xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิรัตน์” อาสาดัน พ.ร.บ.ส่งเสริมสวัสดิการชุมชนฯ ชู “สารคามโมเดล” หัวหอกขับเคลื่อน ศก.ฐานราก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สนธิรัตน์” อาสาผลักดัน พ.ร.บ.ส่งเสริมสวัสดิการชุมชนฯ เตรียมใส่ในนโยบายพรรค ยกระดับสภา-องค์กรสวัสดิการชุมชน เป็นหัวหอกขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ชู “คนสารคาม” มีศักยภาพ ขอปักธง “สารคามโมเดล” นำร่องกองทุนสวัสดิการชุมชน แก้หนี้-เพิ่มทุน-สร้างรายได้เพิ่ม

วันนี้ (26 ส.ค.) ที่โรงแรมพิมานอินน์ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) พร้อมด้วย นายสุพล ฟองงาม รองหัวหน้าพรรค และประธานภาคอีสาน, นายบุญส่ง ชเลธร รองเลขาธิการพรรค, นางทิพย์พาพร ตันติสุนทร กรรมการบริหารพรรค, นายสุทธิชัย จรูญเนตร รองประธานภาคอีสาน และว่าที่ผู้แสดงเจตจำนงเป็นผู้สมัคร ส.ส.ภาคอีสาน จาก จ.อุบลราชธานี, ยโสธร, อุดรธานี และ มหาสารคาม ร่วมพบปะแกนนำจากสภาองค์กรชุมชน กองทุนสวัสดิการชุมชน วิสาหกิจชุมชน ในระดับอำเภอ ในเวทีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากเพื่ออนาคตไทย


นายสนธิรัตน์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ตนมาในฐานะคนที่ทำเรื่องเศรษฐกิจฐานรากมาก่อน ภายใต้ปรัชญาใช้พื้นที่เป็นตัวตั้ง ที่ผ่านมาไม่เคยทิ้งเรื่องเศรษฐกิจฐานราก ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งไหน ถือเป็นหัวใจการทำงานหลักของตน ซึ่งมองว่า ที่ผ่านมา การขับเคลื่อนโครงการต่างๆ ของกลุ่มเศรษฐกิจฐานราก ไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างเพียงพอ สิ่งที่กลุ่มทำถือเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่มาก ซึ่งความเข้มแข็งของชุมชนเกิดจากคนในชุมชนพึ่งพาตนเอง ขณะที่องค์กรสวัสดิการชุมชนที่ผ่านมาช่วยตัวเองอย่างเดียว เคยมีการร้องขอให้ออก พ.ร.บ.ส่งเสริมระบบสวัสดิการชุมชนมา 16 ปีแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้า

“อย่ามองว่า ผมเป็นนักการเมือง เพราะตัวพรรคการเมืองเองจะไม่มีความหมาย หากไม่จับมือทำงานกับพี่น้องประชาชนจริงๆ ผมตั้งใจมาหาวิธีทำงานร่วมกับท่าน ขอมาทำงานร่วมกัน มารับฟังว่าพี่น้องประชาชนอยากได้อะไรจริงๆ เช่น พ.ร.บ.ส่งเสริมระบบสวัสดิการชุมชน ถ้าหากอยากได้จริง ผม และพรรคสร้างอนาคตไทย พร้อมที่จะขับเคลื่อนไปกับพวกท่าน โดยผมจะเสนอเป็นหนึ่งในนโยบายพรรค เพื่อทำให้ พ.ร.บ.นี้เกิดขึ้นได้จริง” นายสนธิรัตน์ ระบุ


นายสนธิรัตน์ กล่าวต่อว่า เหตุที่เดินทางมา จ.มหาสารคาม เพราะทราบว่า ประชาชนที่นี่เข้มแข็งมาก ดังนั้น เราต้องเริ่มจากจุดที่เข้มแข็ง สร้างให้เป็นโมเดลเพื่อขยายไปสู่จังหวัดอื่นๆ แม้ว่าจะทำได้ไม่ทั้งหมดในช่วงเวลานี้ แต่หลังจากที่ขับเคลื่อนจนได้ พ.ร.บ.แล้ว ตนมั่นใจว่า จะสามารถจะผลักดันให้เกิดขึ้นทั่วประเทศได้

