ข่าวปนคน คนปนข่าว
**ฮัลโหลๆ "ท๊อป จิรายุส"อยู่หนาย... ก.ล.ต.เช็กบิล CTO คนสนิทใช้อินไซด์ดีล SCBX ซื้อ KUB ล่วงหนัา งามไส้ซะไม่มี !!
ถึงดีลระหว่าง SCBX กับ บิทคับ จะยกเลิกกันไปแล้ว แต่งาน "เช็กบิล" ตามหลังของสำนักงานคณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ก็ยังมีอีกมากที่ต้องเก็บกวาด ไล่หวดพวกฉกฉวยผลประโยชน์จากกระแสดีลดังกล่าว โดยเฉพาะการซื้อขาย KUB เหรียญของ "บิทคับ" ที่ออกเอง ลิลต์เอง ซื้อขายในตลาดตัวเอง เรียกว่า เสกคุณสมบัติทิพย์กันขึ้นมา แล้วโปรโมตทำการตลาด ปั่นให้กลายเป็น อภินิหารเหรียญทองคำ จากราคาเริ่มต้น 30 บาท กระพือข่าวจะได้ดีลจากไทยพาณิชย์ 1.78 หมื่นล้าน จนราคาทะลุฟ้าไปถึง 580 บาท
ท่ามกลางการได้เสียของการเก็งกำไร ย่อมมี "คนในผู้ต้องสงสัย" ว่าจะใช้อินไซด์ โกยเหรียญเข้ากระเป๋าเพื่อหวังเทขายในตอนหลัง หลอกแมงเม่าว่ามีแรงซื้อจนแห่ตามกัน และในเวลาต่อมา ก็ "พังพินาศ" ตายเกลื่อนตลาด กลายเป็นเหยื่อของขาใหญ่อย่างที่เห็น
และแล้ววานนี้ (30ส.ค.)ก็มีรายการ "เช็กบิล" กลุ่มคนพวกนี้ ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นหนึ่งในทีมผู้บริหารในกลุ่มบิทคับ "สำเร็จ วจนะเสถียร " ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด (BBT) CTO ที่ว่ากันว่า เป็นทีมผู้บริหารคนสนิทของ "ท๊อป" จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้ง และ CEO ของบิทคับ นั่นเอง
ทีมของ “ท๊อปบิทคับ” รายนี้ ถูกก.ล.ต.ตรวจสอบและสำเร็จโทษ โทษฐานซื้อเหรียญ KUB โดยเป็นคนวงใน ซึ่งรู้หรือครอบครองข้อมูลภายใน หรือ "อินไซด์เดอร์" เทรดเหรียญของตัวเอง
โดยก.ล.ต.สั่งให้เขา ผู้กระทำความผิดชำระเงินรวม 8,530,383 บาท และกำหนดระยะเวลาห้ามเป็นกรรมการ หรือผู้บริหารเป็นเวลา12 เดือน
จากการตรวจสอบเห็นว่า คนสนิทของ “ท๊อป บิทคับ” รู้อยู่แล้วว่ากระแสดีลไทยพาณิชย์ ที่ถูกเปิดออก เมื่อวันที่ 2 พ.ย.64 จะมีผลสั่นสะเทือนเลื่อนลั่น ต่อการเทรด KUB ของบิทคับแน่ เพราะเป็นบิ๊กดีล
ราคาซื้อขายเหรียญ KUB ตอนนั้นได้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงก่อนที่จะเปิดเผยข้อมูลสารสนเทศ โดยราคาสูงสุดของวันอยู่ที่ 99.99 บาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ101 จาก 49.53 บาท ซึ่งเป็นราคาสุดท้ายก่อนที่จะเปิดเผยว่าจะมีดีล
