเทศไทย และยังกล่าวหาเชื่อมโยงไปถึง ส.ว.คนดังด้วย
ปรากฏว่าเหตุการณ์โอละพ่อ
ไม่รู้ว่าใครต้มใคร? หรือใครเฉือนคมใคร? หรือใครยืมมีดฆ่าคน??
เพราะปรากฏว่าเครือข่ายนั้นแท้จริงเกี่ยวข้อง และทำงานให้กับอีกประเทศหนึ่งย่านตะวันออกกลางในการค้าขายอาวุธยุทโธปกรณ์ ให้กับชนกลุ่มน้อยที่ต่อสู้กับรัฐบาลพม่า ซึ่งเป็นปรปักษ์ต่อผลประโยชน์พม่า จึงต้องกำจัดเสีย!!!!
ที่สำคัญนั้น รัฐบาลพม่า สามารถแสวงหาอาวุธชั้นยอด ได้จากรัสเซีย จีน อิหร่าน และเกาหลีเหนือ แบบได้เปล่า หรือราคาต่ำมาก เขาไม่จำเป็นต้องลักลอบหาอาวุธแบบที่เป็นข่าวเลย!!!!
ทำให้น่าคิดว่าอาจเป็นฝีมือของชาติมหาอำนาจอีกขั้วหนึ่ง ใช้แผนยืมมีดฆ่าคน จึงทำให้ประเทศผู้ค้าอาวุธย่านตะวันออกกลางเคืองแค้นเป็นอันมาก เมื่อเป็นอย่างนี้ เรื่องนี้อาจจะต้องเงียบหายไปตามสายลมหรือพลิกคดีก็ได้!!!
ในประเทศไทยของเราทุกวันนี้ได้กลายเป็นสมรภูมิสงครามข่าวกรองของหลายชาติไปแล้ว สภาพเช่นนี้อาจเป็นผลดีต่อประเทศไทยของเราก็ได้ เพราะไม่มีใครยอมให้เกิดความเสียหายขึ้นในดินแดนแห่งนี้


