วันนี้ (30 ส.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุม ครม วันนี้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งในส่วนนายกรัฐมนตรี ยังไม่มีการส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ คาดว่า น่าจะส่งได้ภายในสัปดาห์นี้ ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดข้อมูลได้
ขณะนี้ทีมกฎหมายของนายกรัฐมนตรี กำลังดูเอกสาร ซึ่งคาดว่า น่าจะส่งเอกสารได้ภายในวันถึงสองวันนี้ ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้หากส่งไปก็ถือว่าเสร็จสิ้น เพราะปกติศาลจะไม่เรียกไต่สวน
ซึ่งวันนี้ พลเอก ประยุทธ์ ไม่ได้พูดอะไรเป็นพิเศษ แต่มีการประชุมออนไลน์เข้ามา ส่วนสาเหตุที่ประชุมออนไลน์เข้ามาก็ถือเป็นธรรมดาที่มีทุกครั้งที่รัฐมนตรีจะใช้การประชุมออนไลน์เข้ามา ในทุกวันอังคาร
เมื่อถามว่า ระยะเวลาช่วงนี้ ถือเป็นสุญญากาศหรือไม่ นายวิษณุ ระบุว่า ไม่มีอะไร ที่เป็นสุญญากาศเพราะวันนี้ได้ชี้แจงกับที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพราะคณะรัฐมนตรียังคงมีอำนาจเต็มไม่ใช่ ครม.รักษาการ คนรักษาการ มีคนเดียวคือ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี
ซึ่งวันนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีการเสนอคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีปรับปรุง คำสั่งที่ก่อนหน้านี้เขียนไว้ว่ารักษาราชการนายกรัฐมนตรีไม่สามารถที่จะแต่งตั้งบุคคล หรืออนุมัติงบประมาณได้ เนื่องจากคงไม่เหมาะที่ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งทำหน้าที่รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีไปถามความเห็นจากนายกรัฐมนตรี ซึ่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ จึงต้องแก้คำสั่งและตัดประโยคนี้ออกไปเพื่อให้รักษาราชการแทนนายกมนตรีมีอำนาจเต็ม ซึ่งจะมีผลย้อนหลังไปจนถึงวันที่ 24 สิงหาคม ซึ่งอำนาจเต็มไม่ได้ขยายผลไปถึงการยุบสภา แต่เน้นเรื่องของการแต่งตั้งโยกย้ายงานบุคคล และการอนุมัติงบประมาณ และหากระหว่างนี้ พลเอก ประวิตร มีภารกิจต้องไปปฏิบัติที่ต่างประเทศ ตนก็จะเป็นรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีในลำดับต่อไป ตามที่เรียงไว้ การดำเนินการทุกอย่างในระหว่างนี้จะไม่เกิดช่องว่างและจะไม่มีคำว่าสุญญากาศ
เมื่อถามว่า ประมาณการไว้หรือไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะใช้เวลาในการพิจารณาคดีกี่วัน นายวิษณุ กล่าวว่า ตอบไม่ถูก เพราะต้องให้เวลาสำหรับ พลเอก ประยุทธ์ ชี้แจงภายใน 15 วัน ซึ่งขณะนี้เพิ่งผ่านไปได้ห้าถึงหกวันเท่านั้น และได้ทราบว่า ศาลได้ให้ผู้อื่นชี้แจงด้วยเช่นกัน โดยทั้งหมดจะมีเวลา 15 วัน และเมื่อครบ 15 วันแล้ว ผู้ชี้แจง ชี้แจงหมดแล้ว ถึงจะเริ่มกระบวนการและจะมองเห็นว่าจะใช้เวลาในการพิจารณาจากนั้นเท่าไหร่ ซึ่งคาดว่าไม่ควรจะนาน เพราะไม่มีการสืบพยาน