xs
xsm
sm
md
lg

“สรยุทธ” ตอบ “พี่ศรี” แล้ว “ชัชชาติ” ไปงานอะไรอีก “ดร.เสรี” จัดเต็มให้บางคน “แรมโบ้” สวน “โทนี” เจ็บ เรื่องลี้ภัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ สรยุทธ สุทัศนะจินดา ไขข้อข้องใจ “พี่ศรี” ปม “ชัชชาติ” ขอบคุณข้อมูล-ภาพจากสยามรัฐออนไลน์
ชัดนะ! “สรยุทธ” สวมบทโฆษก “ชัชชาติ” เคลียร์ “พี่ศรี” ครั้งนี้ไปงานอะไร “ดร.เสรี” จัดเต็มให้ใคร? ปลอม โกง สืบทอด อวดเก่ง ยกตนข่มท่าน ขี้โม้ บ้าอำนาจ “แรมโบ้” ฟาดกลับ “โทนี” เก็บบ้านไว้ให้ “อุ๊งอิ๊ง” อาจได้ “ลี้ภัย”

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (31 ส.ค. 65) จากกรณี นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า...ฝากภาพผู้ว่าฯ ชัชชาติ ถึงพิธีกรดัง ว่า โอ๊ยๆๆๆๆ….กรี๊ดดดดดดดดด พี่สรยุทธช่วยอธิบายทีครับ!!! โอ๊ยยยยยย ไม่ไหวแล้ว!!!

ล่าสุด สรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรชื่อดัง ได้โพสต์ภาพข้อความในเพจเฟซบุ๊ก ระบุว่า....ครั้งก่อนงานคนพิการ ครั้งนี้งานสถานทูตฯ …

นอกจากนี้ ยังได้โพสต์ข้อความอีกว่า ....ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ชวนร่วมงานนิทรรศการ “สะพานเชื่อมสัมพันธ์ไทย-ซาอุดีอาระเบีย” พร้อมเปิดเมืองต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกชาติ

วันที่ 30 ส.ค. 65 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมงานนิทรรศการ “สะพานเชื่อมสัมพันธ์ไทย-ซาอุดีอาระเบีย" (Efforts of the Kingdom of Saudi Arabia in serving Muslim Brothers) ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบียประจำประเทศไทย จัดขึ้น

นายอิซอม ซอเละห์ อัลจีเตลี่ (H.E. Mr. Essam Saleh H. Algetale) หัวหน้าคณะผู้แทน สถานเอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบียประจําประเทศไทย ให้การต้อนรับและนำชมงาน พร้อมด้วย นายสามารถ มะลูลีม ประธานมูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทยและผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมชมงาน ณ มูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย เขตสวนหลวง

นายชัชชาติ กล่าวว่า กรุงเทพมหานครยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวซาอุดีอาระเบีย ซึ่งในอนาคตน่าจะมีการเพิ่มเที่ยวบินมากขึ้น เนื่องจากกรุงเทพมหานครมีความพร้อมที่จะเปิดเมืองต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวซาอุดีอาระเบีย และนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ซึ่งวันนี้เป็นนิมิตหมายที่ดี นอกจากนี้ ท่านทูตยังบอกว่ายินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใด ก็สามารถมาเยี่ยมชมนิทรรศการ ประเพณี วัฒนธรรมต่างๆ พร้อมร่วมเยี่ยมชมสินค้าและชิมอาหาร Arabian Food ได้ ซึ่งเหลือการจัดงานพรุ่งนี้อีกเพียงวันเดียว จึงอยากเชิญชวนทุกท่านมาร่วมชมงานนิทรรศการดังกล่าว...(จากสยามรัฐออนไลน์)

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายศรีสุวรรณ จรรยา เคยโพสต์เฟซบุ๊ก พาดพิงถึงการทำงานของผู้ว่าฯกทม.กรณีไปร่วมงานเดินแบบ ซึ่งไม่ใช่ภาระหน้าที่ของผู้ว่าฯ กทม.

