xs
xsm
sm
md
lg

“ชาญกฤช” เปิดผลรับฟังความเห็น เผย ปชช.ไฟเขียวกองสลากฯ ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ “สลาก 6 หลัก-สลาก 3 หลัก” เชื่อแก้หวยแพง-หวยเถื่อนได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ชาญกฤช” เปิดผลรับฟังความเห็น เผย ปชช.ไฟเขียวกองสลากฯ ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ “สลาก 6 หลัก-สลาก 3 หลัก” เชื่อ แก้หวยแพง-หวยเถื่อนได้ หนุนรัฐนำรายได้แก้ไขความยากจน-ส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้ด้อยโอกาส คนพิการ แนะทำแอปฯ จำกัดอายุ-วงเงินผู้เล่น ป้องกันมอมเมาเยาวชนและคนเสพติดการเสี่ยงโชค พร้อมตั้งกองทุนเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ

วันนี้ (1 ก.ย.) นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางและมาตรการในการแก้ไขปัญหาการขายสลากเกินราคา เปิดเผยถึงผลสรุปการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียและศึกษาผลกระทบทางสังคมเกี่ยวกับการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก (L6) และสลากกินแบ่งรัฐบาล ตัวเลข 3 หลัก (N3) ผ่านการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น และการสำรวจด้วยแบบสอบถามทางออนไลน์ ทางไปรษณีย์ และการสัมภาษณ์ต่อหน้า พบว่า ผู้มีส่วนได้เสียส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการออกผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลทั้งสองรูปแบบ เนื่องจากเชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา และแก้ปัญหาการซื้อหวยนอกระบบได้ ซึ่งจะทำให้รัฐมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการนำเงินนอกระบบเข้ามาอยู่ในระบบ เพื่อให้รัฐนำเงินรายได้ส่วนหนึ่งกลับคืนไปแก้ไขปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมในมิติต่างๆ ในการพัฒนาสังคม ส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้ด้อยโอกาสและคนพิการ รวมถึงการนำรายได้ดังกล่าวไปแก้ไขปัญหาการพนันในสังคมไทย เพราะรายได้จากการขายสลากส่วนใหญ่มาจากกลุ่มคนที่มีรายได้น้อย

นายชาญกฤช กล่าวต่อว่า โดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเห็นว่า การกำหนดราคาสลากฯ 6 หลัก ควรอยู่ที่ 80 บาท และจำหน่ายทั้งแบบใบและแบบดิจิทัล เนื่องการจำหน่ายผ่านระบบดิจิทัลเพียงอย่างเดียวอาจส่งผลกระทบกับผู้ขายเป็นวงกว้าง ในขณะที่สลากฯ แบบใบยังตอบสนองความต้องการของผู้สูงอายุหรือคนชนบทที่เข้าไม่ถึงเทคโนโลยี ส่วนเหตุผลที่ประชาชนสนับสนุนการออกสลากฯ ตัวเลข 3 หลัก เพราะมองว่าตอบโจทย์ความต้องการของผู้ซื้อ ที่สามารถกำหนดหมายเลขที่ตนเองต้องการได้ และสามารถลุ้นรับรางวัลทั้ง 4 รางวัลในรายการเดียว พร้อมเห็นด้วยกับการจัดสรรและจ่ายเงินรางวัลแบบผันแปร และการสมทบเงินรางวัล รวมทั้งการกำหนดราคา 50 ต่อรายการ ทั้งนี้ ส่วนใหญ่เห็นควรให้จำหน่ายผ่านตัวแทน

“การรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้ก็มีผู้ที่ไม่เห็นด้วย ซึ่งคนกลุ่มนี้ยังมีความกังวลเรื่องของการมอมเมาประชาชน การเข้าไม่ถึงเทคโนโลยีดิจิทัลของกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาสและคนพิการ ตลอดจนไม่มั่นใจต่อผลกระทบในการจำหน่ายสลากใบของกลุ่มผู้ขายสลาก โดยเฉพาะกลุ่มผู้ด้อยโอกาสและผู้พิการ เนื่องจากอาจทำให้ลูกค้ามาซื้อสลากใบน้อยลง เพราะส่วนใหญ่หันไปซื้อสลากดิจิทัลมากขึ้น ขณะที่ผู้ค้าที่เป็นผู้ด้อยโอกาสและคนพิการ ยังมีข้อจำกัดเรื่องการใช้เทคโนโลยี อีกทั้ง ไม่เชื่อว่า สลากแบบดิจิทัลจะสามารถแก้ปัญหาการจำหน่ายสลากเกินราคาได้ และไม่เชื่อว่าการออกสลากฯ ตัวเลข 3 หลัก จะเป็นวิธีการที่ทำให้ความต้องการในการซื้อหวยใต้ดินหรือการพนันนอกระบบลดลง แต่ในทางตรงกันข้ามกลับจะทำให้เด็กและเยาวชนทั่วไปเข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยไม่จำกัดเวลาและสถานที่ ซึ่งจะทำให้คนเสพติดการเสี่ยงโชคมากขึ้น” นายชาญกฤช กล่าว

นายชาญกฤช กล่าวต่อว่า ข้อกังวลดังกล่าวก็มีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับมาตรการในการลดผลกระทบจากการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล คือ การออกมาตรการจำกัดการเล่นเกม หรือการซื้อสลากด้วยตนเองของผู้ซื้อ โดยให้สำนักงานสลากฯ ออกแอพพลิเคชั่นหรือระบบเฉพาะที่กำหนดให้ผู้ซื้อยอมรับเงื่อนไขวงเงินในการซื้อผ่านแอปฯ ด้วยการจำกัดวงเงินการเสี่ยงโชค หรือการซื้อสลากฯของผู้ซื้อแต่ละราย โดยให้ประชาชนเติมเงินหรือโอนเงินเข้าไปในระบบแอพฯ เท่าที่วงเงินของบัญชีผู้ซื้อนั้นๆ นอกจากนี้ ยังมีมาตรการควบคุมและป้องกันการซื้อสลากฯ ของเด็กและเยาวชน โดยกำหนดให้มีระบบลงทะเบียนเพื่อยืนยันตัวตน ซึ่งเชื่อมโยงกับบัญชีธนาคารอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม ในกรณีของสลากฯ แบบใบ การออกแบบระบบติดตามการซื้อขายของผู้ค้าสลากให้มีการแจ้งอายุหรือยืนยันตัวตนผู้ซื้อว่ามีอายุไม่ต่ำกว่ากฎหมายกำหนดก็อาจเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการควบคุมและป้องกันการเข้าถึงสลากฯ ของเด็กและเยาวชนได้ ตลอดจนให้มีการจัดตั้งกองทุนเพื่อเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจาการซื้อขายสลากฯ เช่น การโจรกรรมข้อมูล การปลอมแปลงข้อมูลการซื้อขาย ทั้งนี้ ผลสรุปที่ได้จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น ทางสำนักงานสลากฯ จะรวบรวมความคิดเห็น รวมทั้งผลการศึกษาผลกระทบทางสังคมในทุกมิติ ตลอดจนมาตรการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เสนอต่อคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลและกระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณานำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น