xs
xsm
sm
md
lg

จับโป๊ะ “มีชัย” ส่อให้การเท็จ บันทึกประชุม กรธ.ครั้งที่ 501 ยืนยันรับรองครั้งที่ 500 นับวาระนายกฯ รวมก่อนปี 60

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เปิดบันทึกการประชุม กรธ.ครั้งที่ 501 “มีชัย” นั่งเป็นประธานเอง รับรองการประชุมครั้งที่ 500 ที่ประธาน กรธ.เคยบอกการนับระยะเวลานายกฯ 8 ปี ให้รวมช่วงการดำรงตำแหน่งก่อนรัฐธรรมนูญ 2560 ด้วย สวนทางคำชี้แจงที่ยื่นต่อศาล รธน.ที่ระบุให้เริ่มนับ 6 เม.ย. 60

จากกรณีที่ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ได้ทำหนังสือชี้แจงต่อคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เรื่อง การนับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยมีใจความสำคัญสรุปได้ว่า ให้เริ่มนับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตั้งแต่วันที่รัฐธรรมนูญ 2560 มีผลใช้บังคับ นั่นคือ วันที่ 6 เมษายน 2560

ส่วนกรณีบันทึกการประชุม กรธ.ครั้งที่ 500 เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2561 ที่ระบุถึงคำกล่าวของนายมีชัย ที่ว่า ให้นับรวมระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายกฯ ก่อนการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2560 ด้วยนั้น นายมีชัย ชี้แจงว่า เป็นการจดรายงานที่ไม่ครบถ้วน เป็นการสรุปตามความเข้าใจของผู้จด คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญยังไม่ได้ตรวจรับรองรายงานการประชุมดังกล่าว เพราะเป็นการประชุมครั้งสุดท้าย และคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญได้ประกาศสิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 12 กันยายน 2561 นั้น

ล่าสุด มีการเผยแพร่เอกสารบันทึกการประชุม กรธ.ครั้งที่ 501 วันที่ 11 กันยายน 2561 ซึ่ง นายมีชัย เป็นประธานการประชุม ในระเบียบวาระที่ 2 รับรองบันทึกการประชุม ได้ระบุว่า คณะกรรมการฯ มีมติรับรองบันทึกการประชุมครั้งที่ 497 วันอังคารที่ 28 สิงหาคม 2561 ถึงครั้งที่ 500 วันศุกร์ที่ 7 กันยายน 2561 ที่คณะอนุกรรมการพิจารณาตรวจบันทึกการประชุมและรายงานการประชุมตรวจทานแล้ว โดยไม่มีการแก้ไข จึงถือว่าคำชี้แจงของนายมีชัยต่อศาลรัฐธรรรมนูญขัดแย้งกับข้อความในบันทึกการประชุมดังกล่าว

ทั้งนี้ ในการประชุม กรธ.ครั้งที่ 500 เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2561 ระเบียบวาระที่ 3 เรื่องพิจารณา ได้มีการพิจารณาความมุ่งหมายและคําอธิบายประกอบของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ในมาตรา 158 ในวรรคสี่ ประเด็นนายกรัฐมนตรีจะดํารงตําแหน่งรวมกันแล้วเกินแปดปีมิได้นั้น ที่ประชุมได้พิจารณาว่า ผู้ที่เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ก่อนวันที่รัฐธรรมนูญ 2560 ประกาศใช้บังคับ สามารถนับรวมระยะเวลาที่ดํารงตําแหน่งนายกรัฐมนตรีดังกล่าวเข้ากับวาระการดํารงตําแหน่งนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ 2560 หรือไม่

ซึ่ง นายสุพจน์ ไข่มุกด์ รองประธาน กรธ. คนที่หนึ่ง ได้กล่าวว่า หากนายกรัฐมนตรีที่ดํารงตําแหน่งอยู่ก่อนวันที่รัฐธรรมนูญ 2560 ประกาศใช้บังคับ เมื่อประเทศไทยยังคงมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ก็ควรนับระยะเวลาที่ดํารงตําแหน่งดังกล่าว รวมเข้ากับระยะเวลาที่ดํารงตําแหน่งนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ 2560 ด้วย

ส่วน นายมีชัย ในฐานะประธาน กรธ.กล่าวว่า เมื่อพิจารณาบทเฉพาะกาลในมาตรา 264 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “ให้คณะรัฐมนตรีที่บริหารราชการแผ่นดินอยู่ในวันก่อนวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้เป็นคณะรัฐมนตรีตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ จนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญนี้จะเข้ารับหน้าที่ และให้นําความในมาตรา 263 วรรคสาม มาใช้บังคับแก่การดํารงตําแหน่งรัฐมนตรีด้วยโดยอนุโลม” การบัญญัติในลักษณะดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า แม้จะดํารงตําแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่ก่อนวันที่รัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับก็สามารถนับรวมระยะเวลาดังกล่าวรวมกับระยะเวลาที่ดํารงตําแหน่งนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ 2560 ได้ ซึ่งเมื่อนับรวมระยะเวลาที่ดํารงตําแหน่งนายกรัฐมนตรีต้องมีระยะเวลาไม่เกินแปดปี












กำลังโหลดความคิดเห็น