หรือว่าจริง? “สาวกเพื่อไทย” แห่แชร์ “ดีลลับ” นำ “ทักษิณ” กลับไทย หลัง “พจมาน” โผล่ให้กำลังใจ “อุ๊งอิ๊ง” “เอาอยู่!” มาเอง “ปู” แนะ รบ.วางแผนระบายน้ำ บ่นเสียดายนโยบายไม่ได้ทำ “อดีตบิ๊ก ศรภ.” เทียบกันยาฯ 64 กับ 65
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (11 ก.ย. 65) จากกรณี คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ คุณแม่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร และอดีตภริยานายทักษิณ ชินวัตร ไปปรากฏตัวในกิจกรรม “สะบัดชัย เพื่อไทยมาเหนือ” ของพรรคเพื่อไทย ที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ล่าสุด ขณะนี้ในกลุ่มคนที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย ได้มีการแชร์ข้อความ ความเห็นเกี่ยวกับการปรากฏตัวของคุณหญิงพจมาน ในกิจกรรมพรรคเพื่อไทย
โดยข้อความมีรายละเอียดดังนี้ การปรากฏตัวของ คุณหญิงพจมาน ที่เวทีหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ในจังหวัดเชียงใหม่ เป็นการส่งสัญญาณไปถึงทุกๆ คน ทุกๆ ฝ่ายในแผ่นดินนี้ให้รับรู้ไว้ว่า
1. ครอบครัวชินวัตรเอาจริงเต็ม 100 ไม่มีถอยแม้แต่ก้าวเดียว !!!
2. กระสุนในคลัง ขนออกมาได้เต็มที่ไม่มีอั้น งานนี้ ชินวัตร เทหมดหน้าตัก ไม่มีกั๊ก ไม่มีกระปริดกระปรอย รับรองลื่นปรื๊ดไหลปรูดปราด ไม่มีสะดุด เพราะคุณหญิงอ้อหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยตัวจริง ได้เปิดเผยออกมาอย่างชัดเจน ไม่มีปิดไม่มีลับ ลวง พราง กันแล้ว
3. ดีลลับพาท่านนายกฯทักษิณกลับบ้าน จบการเจรจาต่อรองลงแล้วอย่างเรียบร้อย ท่านนายกฯทักษิณได้กลับบ้านแน่นอน เพราะถ้าดีลไม่จบ คุณหญิงอ้อจะไม่กระดิกตัวให้ศัตรูเห็นเด็ดขาด !!!!
4. งานนี้ คุณหญิงอ้อเดินออกมานำขบวนด้วยตัวเองชัดๆ แบบนี้ เลือกตั้งครั้งหน้าอย่าว่าแลนด์สไลด์เลยครับ ต้องเรียกว่า เพื่อไทยจะชนะแบบฟ้าถล่มดินทลายกันเลยล่ะครับ คบท.ขอฟันธง (จากไทยโพสต์)
ขณะเดียวกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra ระบุว่า
จากที่ดิฉันได้ติดตามสถานการณ์สภาพอากาศในประเทศไทย เห็นว่า ปีนี้เป็นปีที่ฝนตกมาก ทำให้มีปริมาณน้ำมาก แม้อาจจะไม่เท่าปี 2554 แต่ก็อดห่วงพี่น้องเกษตรกรไม่ได้ค่ะ โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มภาคกลาง เพราะพบว่ามีการปล่อยให้น้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่นา ทำให้ผลผลิตข้าวของชาวนาได้รับความเสียหาย ทั้งๆ ที่ควรระบายน้ำลงแม่น้ำเจ้าพระยาที่ยังพร่องอยู่ ขณะที่น้ำจากทุ่งรังสิตกำลังเข้ามาใกล้กรุงเทพฯ