ก.ล.ต.ยังพบว่า ข้อมูลอินไซด์ดีลนี้ กลุ่ม SCB และบริษัท บิทคับ โฮลดิ้ง บริษัทแม่บิทคับ ได้เริ่มเจรจาการซื้อขายหุ้นกันตั้งแต่ ช่วงเดือนสิงหาคม 2564 และในระหว่างวันที่ 4 กันยายน – 2 พฤศจิกายน 2564 ก่อนการเปิดเผยข้อมูลภายในดังกล่าว "สำเร็จ" ที่เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี (CTO) ของบริษัทในเครือบิทคับ ได้มีพฤติกรรมการซื้อเหรียญ KUB จำนวนมากอย่างต่อเนื่อง เป็นจำนวน 61,107.66 เหรียญ มูลค่า 1,994,966.56 บาท ซึ่งต่างจากพฤติกรรมก่อนเกิดข้อมูลภายในดังกล่าว
เพราะฉะนั้น นี่เป็นหลักฐานที่ชี้ชัดว่า CEOคนสนิทของ “ท๊อป บิทคับ” หวังรวยจากการใช้อินไซด์ เข้าซื้อ KuB เก็งกำไร
และนี่ก็คือ “ใบเสร็จ” ที่แสดงให้เห็นว่า KUB เหรียญของ "บิทคับ" ตลาดซื้อขายคริปโตที่เคลมว่า เป็นอันดับหนึ่งของไทย แต่เต็มไปด้วยการซื้อขายที่ไม่มีความเป็นธรรม อุปมาไม่ต่างจากบ่อนพนันท้ายซอย ที่เจ้าของบ่อนเอารัดเอาเปรียบนักพนัน
ถ้าจำได้คราวก่อนนี้ ก.ล.ต.ก็เพิ่งจะลงโทษ โดยก.ล.ต.สั่งปรับเงิน Bitkub พร้อมซีอีโอ 'สกลกรย์ สระกวี' และผู้ทำผิด รวม 3 ราย รวมเป็นเงิน 24 ล้านบาท โทษฐานสร้างวอลุ่มเทียมในศูนย์ซื้อขาย “บิทคับ”
ว่าด้วยการปั่นเหรียญอภิหาร KUB เชื่อว่า ยังมีที่อยู่ในมือก.ล.ต.ที่กำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่อีกหลายคดี คนที่เกี่ยวข้องกับการหาประโยชน์จากเหรียญ KUB แบบเย้ยหยันกฎก.ล.ต.ยังมีอีกมาก ตัวอย่างของคนสนิทท๊อป น่าจะเป็นแค่ "หนังตัวอย่าง" ตัวการ ตัวใหญ่ยังไม่ออกฉาก ก็ต้องติดตามกันต่อไป จะมีใครบางคนที่ "เซอร์ไพรส์" หรือไม่
ฟังว่า CTO คนสนิทท๊อป กับ กลุ่มบิทคับ จะไม่ยอมรับการตัดสินของก.ล.ต. โดยออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก รู้ข้อกฎหมายอินไซด์เดอร์เทรดดิ้งดี จะขอต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม แหม...ขึ้นชื่อว่า “บิทคับ” เรื่องดื้อแพ่งแทงสวนก.ล.ต.นี่ต้องยอมรับว่า ยืนหนึ่งมาตลอด ก.ล.ต.สั่งอะไรก็แข็งเมือง สั่งให้ปรับคุณสมบัติ KUB ก็ยังยืนว่า เหรียญตัวเองสุดยอดอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องปรับ
เอาเป็นว่า งานนี้ต้องชื่นชมการทำงานของก.ล.ต. ถึงจะช้าแต่ก็ดีกว่าไม่มา คนทำผิดต้องได้รับโทษ ต้องช่วยกันประจานให้ได้สำนึก ส่วนอีกฝ่ายจะสู้คดีก็ว่ากันไป ...ว่าแต่ว่า “ท๊อป จิรายุส” ปกติมีแสงที่ไหน จะเห็นท๊อปที่นั่น วันนี้ดูเงียบๆ ไป หายไปไหน? สาวกใจคอไม่ดีเลย ฮัลโหลๆ ท๊อป อยู่หนายยย.
