“ธนกร” เผย พี่น้องแรงงานทั่วประเทศฝากขอบคุณรัฐบาล “ลุงตู่” ไฟเขียวขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ เริ่ม 1 ตุลาคม นี้ ช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย
วันนี้ (29 ส.ค.) นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ตนได้รับการประสานจากผู้ใช้แรงงาน ฝากขอบคุณรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ โดยคณะกรรมการค่าจ้าง มีมติปรับขึ้นค่าจ้างทั่วประเทศขึ้นอีก 8-22 บาท โดยปรับขึ้นสูงสุด 354 บาท ต่ำสุด 328 บาท ที่ผ่านมา รัฐบาลได้มีมาตรการและวิธีการที่จะช่วยเหลือลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับพี่น้องแรงงาน ซึ่งการปรับขึ้นค่าแรงครั้งนี้ จะเป็นการปรับตัวเลขไล่ไปทีละจังหวัด เพื่อให้นายจ้างสามารถประกอบธุรกิจอยู่ได้ เพิ่มกำลังซื้อภายในประเทศ ลูกจ้างสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ โดยแบ่งเป็น 9 กลุ่ม เปรียบเทียบจากฐานค่าจ้างอัตราเดิม ตามพื้นที่จังหวัดที่ได้รับผลกระทบและพื้นที่เศรษฐกิจที่ส่งผลต่อค่าครองชีพ ตามรายละเอียดดังนี้
ระดับที่ 1 ค่าจ้างขั้นต่ำ 354 บาท มี 3 จังหวัด คือ ชลบุรี ระยอง และ ภูเก็ต
ระดับที่ 2 ค่าจ้างขั้นต่ำ 353 บาท มี 6 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี นครปฐม ปทุมธานี สมุทรปราการ และ สมุทรสาคร
ระดับที่ 3 ค่าจ้างขั้นต่ำ 345 บาท มี 1 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา
ระดับที่ 4 ค่าจ้างขั้นต่ำ 343 บาท คือ พระนครศรีอยุธยา
ระดับที่ 5 ค่าจ้างขั้นต่ำ 340 บาท มี 14 จังหวัด ได้แก่ ปราจีนบุรี หนองคาย อุบลราชธานี พังงา กระบี่ ตราด ขอนแก่น เชียงใหม่ สุพรรณบุรี สงขลา สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา ลพบุรี และ สระบุรี
ระดับที่ 6 ค่าจ้างขั้นต่ำ 338 บาท มี 6 จังหวัด ได้แก่ มุกดาหาร กาฬสินธุ์ สกลนคร สมุทรสงคราม จันทบุรี และ นครนายก
ระดับที่ 7 อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 335 บาทมี 19 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ กาญจนบุรี บึงกาฬ ชัยนาท นครพนม พะเยา สุรินทร์ ยโสธร ร้อยเอ็ด เลย พัทลุง อุตรดิตถ์ นครสวรรค์ ประจวบคีรีขันธ์ พิษณุโลก อ่างทอง สระแก้ว บุรีรัมย์ และ เพชรบุรี
ระดับที่ 8 ค่าจ้างขั้นต่ำ 332 บาท มี 22 จังหวัด ได้แก่ อำนาจเจริญ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ตรัง ศรีสะเกษ หนองบัวลำภู อุทัยธานี ลำปาง ลำพูน ชุมพร มหาสารคาม สิงห์บุรี สตูล แพร่ สุโขทัย กำแพงเพชร ราชบุรี ตาก นครศรีธรรมราช ชัยภูมิ ระนอง และพิจิตร
ระดับที่ 9 ค่าจ้างขั้นต่ำ 328 บาท มี 5 จังหวัด ได้แก่ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส น่าน และอุดรธานี
“ที่ผ่านมา รัฐบาลมีออกมาตรการเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องแรงงาน และผู้ประกอบการ ที่เจอผลกระทบจากปัญหาราคาน้ำมันแพง เช่น ตรึงราคาขายน้ำมันปลีกดีเซล ให้ส่วนลดซื้อก๊าซหุงต้ม ให้ความช่วยเหลือค่าน้ำมันให้กับผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง มาตรการทางภาษีต่างๆ มากมาย ซึ่งการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในครั้งนี้ ยังพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ เพื่อให้ผู้ประกอบการนายจ้างยังสามารถประกอบธุรกิจอยู่ได้ด้วย จึงเป็นการไต่ขึ้นทีละขั้นทีละจังหวัด โดยจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้ เป็นต้นไป พี่น้องแรงงานฝากขอบคุณรัฐบาลที่ไม่ทอดทิ้งแรงงานไทย” นายธนกรกล่าว