"เชาว์" ชี้ รพ.เอกชนถูกสปสช.ยกเลิกสัญญา จะปัดความรับผิดชอบไม่ได้ เผยมี 2 รพ.อยู่ระหว่างถูกฟ้อง เหตุมีปัญหารักษาผู้ป่วยบัตรทอง ยกเคส “ป้าประไพ” ตายจากโควิดขาดการรักษาที่เหมาะสม ระบบสธ.ล้มเหลวสปสช.-รมว.สธ.ต้องรับผิดชอบ ศาลฯนัด 1 พ.ย.
วันนี้ (19ก.ย.) นายเชาว์ มีขวด ทนายความอาสา กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช.แจ้งข่าวยกเลิกการขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการของโรงพยาบาลเอกชน ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 9 แห่ง ซึ่งจะมีผลในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ว่า ในจำนวนโรงพยาบาลที่ถูกสปสช.ยกเลิก มี 2 แห่ง ที่ตนอยู่ในระหว่างการฟ้องคดีให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเข้ารับการรักษาพยาบาล คือ คดีหมอตะคอกขู่คนไข้ตกใจตาย และกรณีของนางประไฟ สาพันธ์ ที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 เนื่องจากโรงพยาบาลตามสิทธิบัตรทอง ไม่ได้ให้การรักษาที่เหมาะสม กระทั่งเสียชีวิตในที่สุด
นายเชาว์กล่าวว่า การเอาร.พ.ที่ไม่ได้มาตรฐานออกจากระบบ ถือเรื่องถูกต้อง แต่อย่างไรก็ตามแม้โรงพยาบาลทั้งสองจะถูกยกเลิกเป็นหน่วยบริการในระบบของสปสช.แล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าความรับผิดของ สปสช.ในส่วนคดีจะสิ้นสุดลงเพียงเท่านี้
“ผมยังคงเดินหน้าดำเนินคดี สปสช.และรมว.สาธารณสุขต่อไป เพราะกรณีที่เกิดขึ้น ไม่ได้มีเพียงความบกพร่องของโรงพยาบาลเท่านั้นที่ทำให้คนไข้เสียชีวิต แต่ระบบสาธารณสุขที่ล้มเหลว ก็คือส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดความสูญเสียขึ้น ป่วยหาโรงพยาบาลรักษาไม่ได้ เป็นความรับผิดชอบของระดับผู้บริหารที่ดำเนินนโยบายผิดพลาด จะตัดตอน ปัดความรับผิดชอบให้โรงพยาบาลอย่างเดียวไม่ได้ โดยทั้งสองคดีศาลนัดสืบพยานคดีแรกวันที่ 13-14 ธันวาคมนี้ และอีกคดีศาลนัดไกล่เกลี่ยเมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่สปสช.และรมว.สาธารณสุข ส่งทีมกฎหมายมาขอเลื่อน ทำให้คดีต้องไปพิจารณากันอีกครั้งในวันที่ 1 พ.ย.นี้” นายเชาว์ ระบุทิ้งท้าย