ส.ส.ศรีสะเกษ ภท.ย้ำจุดยืน กยศ.ปลอดดอกเบี้ย ต้องเป็นบริการสาธารณะไม่สมควรหากำไร ชี้ กองทุนเข้มแข็งแล้ว หันมาช่วยประชาชนที่อ่อนแอดีกว่า บอกชีวิตเด็กจบใหม่ยากมาก
วันนี้ (19 กันยายน 2565) ที่งานเสวนาทางวิชาการ หัวข้อ "การส่งเสียงถึงคนรุ่นใหม่ ถึงพรรคการเมือง จากความฝัน ถึงนโยบายสาธารณะ เพื่อความยั่งยืนของประชาธิปไตย" ณ ศูนย์ปฏิบัติการโรงแรม มหาวิทยาลัย บูรพา จ.ชลบุรี ท่ามกลางนักศึกษาประชาชน ที่เข้ามาร่วมกิจกรรมกว่า 500 คน นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย ได้กล่าวถึงประเด็นการผลักดันให้เงินกู้ กยศ.ต้องไม่มีดอกเบี้ย ว่า เรื่อง กยศ.ทางพรรคภูมิใจไทย มองเห็นคุณค่าของการศึกษา และรัฐควรจะสนับสนุนในเรื่องนี้มากกว่าไปหาดอกเบี้ยกับอนาคตของชาติ ถึงเวลาที่ต้องเป็นบริการสาธารณะ อย่าลืมว่า น้องๆ ใช้เงินนั้นเพื่อการเรียน ไม่ได้นำเงินไปลงทุน คนที่มากู้ยืม ล้วนแต่เป็นอนาคตของชาติ ไม่มีประสบการณ์ชีวิต แต่ที่ผ่านมา ก็ยังมีบางคนบอกว่าไปเก็บดอกเบี้ยคนพวกนี้ด้วย เพราะเป็นการส่งเสริมวินัย จริงๆ จ่ายเงินต้น ก็เป็นการรักษาวินัยแล้ว จึงไม่ต้องไปเก็บดอกเบี้ยอีก บางคนบอกว่า เก็บดอกเบี้ยไปใช้เป็นงบดำเนินการ ทั้งที่เงินงบดำเนินการมี 4-6 ร้อยล้านบาท เงินทุนระดับ 4 แสนล้านบาท มีเงินหมุนเพียงพออยู่แล้ว
นายสิริพงศ์ กล่าวต่อว่า ลำพังแค่เงินต้น น้องๆ ก็เหนื่อยมาก จบออกมา ค่าเฉลี่ยเงินเดือนที่ได้รับ คือ 1.3-1.5 หมื่นบาท ไหนจะจ่ายเงินต้น ดำรงชีวิต แล้วจ่ายดอกเบี้ย กยศ. ชีวิตมันยากมาก ปัญหาหนักๆ คือ ถ้าจบออกมา แล้วได้เงินเดือนน้อยกว่านั้น หรือทำงานไป แล้วต้องออก ไม่มีเงินเดือน น้องๆ จะจัดการกับดอกเบี้ยอย่างไร ไหนจะค่าปรับอีก ถึงจะมีเงื่อนไขเรื่องการผ่อนผัน แต่ก็มีข้อกำหนด คือ ผ่อนได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 1 ปี ถ้าหลุดจากนี้ไป ทุกอย่างมันเดินไปพร้อมกันทั้งดอกเบี้ย ทั้งค่าปรับ แล้วค่าปรับนี่ 12-18% ของเงินต้นที่ค้างชำระ สรุป กยศ.คือกองทุนเพื่อการศึกษาหรืออะไรกันแน่
"นักการเมือง ต้องมองหาทางที่จะช่วยเหลือประชาชน อะไรทำได้ก่อน ก็ทำเลย อย่ามัวแต่ไปมองเรื่องช่วยกองทุน กองทุน ระบบเขาเข้มแข็งมากอยู่แล้ว มีคนเก่งๆ คอยดูแลอยู่ เงินหมุนหลัก 4-5 แสนล้านบาท แล้วประชาชนล่ะ มีอะไร เราต้องไปช่วยคนที่อ่อนแอ นี่คือแนวคิดของพรรคภูมิใจไทย และแนวคิดของผม"
นอกจากนั้น นายสิริพงศ์ ยังนำเสนอนโยบายของพรรคภูมิใจไทย อาทิ นโยบายพักหนี้ประชาชน คนละไม่เกิน 1 ล้านบาท เป็นการพักหนี้แบบ หยุดต้น ปลอดดอก เป็นเวลา 3 ปี เท่ากับเวลาที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากโควิด หนี้ธนาคาร หนี้สหกรณ์ หนี้บัตรเครดิต หนี้ผ่อนรถยนต์ หนี้ผ่อนรถมอเตอร์ไซค์ หนี้กองทุนหมู่บ้าน ใช้สิทธิได้ทั้งหมด ยกเว้นหนี้นอกระบบ ใช้สิทธิไม่ได้ นโยบายภาษีบ้านเกิดเมืองนอน ที่ให้ประชาชน เลือกจ่ายภาษีลงท้องที่ตามที่ต้องการ ไม่เกิน 30% ของภาษีทั้งหมด เพื่อกระจายงบประมาณลงท้องถิ่น ซึ่งเป็นนโยบายที่ประสบความสำเร็จในประเทศญี่ปุ่น และนโยบายไฟฟ้าประชาชน หรือการสนับสนุนให้ประชาชน ใช้แผงโซลาเซลล์ ผลิตไฟฟ้า จำหน่ายให้รัฐบาล และลดค่าไฟฟ้าได้ไม่น้อยกว่า 5 ร้อยบาทต่อเดือน ที่สำคัญคือช่วยให้รัฐบาลลดการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้า ลดการนำเข้าไฟฟ้าจากต่างประเทศ