“ถึงเวลาแล้วที่จะใช้สารคามโมเดลเป็นตัวตั้งของกองทุนสวัสดิการชุมชน” เลขาฯ สร้างอนาคตไทย กล่าว


นายสนธิรัตน์ กล่าวด้วยว่า เรื่องเศรษฐกิจฐานราก ถือเป็นหนึ่งในนโยบาย 5 สร้างของพรรค ความเข้มแข็งชุมชน คือ หัวใจสำคัญของประเทศ การสร้างเศรษฐกิจฐานรากของพรรค จะทำควบคู่กับไปใน 3 ด้าน คือ การแก้หนี้ เพิ่มทุน สร้างรายได้เพิ่ม ภายใต้แนวคิดขับเคลื่อนกลุ่มที่มีศักยภาพ 10-50 คน โดยขณะนี้ได้เริ่มนำร่องแล้วในพื้นที่ จ.มหาสารคาม ในกลุ่มเกษตรกรปลูกข้าว ซึ่งประสบปัญหาในเรื่องราคาตกต่ำ โดยเข้าไปช่วยในการลดต้นทุนการผลิต และผลักดันราคาขายให้มากกว่าท้องตลาด 0.50-1 บาทต่อกิโลกรัม โดยร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กลุ่มรถเกี่ยวข้าวในพื้นที่ ซึ่งในช่วงบ่ายวันนี้ ตนจะเข้าไปพูดคุยกับกลุ่มชาวนาที่ได้นำร่องไว้ และจะขยายโครงการนี้ไปสู่พื้นที่อื่นๆ ในประเทศต่อไป

ทางด้านกลุ่มกองทุนสวัสดิการชุมชน ได้สะท้อนถึงแนวทางการทำงานที่ผ่านมาว่ากลุ่มกองทุนตั้งมาเพื่อเหลือช่วยตนเอง ผู้อื่น ชุมชน และสังคม โดยสมาชิกกองทุนเป็นทั้งผู้ให้ และผู้รับ ดูแลคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนตั้งแต่เกิดจนตาย โดยที่ผ่านมา กองทุนได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือวิกฤตของประเทศ เช่น สถานการณ์โควิด โดยได้เข้าไปช่วยในส่วนการจัดหาหน้ากากผ้า และจัดหาสมุนไพรในการรักษาให้กับชุมชนต่างๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือทั่วประเทศ นอกจากนี้ เมื่อครั้งที่นายสนธิรัตน์ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ร่วมขับเคลื่อนโครงการการใช้พลังงานทดแทน หรือพลังงานชุมชน เช่น โครงการระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการเกษตร ซึ่งถือเป็นผลงานที่จับต้องได้ การทำงานของกลุ่มกองทุนทำงานรูปแบบ 3 ขา ได้แก่ ตนเอง ชุมชน และรัฐ ซึ่งที่ผ่านยังได้รับการสนับสนุนไม่เพียงพอ ขณะที่พรรคสร้างอนาคตไทย มีนโยบายที่สนับสนุนเรื่องเศรษฐกิจฐานรากอย่างชัดเจน มีผลงานที่จับต้องได้ เชื่อว่าพร้อมที่จะใช้ชุมชนเป็นแกนหลักของพื้นที่ และเป็นตัวตั้งในการสร้างเศรษฐกิจชุมชน ซึ่งกลุ่มกองทุนสวัสดิการชุมชนก็พร้อมที่จะร่วมสร้างอนาคตเศรษฐกิจฐานราก และสร้างอนาคตไทยไปด้วยกัน

จากนั้น กลุ่มกองทุนสวัสดิการชุมชน ได้เสนอให้นายสนธิรัตน์ และพรรคสร้างอนาคตไทย ลงพื้นที่ 3 จังหวัด เพื่อพบปะกลุ่มกองทุนสวัสดิการชุมชน ในการเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการเศรษฐกิจฐานรากอีกด้วย




กำลังโหลดความคิดเห็น