**เคล็ดไม่ลับ!! “ลุงป้อม” กระฉับกระเฉงฉับพลัน เพราะใช้ใจบันดาลแรง
เป็นประธานการประชุมครม.ครั้งแรก ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เข้าทำเนียบฯแต่เช้า ด้วยชุดเสื้อสีฟ้าสดใส ท่าทีกระฉับกระเฉง ลงรถแล้วเดินปร๋อ แบบไม่ต้องมีใครมาประคอง โบกมือทักทายสื่อ ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส
เมื่อเข้าห้องเตรียมเริ่มประชุมครม. “ลุงป้อม” ก็ไม่ไปนั่งหัวโต๊ะ ที่เป็นที่นั่งของนายกฯ แต่เบี่ยงไปนั่งในตำแหน่งที่ 2 ด้านขวามือของเก้าอี้นายกฯ นัยว่าเป็นการให้เกียรติ “น้องตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่แม้จะถูกสั่งพักงาน แต่ก็มีสถานะเป็นนายกฯอยู่
ขณะที่ “ลุงตู่” ก็เลือกที่จะไปนั่งที่ห้องทำงาน กระทรวงกลาโหม แล้วร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ เพื่อไม่เกิดความรู้สึกอิหลักอิเหลื่อ
ตามรายงานข่าวบอกว่า”ลุงป้อม” ทำหน้าที่ประธานการประชุมได้อย่างคล่องแคล่ว ตื่นตัวตลอดเวลา เปิดโอกาสให้ ครม.ได้ซักถามในข้อสงสัยอย่างเต็มที่ บรรยากาศการประชุมไม่ตึงเครียด ลื่นไหลแบบไม่ต้องมีพักเบรก กระทั่งจบการประชุม แบบว่ารับประทานอาหารกลางวันกันบนโต๊ะประชุมครม.กันเลยทีเดียว
การประชุมครั้งนี้ยังมีเรื่องสำคัญคือ มีการปรับปรุงคำสั่งเดิม ที่ใช้ในช่วงนายกฯ เดินทางไปปฏิบัติภารกิจต่างประเทศ และให้รองนายกฯ ทำหน้าที่รักษาการนายกฯ ที่ก่อนหน้านี้เขียนไว้ว่า รักษาราชการนายกฯ ไม่สามารถที่จะแต่งตั้งบุคคล หรืออนุมัติงบประมาณได้ เมื่อนำมาใช้ในสถานการณ์ปัจจุบันจึงไม่เหมาะสม จึงต้องมีการแก้ไขใหม่ ให้รักษาราชการแทนนายกฯ มีอำนาจเต็ม ทั้งการอนุมัติงบประมาณ การแต่งตั้งโยกย้ายงานบุคคล เพียงแต่ไม่ได้ขยายผลไปถึงการยุบสภาเท่านั้น
หลังการประชุม “ลุงป้อม” ยังให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ไม่มีท่าทีฉุนเฉียว ว่าการประชุมผ่านไปด้วยความเรียบร้อยดี พร้อมยืนยันว่าระหว่างที่นั่งรักษาการนายกฯนี้ “จะไม่มีการปรับครม.” ตามที่มีกระแสข่าวว่า กลุ่มส.ส.ภาคใต้ เริ่มเคลื่อนไหวกดดัน โดยบอกว่า จะปรับไปทำไม ในเมื่อยังทำงานได้
เสร็จจากการประชุมครม. ในช่วงบ่าย “ลุงป้อม” ยังมีภารกิจ ให้การต้อนรับ ดาโต๊ะ ซรี ฮิชามมุดดิน บิน ตุน ฮุสเซน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มาเลเซีย ที่เข้าเยี่ยมคารวะ ในโอกาสที่มาเยือนประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมงานนิทรรศการอุปกรณ์ป้องกันประเทศ (Defense & Security 2022)
ในช่วงเย็น “ลุงป้อม” ยังมีคิวที่จะต้องไปประชุมส.ส.ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ อีก
ก่อนออกจากทำเนียบฯ นักข่าวถาม“บิ๊กป้อม”ว่า ในช่วงที่ทำหน้าที่ รักษาราชการแทนนายกฯนี้ เหนื่อยหรือไม่ “ลุงป้อม” บอกว่า ไม่ต้องห่วงหรอก ไม่เหนื่อย นักข่าวชวนคุยต่อว่า เป็นเพราะสุขภาพใจดี กำลังใจดี ใช่หรือไม่ “ลุงป้อม” ตอบเสียงดังฟังชัดว่า ใช้ใจบันดาลแรง ไม่ใช่ใช้แรงบันดาลใจ
ก่อนขึ้นรถ “ลุงป้อม” ยังยิ้มเหมือนกับจะบอกเคล็ดลับที่กลับมากระฉับกระเฉงอีกครั้ง ว่า ...ใช้ใจบันดาลแรง !!