xs
xsm
sm
md
lg

สวนเจ็บ! “หมอวรงค์” จวก “ทักษิณ” ไม่สำนึกผิด ดีแต่พูด “อดีตบิ๊กข่าวกรอง” ชี้ ฝ่ายค้านกลัว “บิ๊กตู่” ฉายแสงเอเปก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ “หมอวรงค์” นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม  จวก “ทักษิณ” ไม่สำนึกผิด ดีแต่พูด
ไม่สำนึกผิด? “หมอวรงค์” สวน “ทักษิณ” ดีแต่พูด จนลืมสิ่งที่ตนเองทำ หลัง “พี่โทนี่” ส่งสัญญาณปรองดอง “ผมเป็นทั้งเหลืองแดง” “อดีตบิ๊กข่าวกรอง” เชื่อ ฝ่ายค้าน จี้ “บิ๊กตู่” ลาออก เพราะกลัวบารมีฉายแสงประชุม “เอเปก”
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (14 ก.ย. 65) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ระบุว่า

“#ดีแต่พูด

เวลาเราพูดถึงนายทักษิณ ก็จะมีสาวกออกมาต่อว่า ว่า ก้าวไม่ข้ามทักษิณ แต่คนเหล่านี้ก็ไม่รู้จักไปอบรมนายทักษิณบ้างว่า อย่ามาขวางทางเดินของประเทศ การที่ ทักษิณ ออกมาขวางทางเดินประเทศ เราก็ต้องช่วยกันเขี่ยออกข้างทาง

อย่างล่าสุด ออกมาบอกว่า

“ทักษิณ” อ้างเป็นคนบุกเบิกใส่เสื้อเหลือง เป็นทั้ง เหลือง-แดง อยากเห็นบ้านเมืองมีความสามัคคี ลั่นถ้า ส.ส.พรรคอื่นย้ายกลับมาเพื่อไทย ถ้าเขาสำนึกผิด ก็ควรให้เขาเข้ามา ถ้าไม่สำนึกก็อย่ารับ

ผมก็อยากบอกนายทักษิณ ว่า ทุกคนก็อยากเห็นบ้านเมือง มีความสามัคคี ไม่อยากเห็นประชาชนเป็นเหยื่อ ถูกนักการเมืองปั่น ให้เกิดความแตกแยก แต่ขณะเดียวกัน ทุกคนก็ต้องเคารพกฎหมายเหมือนกัน ไม่ใช่คุณบอกว่า อยากเห็นบ้านเมืองสามัคคี แต่เรื่องเคารพกฎหมาย ขอยกเว้นคุณ

หรือแม้แต่ ถ้าคุณทำเหมือนที่คุณพูด เรื่องการสำนึกผิด คนไทยเขาก็ให้อภัย แต่ถ้าคุณดีแต่พูด จนไม่รู้ว่า ตนเองทำความชั่วอะไรไว้บ้าง คนไทยเขาไม่ได้กินแกลบ พวกพูดอย่าง ทำอย่าง หรือพวกดีแต่พูด จนลืมสิ่งที่ตนเองทำ ผมเชื่อว่าคนไทยเขาไม่ยอม” (จากสยามรัฐออนไลน์)

ภาพ “พี่โทนี่“” ทักษิณ ชินวัตร ขอบคุณข้อมูล-ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก CARE คิด เคลื่อน ไทย
ทั้งนี้ เนื่องมาจาก เพจเฟซบุ๊ก CARE คิด เคลื่อน ไทย โพสต์ข้อความของนายทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ใช้ชื่อ “โทนี่ วู้ดซัม” ร่วมสนทนาในคลับเฮ้าส์ ตอนหนึ่ง ระบุว่า

Q : คิดยังไงกับ ส.ส.พรรคอื่นย้ายกลับมาเพื่อไทย

โทนี่ : ผมอยากบอกกับคนเสื้อแดง ว่า ผมเป็นแดง แล้วผมก็เป็นเหลือง เพราะเป็นคนบุกเบิกใส่เสื้อเหลือง ผมเป็นทั้งเหลืองแดง และผมอยากเห็นบ้านเมืองมีความสามัคคี ลำพังสามัคคีก็ยากอยู่แล้ว ถ้าเขาสำนึกผิด ก็ควรให้เขาเข้ามา ถ้าไม่สำนึกก็อย่ารับ แต่เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องของเพื่อไทย ถ้าสำนึกเขาก็คงรับ ไม่งั้นจะชี้หน้าใส่กัน ทะเลาะกันตลอดไปอย่างนี้ไม่ดี

ส่วนศิษย์เก่าทั้งหลาย วันนี้นะ ศิษย์เก่าไทยรักไทยเยอะมาก 377 คน เคยอยู่ไทยรักไทยมาก่อน วันนี้ศิษย์เก่ามีหลายประเภท บางประเภทออกไปตั้งพรรคเอง ร้องเพลง ไมค์ ภิรมพร ไปดีขออวยพร ส่วนคนที่จะกลับเข้ามา ถ้าตั้งใจทำกับเพื่อไทยเต็มที่ก็ให้โอกาส ยกเว้นคนออกไปแล้วทำลายพรรคเพื่อไทย

ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องปล่อยให้เพื่อไทยดู แต่ในฐานะผมที่เป็นต้นเหตุ ใครมาหาเรื่อง ผมก็ให้อภัย แล้วใครไม่ต้องอโหสิ ผมขออโหสิกรรมก่อน

ภาพ นายนันทิวัฒน์ สามารถ จากแฟ้ม
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นายนันทิวัฒน์ สามารถ เลขานุการ รมว.ต่างประเทศ และ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Nantiwat Samart ระบุว่า

“ฟันธง

วันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะยังไม่วินิจฉัยคดี 8 ปี ลุงตู่ น่าจะเพียงสรุปรูปคดีว่า หลักฐานพยานเพียงพอหรือไม่แก่การวินิจฉัย....

