มหาดไทย เวียนด่วน! สั่ง 76 ผู้ว่าฯ-18 กลุ่มจังหวัด “ชะลอ” แผนพัฒนาและแผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ประจำปีงบฯ 2567 รอคำสั่ง แต่งตั้ง ก.น.บ.-ก.บ.จ. และ ก.บ.ก. ชุดใหม่ หลัง พ.ร.ฎ.บริหารงานจังหวัด ฉบับเก่าใช้มากว่า 15 ปี
วันนี้ (13 ก.ย.) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เวียนหนังสือด่วนที่สุด ถึงผู้ว่าราชการจังหวัด 76 จังหวัด และหัวหน้ากลุ่มจังหวัด 18 กลุ่มจังหวัด ให้ “ชะลอ” การจัดส่งแผนพัฒนาและแผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567
ล่าสุด สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานเซิงพื้นที่แบบบูรณาการ (ก.น.บ.) แจ้งว่า พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ พ.ศ. 2565 ได้ประกาศและมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม 2565 แล้ว
“ขอให้กระทรวงมหาดไทย แจ้งจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ชะลอการจัดทำแผนพัฒนาและแผนปฏิบัติราชการของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยจะแจ้งแนวทางการดำเนินการและกำหนดการจัดส่งแผนให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง”
พระราชกฤษฎีกาฉบับดังกล่าว ได้บัญญัติให้ “ยกเลิก” พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ พ.ศ. 2551 รวมทั้งได้มีระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารงานเซิงพื้นที่แบบบูรณาการ พ.ศ. 2560 พ.ศ. 2565
มีผลทำให้คณะกรรมการบูรณาการนโยบายพัฒนาภาค (ก.บ.ภ) คณะกรรมการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.น.จ.) คณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.บ.จ.) และคณะกรรมการบริหารงานกสุมจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.บ.ก) ตามพระราชกฤษฎีกา ว่าด้วยการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ พ.ศ. 2551 และตามระเบียบข้างต้นสิ้นสภาพไปแล้ว
“โดยต้องมีการแต่งตั้ง ก.น.บ. ก.บ.จ. และ ก.บ.ก. ชุดใหม่ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 13 และมาตรา 15 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการบริหารงานเซิงพื้นที่แบบบูรณาการ พ.ศ. 2565”
หนังสือฉบับนี้ กระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้จังหวัดและกลุ่มจังหวัด พิจารณาดำเนินการตามที่สภาพัฒน์ กำหนด
ส่วนกรณีจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ได้มีการจัดประชุม ก.บ.ก. และ ก.บ.จ. ในห้วงระยะเวลา หลังจากวันที่พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ พ.ศ. 2565 มีผลบังคับใช้ ขอให้รายงานให้กระทรวงมหาดไทยทราบภายในวันที่ 16 กันยายน นี้
สำหรับงบประมาณจังหวัดและกลุ่มจังหวัดในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ได้รับจัดสรรจำนวน 17,411.0 ล้านบาท (จากกรอบวงเงินเดิม 28,000 ล้านบาท) น้อยกว่ากรอบวงเงินถึง 10,589.0 ล้านบาท หรือร้อยละ 37.8 ทำให้งบประมาณดังกล่าวเหลือเพียงร้อยละ 62.2 ของกรอบวงเงินงบประมาณจังหวัดและกลุ่มจังหวัด
ขณะที่ตามร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ตามแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด พ.ศ. 2566-2570
“แผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด จำนวนรวม 1,854 โครงการ 40,822.6021 ล้านบาท โดยเป็นงบประมาณที่ ได้สนับสนุนในกรอบวงเงิน จำนวน 1,409 โครงการ 29,284.2278 ล้านบาท และงบประมาณที่เห็นควรสนับสนุนเกินกรอบวงเงิน จำนวน 445 โครงการ 11,538.3743 ล้านบาท”