ถึงรอบเปลี่ยน! “สำนักนายกฯ” จ่อซื้อ "ยาง-กระจก" รถกันกระสุนใหม่ แทนของเก่าที่วิ่งกว่า 8 ปี พบใช้กับรถยี่ห้อดัง 2 คัน ที่จัดซื้อเมื่อปี 58 เป็นยางกันกระสุน ชนิดพิเศษ 8 เส้น 2.3 ล้าน ตกเส้นละ 2 แสน ทดแทนยางเก่าที่หมดอายุ ที่ใช้วิ่งมากว่า 8 ปี หลังจัดซื้อเมื่อปี 58 วงเงิน 78 ล้าน ส่วน "กระจกกันกระสุน" เปลี่ยนแค่คันเดียว
วันนี้ (5 ก.ย.2565) มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) ได้เผยแพร่ประกาศการประกวดราคา 2 ฉบับ ในการจัดซื้อยาง และกระจกด้านหน้า รถยนต์กันกระสุน จำนวน 2 ฉบับ วงเงินรวม 2,903,300 บาท
ฉบับแรกเพื่อจัดซื้อยางรถยนต์กันกระสุน จำนวน 8 เส้น สำหรับรถยนต์ยี่ห้อ เบนซ์ รุ่น S600 ชนิดพิเศษ (กันกระสุน) จำนวน 2 คัน ทะเบียน 4กค - 29 กรุงเทพมหานคร และ 4กฏ - 29 กรุงเทพมหานคร และค่าแรงติดตั้ง เป็นราคาทั้งสิ้น 2,303,300 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และค่าใช้จ่ายอื่นๆ
ขณะที่ฉบับที่สอง เพื่อจัดซื้อกระจกด้านหน้ารถยนต์ (กันกระสุน) สำหรับรถยนต์ยี่ห้อ เบนซ์ รุ่น S600 ชนิดพิเศษ (กันกระสุน) จำนวน 1 คัน ทะเบียน 4กฏ - 29 กรุงเทพมหานคร และค่าแรงติดตั้ง เป็นราคาทั้งสิ้น 600,000 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และค่าใช้จ่ายอื่นๆ
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา พลขับได้นำรถประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทะเบียน 4 กต 29 กรุงเทพมหานคร พร้อมรถในขบวน 3 คัน รวมเป็น 4 คัน ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้เป็นพาหนะในระหว่างปฏิบัติหน้าที่นายกฯ กลับมาคืนที่กองสถานที่ ยานพาหนะ และรักษาความปลอดภัย ทำเนียบฯ จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเสียงวิจารณ์ที่ใช้ทรัพย์สินราชการ
เมื่อปี 2562 สลน. เพิ่งทำสัญญาซื้อยางรถยนต์กันกระสุน สำหรับรถยนต์ยี่ห้อ เบนซ์ รุ่น S600 ชนิดพิเศษ (กันกระสุน) จำนวน 16 เส้น และค่าแรงถอดประกอบ เป็นราคาทั้งสิ้น 4,240,000 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 277,383.18 บาท และค่าใช้จ่ายอื่นๆ
โดยมีชื่อบริษัท สตาร์แฟลก จำกัด เป็นบริษัทชนะการประมูลจำหน่ายและถอดประกอบยางรถยนต์ดังกล่าว
ครั้งนั้น สลน.ได้ประกาศราคากลาง และดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง ตั้งแต่เดือน พ.ย. 2561 งบประมาณวงเงิน 4,240,452.80 บาท (16 เส้น) ราคาตกเส้นละ 265,028.30 บาท
สำหรับ รถยนต์ยี่ห้อ เบนซ์ รุ่น S600 ดังกล่าวพบว่า เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2558 สลน.ได้ทำสัญญาเลขที่สัญญา 32/2558 ซื้อรถเบนซ์ รุ่น S600 Guard sedan long จำนวน 4 คัน จากบริษัท Mercedes Benz ในวงเงิน 78 ล้านบาท
รถยนต์จำนวนดังกล่าวจะถูกนำมาใช้เป็นรถประจำตำแหน่งบุคคลสำคัญหรือผู้นำจากทั่วโลกในขณะที่เดินทางมาเยือนประเทศไทย
โดยในคราวนั้น พล.อ.วิลาศ อรุณศรี อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า โครงการดังกล่าวเริ่มมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลที่แล้ว (รบ.น.ส.ยิ่งลักษณ์)
สลน.เห็นว่าเป็นโครงการที่ดีและมีความจำเป็นในแง่ของการอารักขารักษาความปลอดภัย และเพื่อเป็นเกียรติภูมิของประเทศไทยในการต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองบุคคลสำคัญหรือผู้นำระดับโลก
เนื่องจากก่อนหน้านี้ มีผู้นำจากต่างประเทศ หรือบุคคลสำคัญมาเยือนประเทศไทย แต่รัฐบาลไม่มีรถยนต์ให้ใช้งานเพื่อเดินทาง จนต้องนำรถประจำตำแหน่งในขบวนของนายกรัฐมนตรีมาใช้แทน
"ขณะที่ โครงการนี้แต่เดิมในรัฐบาลชุดที่แล้ว มีการตั้งงบประมาณไว้ที่ 80-90 กว่าล้านบาท แต่ สลน.ได้ปรับลดลงจนเหลือ 78 ล้านบาท ทำให้ประหยัดเงินงบประมาณไปได้พอสมควร โดยตกคันละ 19.5 ล้าน”
อย่างไรก็ตาม การจัดซื้อรถยนต์ดังกล่าวในคราวนั้นและปัจจุบันในเว็บไซต์ของสำนักเลขาธิการนายกฯ ไม่พบว่ามีการนำข้อมูลการจัดซื้อรถเบนซ์ รุ่น S600 Guard sedan long จำนวน 4 คัน ดังกล่าว มาเปิดเผยไว้แต่อย่างใด
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2559 ทีมรักษาความปลอดภัยนายกรัฐมนตรี ได้รับรถประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการจำนวน 2 คัน ทะเบียน “4 กด 29 กรุงเทพมหานคร” และ “4 กต 29 กรุงเทพมหานคร” จากสำนักสถานที่และรักษาความปลอดภัย (สสร.) ทำเนียบรัฐบาล โดยทั้ง 2 คัน เป็นรถประจำตำแหน่งใหม่ให้แก่นายกรัฐมนตรี
"2 คันแรก ใช้ในการรับรองแขกคนสำคัญของรัฐบาล และอีก 2 คัน เป็นรถประจำตำแหน่งใหม่ให้กับนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นรถทะเบียน 4 กด 29 กรุงเทพมหานคร และ 4 กต 29 กรุงเทพมหานคร"
ขณที่ช่วงนั่งเป็นหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ส่วนใหญ่ใช้รถเบนซ์กันกระสุนส่วนตัวสีดำ ทะเบียน ญค 1881 กรุงเทพมหานคร