xs
xsm
sm
md
lg

มากกว่าศึก “บังซุป vs ชมรมแพทย์ชนบท” คือ เรื่องที่ปูดว่าใคร? หาประโยชน์จากโควิด **“แม้ว” เล่นบทใจกว้าง บอกถ้า “ตู่” ต้องลี้ภัยก็ให้มาหา มีบ้านให้เช่า เจอสวนกลับ เก็บไว้ให้ “อุ๊งอิ๊ง” ใช้เถอะ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

**มากกว่าศึก “บังซุป vs ชมรมแพทย์ชนบท” คือ เรื่องที่ปูดว่าใคร? หาประโยชน์จากโควิด

ควันหลงหลังการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข มีประเด็นให้เปิดศึกกันระหว่าง “บังซุป” ศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กับ “ชมรมแพทย์ชนบท”

เรื่องนี้ “ชมรมแพทย์ชนบท” เป็นฝ่ายโยนก้อนหินเข้าใส่ก่อน กล่าวหาฝ่ายการเมือง ผ่านเพจของชมรมว่าใช้อำนาจไม่เป็นธรรม พร้อมกับขยายความรวมๆ ในทำนองเป็น “นโยบายเพี้ยนๆ” จากคนๆ เดียว โดยเฉพาะการโยก “หมอยงยศ” นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ จากอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ไปเป็นรองปลัดนั้น ชมรมหมอชนบท มองว่า “ดาวน์เกรด” เพราะ “นพ.ยงยศ” ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มชมรมแพทย์ชนบท ที่ชมรมเคลื่อนไหวขัดแข้งขัดขาฝ่ายการเมือง ไล่นายกฯ และโจมตีนโยบายกัญชาทางการแพทย์

งานนี้ “นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ” หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง (นพ.ทรงคุณวุฒิระดับ 11) โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ต้องออกโรงมากล่าวถึงการโจมตี ว่า การโยกย้ายข้าราชการกระทรวง ผู้บริหารและข้าราชการผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในกระทรวงพิจารณาดีแล้ว การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอยู่บนพื้นฐานของความเหมาะสมชอบธรรม เป็นเรื่องต้อง “PUT THE RIGHT MAN ON THE RIGHT JOB” และเป็นไปตามระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน

ศุภชัย ใจสมุทร
ขณะที่ “บังซุป” ศุภชัย ใจสมุทร เปิดศึกชกแลกหมัดดุเดือดกว่า โดยว่าเพจเฟซบุ๊กชมรมแพทย์ชนบท พยายามใส่ร้ายป้ายสี และบิดเบือนข้อมูล พรรคเสียหาย ยอมได้ที่ไหน

บังซุปเริ่มจากขยี้ “ปมเก่า”

ที่ผ่านมา เคยมีกรณีชมรมแพทย์ชนบทไม่ได้รับการรับรองจาก สธ. แต่มักอ้างเป็นตัวแทนของแพทย์ โดยที่แพทย์ของ สธ.เองก็ไม่ยอมรับ เพราะเป็นชมรมที่มีมุ่งหมายทางการเมือง เป็น “หมอการเมือง” ไม่ใช่การพัฒนาวิชาการทางการแพทย์

หมัดฮุกที่เป็นไฮไลต์ ที่มาของนัยที่มากกว่าการเปิดศึกวิวาทะกัน คือ “บังซุป” ปูดว่ามีผู้นำของชมรมที่มักอวดอ้างเป็นผู้แทนของชมรมไปแสวงหาผลประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาวะที่ประชาชนทนทุกข์ทรมานจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

พฤติการณ์ที่ว่า เกิดขึ้นในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 กำลังพีก มีกลุ่มแพทย์ชนบทอ้างว่า เข้ามาช่วยเหลือตรวจเชื้อโควิดให้กับประชาชนใน กทม. ทั้งที่ในต่างจังหวัดเองก็มีปัญหาอยู่ไม่น้อย ภาพลักษณ์เหมือนเป็นจิตอาสา แต่กลับมีข้อครหาว่า ได้ส่ง “ใบเสร็จ” มาเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจาก รพ.สปสช. เป็นราคาต่อหัวรวมเป็นเงินจำนวนมาก

ข้อพิรุธยังพบอีกว่า โรงพยาบาลที่เป็นแกนนำของแพทย์ชนบท ก็ได้รับผลประโยชน์จากสถานการณ์นี้ด้วย

นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ
นอกจากนี้ ที่ผ่านมา ได้ถูกคณะกรรมาธิการ สธ.เรียกมาสอบสวนประเด็นเรื่องการเรียกร้องให้ สธ.ซื้อชุดตรวจ ATK ของกลุ่มบริษัทที่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน
ติดตามด้วยการตรวจสอบเรื่องโฮมไอโซเลชัน หรือการแยกกักตัวที่บ้าน ในช่วงโควิด ที่มีการนำคนป่วยโควิดในพื้นที่กรุงเทพฯ และอ้างเอาไปดูแลในพื้นที่ต่างจังหวัด เพื่อเบิกค่าหัวการรักษา

“บังซุป” ยังทิ้งหมัดว่า นับจากนี้ ขอเปิดศึกกับชมรมแพทย์ชนบท ในฐานะตัวเองที่เป็น ส.ส. และ เพื่อนๆ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ซึ่งมีเอกสิทธิ์จะขอตรวจสอบกลุ่มแพทย์ชนบทต่อไป หากพบว่าใครดำเนินการอะไรที่ไม่ชอบ ก็จะดำเนินการตรวจสอบ และดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างถึงที่สุด

ผ่างๆ ศึกครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก ปูดกันอย่างนี้ เห็นทีก็ต้องติดตามกันต่อซะแร้ววส์



**“แม้ว” เล่นบทใจกว้าง บอกถ้า “ตู่” ต้องลี้ภัยก็ให้มาหา มีบ้านให้เช่า เจอสวนกลับ เก็บไว้ให้ “อุ๊งอิ๊ง” ใช้เถอะ

ทักษิณ ชินวัตร
ในช่วงที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถูกสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ระหว่างรอศาล รธน. ตีความเรื่องวาระ 8 ปี ฝ่ายตรงข้ามก็คึกคักเป็นพิเศษ แม้จะยังไม่รู้ว่าถึงที่สุดผลจะออกมาอย่างไร แต่ช่วงนี้ก็ขอเยาะเย้ย ถากถาง ด้อยค่าไว้ก่อน
ไม่เว้นแม้แต่วงเสวนา CARE Talk ที่มี “โทนี่ วู้ดซัม” เป็นหัวเรือใหญ่ในการพูดคุย โดยเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเดียวกับ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ทำหน้าที่รักษาการนายกฯ ในการประชุม ครม. เป็นวันแรก... ทาง “พี่โทนี่” ก็ชวนคุยในหัวข้อ “ประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่...แล้วไงต่อ?”
การพูดคุยช่วงหนึ่ง มีคำพูดของ “โทนี่” ที่ดูเหมือนจะแสดงออกถึงความใจกว้าง แต่เป็นการเย้ยหยัน ในชะตากรรมของ “บิ๊กตู่”...ว่า
“...ถ้าประยุทธ์ต้องลี้ภัย ก็มาเช่าบ้านผมอยู่ได้ แล้วผมจะกลับไปเมืองไทยแทน...”

เสกสกล อัตถาวงศ์
จังหวะนั้น มีคนถามพี่โทนี่ ว่า “จุดจบของ พล.อ.ประยุทธ์ มีสิทธิที่เขาจะหนีออกนอกประเทศหรือไม่?” คำถามนี้เล่นเอาพี่โทนี่สะอึก เหมือนถูกจี้ใจดำจนแทบไปไม่เป็น แต่เมื่อตั้งหลัก เก็บอาการได้ ก็บอกว่า

เอ่อ...เป็นคำถามที่ดี แต่ตอบยาก เพราะบ้านเราความเป็นธรรมเนี่ย มันหายาก

ผมคิดว่า อ่า...(เห้อ) ไม่รู้ครับ...ไม่รู้จะตอบยังไง

เอาเป็นว่า ถ้าประยุทธ์ต้องลี้ภัย ก็มาเช่าบ้านผมอยู่ได้ แล้วผมจะกลับไปเมืองไทยแทน...

เมื่อบทสนทนานี้ ถูกนำมาฉายซ้ำทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ CARE คิด เคลื่อน ไทย ก็เลยเป็นประเด็นร้อน

“ทิพานัน ศิริชนะ” ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้มาอยู่ในทีมโฆษกรัฐบาล เพราะผ่านการพิสูจน์ผลงานในช่วงที่ผ่านๆ มาแล้วว่าทั้งความคิดความอ่าน ฝีปาก “ไว” และ “ถนัด” ที่จะตอบโต้ในประเด็นการเมือง ก็ออกมาสวนพี่โทนี่ ไปว่า...