จน นายชัชชาติ ต้องออกมาชี้แจงว่า เรื่องนี้หาก นายศรีสุวรรณ ไม่โพสต์ คนคงไม่รู้ว่าไปเดินแบบเพื่อคนพิการ ซึ่งตนเองก็ไปเดินแบบกับผู้พิการทางสายตา ซึ่งมองว่าเป็นการเพิ่มความเท่าเทียมกัน เมืองจะน่าอยู่ได้ต้องดูแลทุกคนเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นผู้พิการทางสายตา ผู้พิการทางการได้ยิน และผู้พิการทางสติปัญญา ซึ่งหน้าที่ของ กทม.จะต้องดูแลตรงนี้ ไม่มีใครดูแลได้ดีเท่า กทม.เพราะเป็นหน้าที่โดยตรง การไปเดินแบบวันนั้น คือ 27 ส.ค. ก็เป็นการให้ความสำคัญ

ภาพ ดร.เสรี วงษ์มณฑา จัดชุดใหญ่ให้ใครบางคน จากแฟ้ม
ขณะเดียวกัน ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า

“ปลอม โกง สืบทอด อวดเก่ง ยกตนข่มท่าน ขี้โม้ บ้าอำนาจ

ลักษณะทั้งหมดนี้ไม่ใช่ลักษณะของลุงตู่แน่นอน แต่เป็นลักษณะของกลุ่มเครือญาติ ที่มีนายใหญ่คอยบงการ แต่ละคนสร้างปัญหาให้ประเทศไทยสารพัด

ทำผิดแต่ไม่ยอมรับโทษ ป่วนประเทศไทย สร้างความแตกแยก ไม่ยอมหยุด

ตอนนี้ตั้งเป้า Landslide วางตัวคนปลอมเป็นนายกฯ ฟังแล้วใจหาย

หวังว่าคนไทยจะใช้ข้อมูลในการพิจารณาลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. นะคะ

ถ้าพวกเขาสมหวัง ประเทศไทยก็น่าห่วงนะคะ”

ภาพ “โทนี” หรือ นายทักษิณ ชินวัตร ชวน “บิ๊กตู่” เช่าบ้านตัวเองลี้ภัย
ด้านเพจเฟซบุ๊ก CARE คิด เคลื่อน ไทย ได้เผยแพร่คำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี วู้ดซัม กล่าวในรายการ CARE Talk : “ประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่...แล้วไงต่อ?” เมื่อวันอังคารที่ 30 สิงหาคม 20.00 น.เป็นต้นไป โดยช่วงหนึ่ง นายทักษิณ ได้กล่าวว่า

“...ถ้าประยุทธ์ต้องลี้ภัย ก็มาเช่าบ้านผมอยู่ได้ แล้วผมจะกลับไปเมืองไทยแทน...”

เมื่อคนถามพี่โทนี่ว่า “จุดจบของพลเอก ประยุทธ์ มีสิทธิที่เขาจะหนีออกนอกประเทศหรือไม่?”

เอ่อ...เป็นคำถามที่ดี แต่ตอบยาก เพราะบ้านเรา ความเป็นธรรมเนี่ย มันหายาก

ผมคิดว่า อ่า...(เห้อ) ไม่รู้ครับ... ไม่รู้จะตอบยังไง

เอาเป็นว่า ถ้าประยุทธ์ต้องลี้ภัย ก็มาเช่าบ้านผมอยู่ได้ แล้วผมจะกลับไปเมืองไทยแทน

ภาพ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ “แรมโบ้อีสาน” สวนเจ็บ
จากกรณีดังกล่าว นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ “แรมโบ้อีสาน” อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า

ขณะนี้ นายทักษิณ คงอยากกลับประเทศไทยมาก จึงทำให้ความคิดความอ่านผิดเพี้ยนไปหมด

นายเสกสกล ยืนยันว่า นายกฯประยุทธ์ ไม่จำเป็นต้องลี้ภัยไปไหน เพราะไม่ได้ทำอะไรที่ผิดจนต้องหนีออกไปอยู่ต่างประเทศ เช่นเดียวกับนายทักษิณและน้องสาว โดยขออย่าเอาตัวเองและครอบครัวมาเป็นบรรทัดฐานว่า คนอื่นต้องเป็นแบบตัวเอง

