“อัษฎางค์” ย้อนวลี “ผมเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่รอศาลตัดสิน” คือ หนี? “หมอวรงค์” ซัด “เพื่อไทย” ยิ่งดิ้นจำนำข้าว ยิ่งตอกแผล “ยิ่งลักษณ์” “ธนกร” โพสต์คู่ “บิ๊กตู่” คิดถึง จึงมาหา “ณิชาภา” ขอโทษเคยร่วมม็อบนกหวีด
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (1 ก.ย. 65) นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค ระบุ ว่า
“ผมเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่รอศาลตัดสิน”
คำกล่าว จากตัวตนจริงๆ ของทักษิณ ชินวัตร
ซึ่งคำนี้ในฐานะพี่ คงเคยแนะนำน้องสาวไปแล้ว ก่อนคิดจะมาแนะนำ พล.อ.ประยุทธ์
คนฉลาดในมุมมองของทักษิณ คือ คนที่ไม่ยอมรับกฎกติกา ไม่ยอมรับการตัดสินตามกระบวนการยุติธรรม แต่หนี คือ หนทางหล่อๆ ของคนฉลาดตามมุมมองของเขา
ขณะเดียวกัน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ “#พรรคเพื่อไทยดิ้นหนักจำนำข้าว” ระบุว่า
“ในช่วงสัปดาห์ ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยพยายามดิ้น เรื่องจำนำข้าวอย่างหนัก โดยมีเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์คือ
1. ทีมโฆษก ออกมาพูดเองว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่เคยต้องคำพิพากษาทุจริตในคดีจำนำข้าว
2. ส่งอดีตเจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส.ที่มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย มาให้สัมภาษณ์ เรื่องจำนำข้าว
ประเด็นแรก ต้องให้ทีมโฆษกพรรคเพื่อไทย ไปอ่านคำพิพากษา ศาลฎีกานักการเมือง ซึ่งศาลท่านได้พูดชัดเจน สรุปได้ว่า การดำเนินโครงการรับจำนำข้าวนั้น มีความเสียหายทุกขั้นตอน ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เพียงแต่ขั้นตอนต้นน้ำ และกลางน้ำ เป็นความรับผิดชอบ ของฝ่ายปฏิบัติ
ส่วนปลายน้ำ คือ ระบายข้าวแบบจีทูจี เป็นความรับผิดชอบของนางสาวยิ่งลักษณ์ ฐานปล่อยปละละเลย ศาลได้พิพากษาว่า การกระทำของนางสาวยิ่งลักษณ์ จึงเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
ส่วนประเด็นที่สอง ที่พยายามให้อดีตเจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส. ออกมาพูดเพื่อแก้ต่างให้ มีประเด็นที่น่าสนใจคือ
1. เขายอมรับเองว่า ขณะนั้นอายุ 28 ปี จะมีความรับผิดชอบอะไรถึงระดับนโยบาย โดยเฉพาะเรื่องที่ศาลตัดสิน ความผิดยิ่งลักษณ์ เรื่องปล่อยปละละเลยโดยทุจริตเรื่องจีทูจี รวมทั้งการปิดบัญชีจำนำข้าว ที่สร้างความเสียหายถึง 536,000 ล้านบาท
2. เขาก็ยอมรับเองว่า เคยไปตรวจที่โรงพยาบาลจิตเวช
3. ฟังไปเรื่อยๆ ยิ่งผูกมัดนางสาวยิ่งลักษณ์ เรื่องมีใบประทวนปลอมจริง ยิ่งสะท้อนความเละเทะ ของโครงการรับจำนำข้าว ว่า โกงกันจริง เพียงแต่ศาลท่าน ก็พูดชัดเจนว่า การทุจริตต้นน้ำและกลางน้ำ ให้ฝ่ายปฏิบัติรับผิดชอบ
ดูแล้วสงสารน้องเขา ที่ยังไม่ค่อยมีประสบการณ์ และข้อมูลของตนเอง ก็ยังไม่แน่นในภาพรวม ที่จะมาแก้ต่างเรื่องที่ศาลตัดสินแล้ว ไปๆ มาๆ จึงเข้าเนื้อยิ่งลักษณ์ และโครงการจำนำข้าว
อยากบอกเพื่อไทย ว่า การทุจริตที่ศาลฎีกาตัดสินถึงที่สุดแล้ว พยายามอย่าดิ้น หรือบิดเบือน เพราะยิ่งดิ้นจะยิ่งช้ำ เกรงว่า ประชาชนจะเข้าใจผิดว่าโกงแล้วโหนประชาธิปไตยไม่เป็นไร”
ด้าน นายธนกร วังบุญคงชนะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐโพสต์ภาพที่ถ่ายกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รมว.กลาโหม พร้อมข้อความระบุว่า
