โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย ผลสำเร็จจากการจัดการประชุมรัฐมนตรีเอเปคด้านป่าไม้ ครั้งที่ 5 (MMRF5) เชื่อว่า จะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความยั่งยืนด้านทรัพยากรทางธรรมชาติ แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมเพื่ออนาคต
วันนี้ (27 ส.ค.) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลสนับสนุนแนวทาง BCG Model มาโดยตลอด โดยใช้เป็นหนึ่งในโมเดลสำคัญบนเวทีการประชุมรัฐมนตรีเอเปคด้านป่าไม้ ครั้งที่ 5 (The Fifth APEC Meeting of Ministers Responsible for Forestry: MMRF5)
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Change), ปัญหาภาวะโลกร้อน (Global Warming) และภัยธรรมชาติ เป็นความท้าทายสำคัญ ซึ่งทุกประเทศทั่วโลกต้องร่วมกันหาทางรับมือและแก้ไข ซึ่งรัฐบาลไทยได้นำเสนอให้เขตเศรษฐกิจพิจารณานำหลัก BCG Economy Model ไปใช้ดำเนินงานให้เห็นเป็นผลสำเร็จ เพื่อการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ซึ่งสอดรับกับการประกาศเจตนารมณ์ของไทยในการประชุม COP26 เพื่อการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Greenhouse Gas Emission) ภายในหรือก่อนปี ค.ศ. 2065 ซึ่งปัจจุบัน รัฐบาลไทยแสวงหาความร่วมมือกับนานาประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันแนวทางคาร์บอนเครดิตที่นำมาเป็นต้นทุนทางเศรษฐกิจ สร้างมูลค่าเพิ่มแก่ชุมชนเจ้าของทรัพยากร
ในโอกาสนี้ โดย นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้แถลงผลภายหลังการประชุม MMRF5 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 23-25 สิงหาคม 2565 ณ โรงแรมเลอ เมอริเดียน จังหวัดเชียงใหม่ โดยกล่าวว่า การประชุมฯ ประสบผลสำเร็จในการพัฒนาความร่วมมือ 21 เขตเศรษฐกิจในด้านเทคนิค กระบวนการ และด้านการเงิน เพื่อยกระดับการอนุรักษ์ ฟื้นฟู รักษาพื้นที่ป่าไม้ในเขตเศรษฐกิจเอเปกอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการนำเสนอหลัก BCG Model จัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่ สร้างมูลค่า และส่งเสริมรูปแบบธุรกิจที่ยั่งยืน ต่อต้านการค้าไม้ที่ผิดกฎหมาย ทั้งนี้ สมาชิกเอเปคได้ร่วมกันเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ภายในภูมิภาคได้ถึง 174.38 ล้านไร่ หรือ 27.9 ล้านเฮกเตอร์ เกินกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ได้สำเร็จ
“รัฐบาลมุ่งสนับสนุนการแก้ไขปัญหาและพัฒนาด้านทรัพยากรทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง และเป็นประเด็นที่รัฐบาลให้ความสำคัญดำเนินการมาโดยตลอด เพื่อรักษาผลประโยชน์แก่ประเทศชาติและคนรุ่นหลัง โดยขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ร่วมกันทำงานเพื่อบรรลุเป้าหมาย รัฐบาลมุ่งหวังที่จะลดผลกระทบจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ เพื่อส่งต่อโลกที่สวยงามกว่าเดิมใบนี้ให้แก่คนรุ่นต่อไปในอนาคต” นายอนุชา กล่าว