“รัฐบาลต้องวางแผนระบายน้ำออกไปยังแม่น้ำบางปะกง และเจ้าพระยา แต่เนิ่นๆ เพราะในสมัยรัฐบาลดิฉัน ได้สร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯ ไว้แล้ว ทั้งฝั่งตะวันตก และทางตอนใต้ของคลองรังสิต รวมทั้งรัฐบาลต้องประสานความร่วมมือกับ กทม. ให้สามารถระบายน้ำตามคลองหลักได้อย่างสะดวก มาถึงวันนี้ ดิฉันยังอดเสียดายโครงการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบที่เคยวางแผนมิได้ หากวันนั้นได้มีโอกาสเดินหน้านโยบาย วันนี้ปัญหาเช่นนี้คงไม่เกิด อย่างไรก็ตาม ดิฉันขอส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้สามารถเร่งจัดการน้ำได้ทันท่วงทีเพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรและชาวกทม. ด้วยค่ะ” (จากไทยโพสต์)
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ “ความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่เกิดขึ้นในกันยายนปีที่แล้วกับกันยายนปีนี้” ระบุว่า
“วันเวลาแม้จะเป็นเรื่องที่มนุษย์สมมติขึ้น ก็ตาม แต่บางทีในที่สุดมันได้กลับกลายมาเป็นตัวบงการชีวิต ของมนุษย์เสียเอง เมื่อปีที่แล้ว ผมเพิ่งจะเขียนเรื่องราวของ September in the rain ไปหยกๆ ในบล็อก OK Nation และในหนังสือของชมรมภาษาอังกฤษของโรงเรียนหญิงแห่งหนึ่ง จู่ๆ ”September” ก็วนมาถึงอีกแล้วแบบรวดเร็วแทบไม่ทันตั้งตัว
เมื่อศุกร์แรกของเดือนกันยาปีนี้ ผมไปพูดเรื่องประวัติศาสตร์ ให้นิสิต ม.เกษตร 160 คนฟัง ที่ทำเนียบรัฐบาล น้องๆ หลายคนมาถามผมว่า ทำไมทำเนียบเหงาจังเลย หรือเป็นเพราะ นายกฯไม่อยู่ ผมบอกว่า “ไม่ทราบ” ปีนี้ผมก็เพิ่งมาที่ทำเนียบเป็นครั้งแรก เหมือนกัน แต่ปีนี้มีอะไรเปลี่ยนแยะมาก แล้วก็เล่าให้พวกเขาฟัง ได้เสียงหัวเราะมาพอสมควร เช่น
1. ปีที่แล้วฝนตกมากพอๆ กับปีนี้ แต่น้ำไม่ท่วมมาถึง ถนนหน้าบ้าน แต่ปีนี้ท่วมถึงตั้งแต่คืนวันที่ 6 และยังไม่ค่อยจะลงอีก นิสิตหลายคนบอกว่า “น่าจะเป็นเพราะเพิ่งจะเปลี่ยนตัวผู้ว่าฯ มาได้แค่ 3 เดือน” ผมก็เห็นด้วย งั้นรอดูปีหน้าก็แล้วกัน 2. “ปีที่แล้ว นายกฯชื่อลุงตู่ ปีนี้จะชื่อ ลุงตู่ ต่อไปหรือไม่คะ” ก็ต้องแล้วแต่ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสิน ลุงแกยอมรับอยู่แล้ว แต่ “ฝ่ายแค้น” จะยอมรับบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้