ประเด็นพิจารณาคือ มาตรา 158.และมาตรา 159

ม.158 บัญญัติว่า นรม.จะดำรงตำแหน่งรวมกันแล้วเกินกว่าแปดปีไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการดำรงตำแหน่งติดต่อกันหรือไม่

ม.159 ให้สภาพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกฯ

คำถามจึงมีว่า รัฐธรรมนูญปี 2560 จะสามารถใช้บังคับย้อนหลังกับความเป็นนายกฯของลุงตู่เมื่อปี 2557 ได้หรือไม่ เพราะลุงตู่เป็นนายกสมัยแรกตาม ม.19 รัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) ปี 2557 และดำรงตำแหน่งนายกฯเมื่อ 24 สิงหาคม 2557 และสิ้นสุดความเป็น ครม.ลงเมื่อ 6 เมษายน 2560 หลังมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญปี 2560

แต่ในบทเฉพาะกาลรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 264 บัญญัติว่า ให้คณะรัฐมนตรีที่บริหารราชการแผ่นดินอยู่ในวันก่อนการประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ เป็นคณะรัฐมนตรีตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ จนกว่า คณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญนี้จะเข้ารับหน้าที่

อ่านตามนี้ ก็น่าจะตีความได้ว่า ลุงตู่ยังเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ถึง 8 ปีตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้. แต่จะครบ 8 ปี เมื่อไรต้องถามใจตุลาการฯ ว่า จะวินิจฉัยได้มั้ย เกินคำร้องขอหรือไม่

น่าสนใจว่า ทำไมฝ่ายค้านฝ่ายแค้นถึงเรียกร้องให้ลุงตู่ลาออก. น่าจะรู้ดีว่า ลากยังไงก็ไม่ถึง 8 ปีแน่นอน

เป้าหมายเฉพาะหน้า คือ ไม่อยากให้ลุงตู่เป็นเจ้าภาพจัดประชุมสุดยอดเอเปคในไทย. ไม่อยากให้บารมีลุงตู่ฉายแสงจับมือกับผู้นำมหาอำนาจ และมิตรประเทศ

เป้าหมายสูงสุดคือ ไม่อยากให้ลุงตู่นำหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งและเป็นนายกรัฐมนตรีอีกหลังการเลือกตั้งครั้งใหม่.

ดูออก รู้แหละว่า กลัวลุงตู่”

แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ ด้านหนึ่ง “ทักษิณ” พยายามที่จะใช้พลพรรคเพื่อไทย และ “เหล่าสาวก” ทั้งหลาย กดดันให้ “บิ๊กตู่” ลาออกโดยไม่ต้องรอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย หรือยอมรับผิดตามข้อกล่าวหา ของฝ่ายค้าน โดยไม่ต้องให้ศาลตัดสิน

จนถูกสวนกลับ ตนไม่เคารพกฎหมายไม่พอ ยังใช้วิธีกดดันนอกกฎหมาย กับคนที่เคารพกฎหมาย และพร้อมยอมรับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ อันเป็นแบบอย่างของ “ผู้นำ” ที่ดี

หรือแม้แต่ถูกสวน “นายกฯ เถื่อน อยู่ดูไบ”

อีกด้านหนึ่ง “ทักษิณ” ในนาม “พี่โทนี่” ก็พยายามปลุกกระแสทางการเมือง ช่วยครอบครัวชินวัตร ซึ่งมี “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร เป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ที่ถูกคาดหมายว่า จะเป็น “แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี” ของเพื่อไทย หาเสียงเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งทั่วไป ส.ส.ครั้งหน้า

จนแทบแยกไม่ออกว่า ครอบครัวไหนเป็นครอบครัวไหน?

และที่น่าทึ่งในความเป็น “ทักษิณ” ก็คือ เขาทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง จนแทบหาจุดยืนที่แท้จริงไม่ได้ อย่างแอบเชียร์คนรุนใหม่ เพื่อต้องการคะแนนคนรุ่นใหม่ ทั้งที่ตัวเองไม่กล้าที่จะเปิดตัวสนับสนุน “ปฏิรูปสถาบันฯ” หรือไม่ จนถูกสามนิ้วจำนวนหนึ่ง “ก้าวข้ามทักษิณ” แต่ก็ยังหวังว่า “อุ๊งอิ๊ง” และ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่เคยร่วมม็อบคนรุ่นใหม่ จะช่วยได้บ้าง

การออกมาโจมตีทุกคนที่ออกจากพรรคเพื่อไทย ไทยรักไทย พร้อมดิสเครดิตต่างๆ นานา แม้แต่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่ถูกหาว่า ดูด ส.ส.ของพรรค แอบอ้างพรรค ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่เคยทำประโยชน์ให้มากมาย ก็ยังโดยด้วย

มาวันนี้ พวกจะโกยคะแนนทั้ง “เหลือง-แดง” ต้องการให้สามัคคี บอกว่า เป็นคนบุกเบิกใส่เสื้อเหลือง

สรุปแล้ว “ทักษิณ” มีจุดยืนอยู่ตรงไหนไม่รู้ รู้แต่ว่า ทำทุกอย่างเพื่อคะแนนเสียงเลือกตั้ง เพื่อดัน “อุ๊งอิ๊ง” เป็นนายกฯให้ได้เท่านั้น?


กำลังโหลดความคิดเห็น