“เรื่องแบบนี้ก็เห็นแต่คนในตระกูลชินวัตรที่ทำได้ ทำผิดแล้วไม่ยอมรับผิดตามกฎหมาย และยังออกมาโทษกฎหมายหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ ซึ่งนายกฯประยุทธ์ไม่มีพฤติกรรมเช่นนั้น เพราะยอมรับกระบวนการยุติธรรมของไทย ไม่ทำผิดกฎหมาย ดังนั้นตนเองขอแนะนำว่า บ้านของนายทักษิณไม่ต้องปล่อยให้คนอื่นเช่าหรอก เก็บไว้ให้คนในตระกูลจะดีกว่าเผื่อมีเหตุการณ์ที่ใครต้องลี้ภัยอีก

ส่วนที่ นายทักษิณ บอกว่า จะกลับไทยนั้น ตนเองขอย้ำว่า ไม่มีใครห้ามสามารถกลับมาได้ทุกเวลา แต่ต้องมารับโทษไม่ใช่มาอย่างสง่างาม พร้อมขอให้นายทักษิณเลิกฝันกลางวันได้แล้วว่า ลูกสมุนพรรคเพื่อไทยจะช่วยให้กลับประเทศได้”

ส่วนเรื่องบ้านเช่า ตนว่า ช่วยเก็บไว้ให้ลูกสาว อุ๊งอิ๊ง จะดีกว่าไหม เพราะอนาคตตอนหลบหนีไปอยู่ต่างประเทศตามคุณพ่อคุณอาไปอยู่ดูไบ เดี๋ยวจะไม่มีบ้านอยู่ ด้วยกัน เพราะคนอย่างพลเอกประยุทธ์เป็นคนดีไม่มีวันตาย อยู่ภายใต้กฎหมายไม่คิดทำผิดกฎหมาย จึงไม่ต้องมีคดีหนีไปที่ไหน ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปอยู่บ้านเช่าดูไบของคนหนีคดีโกงเหมือนนายทักษิณและนางสาวยิ่งลักษณ์

ย้ำอีกครั้งหนึ่งบ้านเช่าเก็บช่วยเก็บให้ลูกสาวอุ๊งอิ๊งไว้อยู่ในอนาคตจะดีกว่า เพราะอนาคตไม่มีอะไรแน่นอน ลูกสาวอาจจะได้ตามคุณพ่อคุณอาไปอยู่ด้วยกัน ได้สัญชาติใหม่ด้วยกัน ถือพาสปอร์ตต่างประเทศด้วยกัน มองภาพแล้วชีวิตครอบครัวชินวัตรคงจะมีความสุขที่สุด อยู่ด้วยกันอย่างอบอุ่นในต่างแดน น่าจะดีกว่าไหม” นายเสกสกล กล่าว (จากสยามรัฐออนไลน์)

แน่นอน, การมีฝักฝ่ายทางการเมือง ถือเป็นเรื่องธรรมดาของระบอบประชาธิปไตย ที่มีเสรีภาพที่ใครจะคิดจะชอบ หรือ นิยมทางการเมืองอย่างไร เพียงแต่อย่าใช้เสรีภาพไปละเมิดสิทธิเสรีภาพของคนอื่น หรือ ทำผิดกฎหมายเท่านั้น

และที่สำคัญ การมีหลายคนช่วยค้นหาความจริง แล้วนำมาชี้แจงต่อสาธารณชน แม้เพื่อปกป้องทางการเมืองให้คนที่ตัวเองศรัทธาก็ตาม แต่ก็เท่ากับทำให้สาธารณชน เข้าใจในสิ่งที่เป็นความจริงด้วย

แต่กระนั้น ก็ยังมีบางคนบางกลุ่ม ที่พยายาม “ชี้นำสังคม” ให้ไขว้เขว สับสน ไม่รู้อะไรจริงอะไรเท็จ เพียงเพราะหวังผลประโยชน์ทางการเมือง ทำทุกอย่างไม่เลือกวิธี เพื่อให้ได้ประโยชน์ทางการเมือง นี่สิ “น่าประณาม” แต่สุดท้ายประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเอง


กำลังโหลดความคิดเห็น