ป.ป.ช.เผย ศาลอาญาทุจริตภาค 8 พิพากษาสั่งยึดทรัพย์ “พล.ต.ท.สมชาย” อดีตรอง ผบช.ภ.8 ปมร่ำรวยผิดปกติมูลค่า 136,276,311 บาท ตกเป็นของแผ่นดินตามที่ป.ป.ช.ชี้มูล
วันนี้ (21 ก.ย.) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. แถลงผลคดีตามคำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริต และประพฤติมิชอบ ภาค 8 กรณี พล.ต.ท.สมชาย นิตยบวรกุล หรือ อ่วมถนอม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 8 มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ ซึ่ง ป.ป.ช. ขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินรวมมูลค่า 136,276,311 บาท ตกเป็นของแผ่นดิน ว่า หลังคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด พล.ต.ท.สมชาย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 8 มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ และได้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวนเอกสาร พยานหลักฐาน และความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อยื่นคำร้อง ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติ ตกเป็นของแผ่นดิน ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 8 ได้มีคำพิพากษาในคดีดังกล่าว เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 65 ความแพ่ง เรื่องขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน คดีหมายเลขดำที่ พท 1/2564 คดีหมายเลขแดงที่ พท 1/2565 ระหว่างอัยการสูงสุด ผู้ร้อง กับพล.ต.ท.สมชาย นิตยบวรกุล หรืออ่วมถนอม ที่ 1 (ผู้ถูกกล่าวหา) นางเกศินี นิตยากุล ที่ 2 (ภริยาผู้ถูกกล่าวหา) และ นางสาวปาณิสรา หรือ อัญชิสา นิตยบวรกุล ที่ 3 (บุตรสาวผู้ถูกกล่าวหา) ผู้คัดค้าน
โดยศาลพิพากษาให้ทรัพย์สินของผู้คัดค้านที่ 1 ที่เป็นทรัพย์สิน ในชื่อของผู้คัดค้านที่ 1 ที่เป็นทรัพย์สินในชื่อของผู้คัดค้านที่ 2 และที่เป็นทรัพย์สินในชื่อของผู้คัดค้านที่ 3 ที่ถือครองแทน รวมจำนวน 136,276,311 บาท พร้อมด้วยดอกผลของเงิน หรือทรัพย์สินที่เกิดขึ้นทั้งหมด ตกเป็นของแผ่นดิน และให้ผู้คัดค้านที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ส่งมอบเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเงินและทรัพย์สิน จำนวน 136,276,311 บาท พร้อมด้วยดอกผลตามคำร้อง แก่แผ่นดินโดยกระทรวงการคลัง หากผู้คัดค้านทั้ง 3 ไม่สามารถโอนทรัพย์สินให้แก่แผ่นดินได้ ให้ผู้คัดค้านที่ 1 ใช้เงินจำนวน 136,276,311 บาท หรือให้โอนทรัพย์สินอื่นของผู้คัดค้านที่ 1 ตามสัดส่วนของมูลค่าทรัพย์สินที่ขาดอยู่แก่แผ่นดินแทนจนครบถ้วน และหากไม่โอน ให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนา และให้ผู้คัดค้านที่ 1 ชำระค่าฤชาธรรมเนียมแทนผู้ร้อง จำนวน 10,200 บาท
สำหรับทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ หรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่มีมูลอันจะอ้างได้ตามกฎหมาย สืบเนื่องมาจากการปฏิบัติตามหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ รวมมูลค่า 136,276,311 บาท จำนวน 14 รายการ ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวที่ศาลมีคำพิพากษา ตรงกับที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดทุกรายการ โดยมีรายละเอียดคือทรัพย์สินในชื่อ พล.ต.ท.สมชาย นิตยบวรกุล หรือ อ่วมถนอม ประกอบด้วย
1. ที่ดินโฉนดเลขที่ 37531 พร้อมบ้านพัก หมู่ที่ 7 ตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มูลค่า 5,600,000 บาท
2. เงินฝากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์พิเศษ ในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธร จังหวัดชุมพร
จำนวน 13,361,526 บาท
3. ทุนเรือนหุ้น ในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร ประเภทสามัญ จำนวน 2,000,000 บาท
ส่วนทรัพย์สินในชื่อ นางเกศินี นิตยากุล หรือ อ่วมถนอม ประกอบด้วย
1. ที่ดินโฉนดเลขที่ 37530 พร้อมบ้านพัก หมู่ที่ 7 ตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มูลค่า 4,000,000 บาท
2. ที่ดิน ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ 3 ก (น.ส.3 ก.) รวม 10 แปลง ตำบลทับใต้ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มูลค่า 13,950,000 บาท
3. ที่ดิน น.ส.3 ก. เลขที่ 16167 พร้อมอาคารพาณิชย์ (ตึกแถว 2 ชั้น) ตำบลทับใต้ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มูลค่า 800,000 บาท
4. ที่ดิน น.ส.3 ก. เลขที่ 16171 พร้อมอาคารพาณิชย์ (ตึกแถว 2 ชั้น) หมู่ที่ 2 ตำบลทับใต้ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มูลค่า 500,000 บาท
5. ห้องชุด ชั้นที่ 7 อาคารชุด คอนโดวีว่าคอนโด สาธร ตากสิน แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร มูลค่า 2,705,048 บาท
6. เงินฝากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์พิเศษ ในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร
จำนวน 54,662,500 บาท
7. เงินฝากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร จำนวน 8,450,000 บาท
8. ทุนเรือนหุ้นในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร สมาชิกสมทบ จำนวน 19,233,000 บาท
9. สิทธิเรียกร้องในเงินกู้ ระหว่าง นางเกศินี นิตยากุล หรือ อ่วมถนอม ผู้ให้กู้ กับ นายนพดล นิตยากุล ผู้กู้ จำนวน 2,100,000 บาท
นอกจากนี้ ยังมีทรัพย์สินในชื่อ นางสาวปาณิสรา หรือ อัญชิสา นิตยบวรกุล หรือ อ่วมถนอม ประกอบด้วย
1. ห้องชุด ชั้นที่ 20 อาคารชุด เอ็มคอนโด (M condo) แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร มูลค่า 8,714,237 บาท
2. รถยนต์ ยี่ห้อมาสด้า รุ่นมาสด้า 2 เลขทะเบียน 7957 ภูเก็ต มูลค่า 200,000 บาท