xs
xsm
sm
md
lg

นับหนึ่งคดีตัวอย่าง ปฏิเสธรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ทำเสียชีวิต “เชาว์” ยื่นฟ้องกราวรูด ทั้งหมอ-รพ.-สปสช.-อนุทิน เรียกค่าชีวิต 6 ล้าน ชี้ ผู้บริหารต้องรับผิดชอบต่อชีวิต ปชช.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นับหนึ่งคดีตัวอย่าง ปฏิเสธรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ทำเสียชีวิต “เชาว์” ยื่นฟ้องกราวรูด ทั้งหมอ-รพ.- สปสช.- อนุทิน เรียกค่าชีวิต 6 ล้าน ชี้ ผู้บริหารต้องรับผิดชอบต่อชีวิต ปชช. เตือน อนุทิน- สปสช.อย่าลากคดี ทำลายศรัทธา ปชช. หลังคดียังเดินหน้าไม่ได้ เพราะมีการขอเลื่อน ศาลนัดใหม่ 1 พ.ย. เทียบป่วยโควิดเหมือนกัน ได้รับการดูแลต่างกัน “อนุทิน” ได้โมลนูพิราเวียร์ แต่ผู้ตายไม่ได้แม้การรักษาเบื้องต้น ทั้งที่อยู่ในกลุ่ม 608

วันนี้ (29 ส.ค.) นายเชาว์ มีขวด ทนายอาสา โพสต์ข้อความเรื่อง นับหนึ่งคดีตัวอย่าง ความบกพร่องทางการแพทย์ ปฏิเสธรักษาผู้ป่วยโควิด-19 เรียกค่าชดเชยชีวิต 6 ล้าน มีเนื้อหาระบุว่า วันนี้ (29 ส.ค. 65) ผมเดินทางมาศาลแพ่งตามกำหนดนัดพร้อมกับครอบครัวสาพันธ์ คดีที่ผมรับเป็นทนายอาสา ฟ้องทั้งแพทย์ โรงพยาบาล ที่ปฏิเสธไม่รับบริการให้การรักษาคุณประไพ สาพันธุ์ ผู้ป่วยโควิด-19 ตามมาตรฐานที่ควรกระทำ จนทำให้เสียชีวิต และฟ้อง สปสช.และ รมว.สาธารณสุข บริหารผิดพลาด ทำให้ผู้ป่วยตายเพราะเข้าไม่ถึงระบบสาธารณสุข เนื่องจากขาดความพร้อมทั้งเตียงและบุคลากรทางการแพทย์ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ปีที่แล้ว คุณแม่ประไพ มีอาคารครบทุกอย่างที่บ่งชี้ว่าเป็นโรคโควิด-19 ไปที่โรงพยาบาลตามสิทธิบัตรทอง แจ้งให้แพทย์เวรรับทราบว่า เป็นผู้มีความเสี่ยงสูงจากมารดาที่ติดเชื้อโควิด-19 จึงขอให้ตรวจหาเชื้อ แต่แพทย์คนดังกล่าวกลับตรวจแบบหยาบๆ และไม่มีการตรวจหาเชื้อตามความประสงค์ของคนไข้ จ่ายยาพาราเซตามอล ก่อนจะให้เดินทางกลับบ้านไป