ทิพานัน ศิริชนะ
...พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งใจทำประโยชน์ให้ประเทศชาติมาโดยตลอด ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต จึงไม่จำเป็นต้องลี้ภัยใดๆ ปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้เป็นเพียงปัญหาข้อกฎหมาย ไม่ใช่ปัญหาที่ผู้นำไม่เคารพกฎหมาย หรือรัฐบาลไม่มีจริยธรรม จะเอามาเปรียบเทียบกับการไร้จริยธรรม และการทุจริตคอร์รัปชัน หนีคดีอย่างทักษิณ และ ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้ และถึงแม้หาก พล.อ.ประยุทธ์ ต้องยุติ หรือไม่ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ท่านยังดำเนินชีวิตตามปกติได้ เพราะเป็นเพียงการกำหนดวาระตามรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่วาระสุดท้ายแบบใครบางคน...

“ทิพานัน” ย้อนเข้าใส่พี่โทนี่เต็มๆ !!

ไม่เพียงเท่านั้น “แรมโบ้” เสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ถือว่ามือเก๋าในการเป็น “องครักษ์พิทักษ์ลุงตู่” ก็ออกมาช่วยตอกย้ำอีกแรง ว่า ช่วงนี้ “ทักษิณ” คงอยากกลับประเทศไทยมาก จึงทำให้ความคิดความอ่าน ผิดเพี้ยนไปหมด เอาตัวเองและน้องสาว มาเป็นบรรทัดฐานว่าคนอื่นจะต้องทำแบบตัวเองคือ ทำผิดแล้วหนี!

ส่วนเรื่องบ้านที่บอกว่าจะให้เช่านั้น เก็บเอาไว้เถอะ เอาไว้ให้ “อุ๊งอิ๊ง” ลูกสาว จะดีกว่าไหม

เพราะอนาคตไม่มีอะไรแน่นอน “อุ๊งอิ๊ง” อาจจะได้ตามคุณพ่อ คุณอา ไปอยู่ด้วยกัน ได้สัญชาติใหม่ด้วยกัน ถือพาสปอร์ตต่างประเทศเหมือนกัน...

 ตรีชฎา ศรีธาดา
เมื่อโดนตอบโต้รัวๆ อย่างนี้ “องครักษ์พิทักษ์แม้ว” อย่าง “ตรีชฎา ศรีธาดา” รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ก็อยู่เฉยไม่ได้ ต้องออกมาทำหน้าที่ โดยพุ่งเป้าใส่ “ทิพานัน” เป็นอันดับแรก ว่าเมื่อเข้ามามีตำแหน่งแห่งที่ กินเงินภาษีประชาชนก็ควรทำประโยชน์เพื่อประชาชน ไม่ใช่มาคอยปกป้องคนบางคน...
การที่ “โทนี่” บอกว่าถ้า “ประยุทธ์” จะต้องลี้ภัย ให้ไปเช่าบ้านอยู่ได้นั้น ถือเป็นเจตนาดี เพราะเห็นว่าเป็นผู้นำที่มาจากการยึดอำนาจ อาจไม่มีเพื่อนคอยให้คำแนะนำปรึกษา เวลาต้องลี้ภัย ก็เลยบอกเอาไว้ ยิ่งการรีบร้อน ออกมาบอกว่า “พล.อ.ประยุทธ์” ไม่จำเป็นต้องลี้ภัย เพราะไม่ได้ทุจริต แต่การทำรัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญ นั้นถือเป็นกบฏ โทษหนักยิ่งกว่าคดีทุจริตเสียอีก ทุกประเทศต่อต้าน เดินทางไปไหนก็ไม่ได้...
เรียกว่าต่างฝ่ายต่างจี้จุดเจ็บ ตอบโต้กันไป ไม่มีใครยอมเป็นเป้านิ่ง การเมืองคาบนี้ อยู่ในสถานการณ์ที่ต้องช่วงชิงกระแส สร้างภาพลักษณ์ ชิงความโดดเด่น เพราะใกล้เข้าสู่โหมดเลือกตั้งเต็มทีแล้ว




กำลังโหลดความคิดเห็น