“คิดถึงจึงมาหา… ท่านนายกฯกำลังใจดีมากครับ ฝากขอบคุณพี่น้องคนไทยทุกคนครับ ท่านก็ทำงานในฐานะ รมว.กลาโหม เต็มที่ สั่งการให้กองทัพเร่งช่วยเหลือประชาชนทุกเรื่อง โดยเฉพาะน้ำท่วม และจะมีลงพื้นที่ด้วยครับ”
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน น.ส.ณิชาภา โกวิทานนท์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสงคราม ซึ่งเป็น 1 ใน 36 ผู้สมัครภาคกลาง ที่พรรคเพื่อไทย เปิดตัวล่าสุด ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวชี้แจงกรณีโลกออนไลน์เปิดประวัติตัวเอง เคยร่วมกิจกรรมทางการเมืองกับกลุ่ม กปปส.เพื่อขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก่อนการรัฐประหาร เมื่อปี 2557 ว่า
“สวัสดีค่ะพ่อแม่พี่น้องทุกท่าน ดิฉัน น.ส.ณิชาภา โกวิทานนท์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.สมุทรสงคราม จากกรณีที่มีการนำภาพในอดีต ที่ดิฉันได้เข้าร่วมชุมนุมในภาคประชาชนมาเผยแพร่ ดิฉันขอโทษ และยอมรับว่า ได้เข้าร่วมชุมนุมในครั้งนั้นจริง ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง”
“แต่คาดไม่ถึงว่า เหตุการณ์ดังกล่าว จะนำไปสู่การปฏิวัติรัฐประหาร ซึ่งเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า นอกจากไม่มีการพัฒนาประเทศไปในทางที่ดีขึ้น ตรงกันข้ามกลับทำให้ประเทศเข้าสู่ภาวะวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ดิฉันมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า ที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้ประเทศนี้หลุดพ้นจากภาวะวิกฤต ที่มีมาอย่างยาวนาน ดิฉันจึงขอโอกาสจากพี่น้องชาวสมุทรสงคราม โปรดให้ความเชื่อใจ มั่นใจ ว่าดิฉันจะอยู่เคียงข้างประชาชน เพื่อประชาชนอย่างแท้จริง”
แน่นอน, ประเด็นสำคัญคือ การเคลื่อนไหวของ “ทักษิณ” และพรรคเพื่อไทย ที่พยายามทุกวิถีทางในการดิสเครดิต พล.อ.ประยุทธ์ และต้องการให้ออกจากตำแหน่ง โดยไม่รอศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน
รวมถึงความพยายามที่จะลบภาพจำคนไทย ไม่ว่าจะเรื่องการทุจริต ที่มีหลายคดีติดตัว “ทักษิณ” และคดีจำนำข้าว ซึ่งทำให้ “ปู-ยิ่งลักษณ์” ต้องหลบหนีโทษตามพี่ชายไปอีกคน แม้ว่า ทั้ง “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” ต่างก็ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินถึงที่สุดแล้ว
จนกลายเป็นว่า คนที่นำการเมืองไทยกลับมาอยู่ใน “วังวน” ความขัดแย้งเดิมๆ ก็คือ ทักษิณ และพรรคเพื่อไทย เพราะต้องการช่วยให้ “ทักษิณ” และ “ยิ่งลักษณ์” กลับบ้านแบบเท่ๆ คือ ไม่มีความผิด โดยโยนผิดให้ “เผด็จการ” กลั่นแกล้งทางการเมือง เพราะต้องการขัดขวางคนที่มาจากการเลือกตั้ง ตามระบอบประชาธิปไตย
ยิ่งตอนนี้อำนาจฝ่าย พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในช่วง “ขาลง” ด้วยแล้ว ทางฝ่าย “ทักษิณ” ก็ยิ่งเชื่อมั่นว่า คนไทยจะลืมเลือนเรื่องในอดีตของพวกตนได้เร็วขึ้น และทันการเลือกตั้งครั้งหน้า จึงพยายามโหมกระหน่ำสร้างกระแสนิยม “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” กลบเกลื่อน ทั้งยังพยายามเชิดชูตัวเอง เป็น “ฮีโร่” ที่จะมาช่วยพลิกฟื้นวิกฤตของประเทศ
เรื่องนี้มีคนจับไต๋ได้หมด และรู้จักธาตุแท้นักการเมือง “ขี้โกง” เป็นอย่างดี แม้แต่คำพูดตัวเอง ก็ยังย้อนแย้งกับการกระทำที่ “โกหก” ทันตาเห็นด้วย