จากนั้นเพียงวันเดียว อาการทรุดหนัก สภาพอิดโรย ไอ เหนื่อยหอบ ท้องเสีย ปวดศีรษะอย่างรุนแรง ต้องมีคนคอยพยุงร่างไว้ ไม่สามารถเดินหรือลุกนั่งได้ จึงกลับไปที่โรงพยาบาลอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น (25 มิ.ย. 64) พร้อมกับร้องขอต่อแพทย์คนเดิมให้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 แต่ก็ยังได้รับการปฏิเสธ อ้างว่า ไม่มีน้ำยาตรวจหาเชื้อ สั่งให้เจ้าหน้าที่พยาบาลเจาะเลือดและให้น้ำเกลือขนาดปริมาณเล็กน้อยแก่ผู้ตาย ในสภาพที่ผู้ตายนั่งอยู่ในรถเข็นข้างทางเท้าบริเวณอาคารโรงพยาบาลอย่างน่าเวทนา โดยมิให้ผู้ตายเข้าไปยังห้องพักหรือรับตัวไว้ (admit) เพื่อเข้ารักษาต่อเนื่องแต่อย่างใด หลังจากผู้ตายได้รับน้ำเกลือจนหมดขวดประมาณ 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่แจ้งให้นำผู้ตายกลับบ้านได้ ในสภาพที่ผู้ตายไม่สามารถที่จะช่วยเหลือตัวเองญาติต้องคอยอุ้มขึ้นรถ ต่อมาอีก 2 วันผู้ตายได้ไปตรวจหาเชื้อจากหน่วยบริการที่มาให้บริการใกล้บ้านได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล รัตนาธิเบศร์ ที่มาทำการออกหน่วยบริการ หาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในวันที่ 29 มิถุนายน 2564 จึงเร่งประสานหาเตียงผ่านระบบของ สปสช.จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 โดยขณะนั้นผู้ตายมีอาการอ่อนเพลียมาก หายใจติดขัด มีภาวะช็อกเกร็ง แต่ก็ยังไม่มีหน่วยงานใดมารับตัวไปรักษา ในที่สุดผู้ตายได้เสียชีวิตภายในบ้านพักต่อหน้าครอบครัว

นายเชาว์ ระบุว่า ตนรับเป็นทนายความอาสา ยื่นฟ้องทั้ง แพทย์ โรงพยาบาล สปสช.และ รมว.สาธารณสุข โดยเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 6 ล้านบาทเศษ ซึ่งน่าจะถือเป็นคดีแรกที่มีการฟ้องจากกรณีโรคโควิด-19 ผมต้องการให้เป็นคดีตัวอย่าง แพทย์ โรงพยาบาล ต้องมีจรรยาบรรณ ฝ่ายบริหารต้องมีความรับผิดชอบต่อชีวิตของประชาชน แต่วันนี้ไม่ได้สืบพยานเนื่องจากจำเลยที่สาม คือสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและจำเลยที่สี่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล มอบอำนาจให้ทนายความ เลื่อนคดีและขยายเวลายื่นคำให้การ อ้างว่า ต้องใช้เวลาในการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดทำคำให้การ ศาลจึงเลื่อนคดีไปเป็นวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 เวลา 09.00 น. แต่ก็เป็นที่น่ายินดีที่จำเลยทั้งสี่ประสงค์ที่จะเจรจาไกล่เกลี่ยกับโจทก์ ซึ่งหากตกลงกันจนเป็นที่พอใจทั้งสองฝ่ายจะได้ถอนฟ้อนกันไปไม่ต้องทำให้คดีรกโรงรกศาลและเสียเวลาคู่วามทั้งสองฝ่าย

“คดีนี้มีข้อเท็จจริงที่แจ้งชัดมาก ผมจึงอยากเห็นความสำนึกผิดชอบจากจำเลยทั้งสี่ โดยเฉพาะนายอนุทิน ชาญวีรกูล จำเลยที่สี่ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผมมีคำถามง่ายๆ ในวันที่ท่านรัฐมนตรีติดโควิด ได้รับการรักษาด้วยยาชั้นดี ราคาแพง โมลนูพิราเวียร์ หมออ้างว่าท่านเข้าข่ายกลุ่ม 608 เนื่องจากน้ำหนักเกิน ไม่กี่วันท่านก็หายจากอาการป่วย น่าเสียดายที่คุณแม่ประไพ ซึ่งอยู่ในกลุ่ม 608 อาการหนักกว่าในวันที่นายอนุทินติดเชื้อ แต่กลับไม่มีโอกาสเหมือนท่านรัฐมนตรี อย่าว่าแต่ได้รับยาที่เหมาะสมเลย แม้แต่การรักษาขั้นพื้นฐานก็ยังเข้าไม่ถึง เป็นความบกพร่องของระบบสาธารณสุข จึงขอให้ทั้ง สปสช.และรมว.สาธารณสุข อย่าดึงเรื่อง หรือลากคดีเพราะเสียเวลาทั้งศาลและคู่ความ ที่สำคัญจะเสียศรัทธาจากประชาชน” นายเชาว์กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น