3. ปีที่แล้ว หมอที่น่าสงสาร คือ หมอชลน่าน เพราะทำงาน ตัวเป็นเกลียว หัวเป็นนอต แต่ปีนี้ หลายคนว่าน่าสงสารกว่าปีที่ผ่านมา 4. ปีที่แล้วยังเป็นครอบครัวพรรคเพื่อไทยอยู่เลย มากันยายนปีนี้ กลายมาเป็นครอบครัวของคนอิสานไปแล้ว ถึงกับทำเอาประพันธ์ คุณมี ของขึ้นเลย 5. ปีที่แล้ว คุณกร ประกาศว่า ”กล้า” แต่ปีนี้ มีคนว่า “ไม่กล้าจริง” ผมกลับเห็นว่า การพลิกแพลงยุทธวิถีให้เหมาะสมกับสถานการณ์เฉพาะหน้า ของคุณกร นั้นใช้ได้ อย่าเพิ่งท้อครับ 6. ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ผมไม่เคยเห็นด้วย กับข้อคิดของพรรคก้าวไกลเลยสักเรื่องหนึ่ง แต่ปีนี้เพิ่งจะเห็นด้วยตรงข้อคิดเรื่อง “ให้ บุคคลเป็น ส.ส. ได้รวมกันไม่เกิน 8 ปี” จะส่งผลทำให้มีการเปลี่ยนคนใหม่ๆ เข้ามาบ้าง
7. ปีที่แล้วพรรคภูมิใจไทยยังเป็นสิงโตเด็กๆ อยู่เลย แต่ปีนี้กลับกลายเป็นสิงห์หนุ่ม มีแผงคอโชว์ให้เห็นแล้ว ใครที่เคยไปแหย่เล่น ระวังถูกตะปบเอาไปกินนะครับ 8. ปีที่แล้ว ร.อ.ธรรมนัส เป็นตัวชี้ขาดทางการเมือง แต่ปีนี้ กลายเป็นตัวประกอบ ต้องขยันหน่อยครับ 9. ปีที่แล้ว ลุงตู่ยังเฉยๆ กับพรรคการเมือง แต่ปีนี้ต้องดูกัน ว่าลุงแกจะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคไหน สมัครแน่นอนครับ”
แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ แท้จริงแล้ว การปรากฏตัวของ “คุณหญิงพจมาน” อาจไม่เพียงให้กำลังใจ “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือไม่
เพราะสิ่งที่ “สาวกเพื่อไทย” แชร์ความสำเร็จของ “ดีลลับ” นำ “ทักษิณ” กลับบ้าน ซึ่งอ้างการปรากฏตัวของคุณหญิงพจมาน ก็มีเหตุผลไม่น้อย เพราะปกติ คุณหญิงพจมาน จะไม่ยอมเป็นข่าวง่ายๆ ผิดกับครั้งนี้
แต่ขณะเดียวกัน อาจเป็นเกมของเพื่อไทยเอง ที่ปล่อยข่าวเรื่องนี้ เพื่อให้ “สาวก” เชื่อมั่นว่า พรรคเพื่อไทย มี “นายใหญ่” และครอบครัวหนุนหลังอย่างเต็มที่ ไม่เพียงแค่ “อุ๊งอิ๊ง” เท่านั้น เพื่อมัดใจ สาวกจำนวนหนึ่ง ที่อาจมองว่า “ทักษิณ” กลับไทยไม่ได้แล้ว เป็นกลยุทธ์ดึง “คนรักทักษิณ” กลับมาก็เป็นได้
อย่างที่ “อุ๊งอิ๊ง” ก็บอกว่า แม่มาให้กำลังใจ และไม่เกี่ยวกับการเมือง ซึ่งก็อาจจริงก็เป็นได้
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ถือว่าเรื่องนี้ ทำให้พรรคเพื่อไทยได้ประโยชน์ ต่อให้จริงหรือไม่ก็ตาม
ส่วนกรณี “ปู-ยิ่งลักษณ์” ดูแล้ว เป็นการโหนสถานการณ์น้ำท่วม เพื่อที่จะโจมตีฝ่ายตรงข้าม ว่า เป็นต้นเหตุทำให้ประชาชนเดือดร้อน เพราะทำให้นโยบายจัดการน้ำของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ไม่สามารถเดินต่อได้ ซึ่งก็ไม่แน่ว่า เดินต่อจะแก้ปัญหาน้ำท่วมได้หรือไม่ แต่เมื่อยังไม่ได้ทำ ก็เลยพูดได้?
และที่เด็ดสุด คือ ฟันธงทิ้งท้ายของ “อดีตบิ๊ก ศรภ.” ที่ว่า “บิ๊กตู่” จะสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองแน่นอน อย่างนี้ ก็เท่ากับฟันธงด้วยว่า “บิ๊กตู่” ยังเป็นนายกฯไม่ครบ 8 ปี หรือไม่