กกต.เตือน! ระวังหาเสียงผิดกฎหมาย หลัง 24 ก.ย. แจกของน้ำท่วม-โควิด อาจเข้าข่ายซื้อสิทธิขายเสียง แนะต้องทำทุกอย่างเสมือนมี พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง
วันนี้ (17 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีสำนักงาน กกต.แจ้งเตือนเกี่ยวกับระยะเวลาในการหาเสียงเลือกตั้ง ว่า ขณะใกล้ถึงระยะเวลา 180 วัน ก่อนวันครบอายุของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะครบอายุสภาวันที่ 23 มี.ค. 2566 ที่กำหนดให้ผู้สมัครและพรรคการเมืองต้องปฏิบัติเกี่ยวกับการหาเสียงให้เป็นไปตาม มาตรา 68 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสส 2561 และต้องมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่น ให้งดเว้นการลงคะแนนให้แก่ผู้สมัคร หรือการชักชวนให้ไปลงคะแนนไม่เลือกผู้ใดเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามมาตรา 73 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับเดียวกัน ซึ่งมีช่วงระยะเวลาหาเสียงเลือกตั้ง เริ่มตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. 2565 จนถึงวันเลือกตั้ง ทั้งนี้ ในการหาเสียงเลือกตั้งดังกล่าว หากมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นผู้สมัครและพรรคการเมืองต้องเก็บรักษาเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องไว้ประกอบการยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายในการเลือกตั้งไว้ด้วยนั้น
แหล่งข่าวจากสำนักงาน กกต. ชี้แจงเพิ่มเติมว่า กรณีดังกล่าว กกต.ห่วงเรื่องการหาเสียงผิดกฎหมาย ไม่ใช่การห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายในการหาเสียงแต่อย่างใด เพราะการกระทำที่เข้าข่ายการหาเสียงผิดกฎหมายนั้นคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งไม่ได้อยู่แล้ว เนื่องการจะนำไปคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายได้จะต้องเป็นการหาเสียงที่ถูกกฎหมาย ดังนั้น นับจากวันที่ 24 ก.ย. 2565 การจะไปให้ของแจกของจะไม่สามารถทำได้แล้ว เพราะจะเป็นการหาเสียงผิดกฎหมาย เช่น การจะไปแจกของให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วม หรือแจกของเกี่ยวกับโควิด ไม่สามารถทำได้เลย ไม่ใช่ไปแจกแล้วมาคำนวณเป็นค่าใช้จ่าย เพราะตามระเบียบวิธีหาเสียงจะห้ามเรื่องเหล่านี้ไว้เลย เพราะจะถือเป็นการซื้อสิทธิขายเสียงเลย หากกระทำหลังวันที่ 24 ก.ย. 2565 แต่เรื่องที่จะคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายได้คือการหาเสียง รถแห่หาเสียง ป้ายโฆษณาแบบนี้คำนวณเป็นค่าใช้จ่ายในการหาเสียง
“หลังวันที่ 24 ก.ย.นี้ จะเข้าวิธีการหาเสียงเหมือนมีพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) เลือกตั้ง เพราะรัฐธรรมนูญ 2560 กำหนดเลื่อนระยะเวลาให้ครอบคลุม 180 วัน ก่อนวันครบอายุของสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้น ทุกอย่างจะต้องดำเนินการเสมือนตอนมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งเลย” แหล่งข่าวระบุ