xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” หยุดปฏิบัติหน้าที่ “บิ๊กป้อม” เป้านิ่ง !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เมืองไทย 360 องศา



ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ รับคำร้องเรื่องข้อสงสัยเรื่องวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไว้พิจารณา ขณะเดียวกัน ก็มีมติ 5:4 ให้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หยุดปฏิบัติหน้าที่ ตั้งแต่วันนี้ จนกว่าจะศาลมีคำวินิจฉัยออกมา


ต่อมาสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ แจ้งตามมาเมื่อตอนบ่ายวันที่ 24 สิงหาคม ให้รายละเอียดว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ รับคำร้องที่ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรค 3 ประกอบมาตรา 82 ว่าความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรค 2 ประกอบมาตรา 158 วรรค 4 หรือไม่ ไว้พิจารณาวินิจฉัยหลังพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบตามคำร้องแล้ว เห็นว่า กรณีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรค 3 ประกอบ มาตรา 82 วรรคหนึ่ง และ พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 7(9) และให้ พล.อ.ประยุทธ์ ผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง

ส่วนคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ศาลฯพิจารณาคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องแล้ว เห็นว่าข้อเท็จจริงตามคำร้องปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่ามีกรณีตามที่ถูกร้อง จึงมีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 ให้ พล.อ.ประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค. 65 จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย

แน่นอนว่า คำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าว ทั้งการรับวินิจฉัย โดยเฉพาะคำสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ถือว่า อาจเป็นเรื่องช็อกพอสมควรสำหรับบรรดา “แฟนคลับ” หรือผู้สนับสนุน เพราะหลายคนคงไม่คิดว่าจะถึงขั้นสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่

อย่างไรก็ดี หากมองกันอีกมุมหนึ่ง มองในมุมบวกมันก็เหมือนกับการหวน “คืนกลับสู่กติกา” ลดเงื่อนไขของฝ่ายตรงข้ามไม่ให้รุกไล่ข้ามแดนเข้ามาเพิ่มเติม เพราะที่ผ่านมา “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ได้ยืนยันชัดเจนแล้วว่า ยินดีน้อมรับคำวินิจฉัยของศาล ซึ่งในขั้นตอนแรกเมื่อสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ นายกรัฐมนตรีเขาก็ต้องยอมรับโดยดี

ขณะเดียวกัน หากพิจารณาตามขั้นตอนทางกฎหมายก็ยังถือว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่ เพียงแต่ว่าต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ “ชั่วคราว” เท่านั้น จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยชี้ขาดออกมา แต่หากชี้ออกมาเขาดำรงตำแหน่งครบ 8 ปีแล้ว นั่นแหละถึงจะพ้นไปโดยสมบูรณ์

สำหรับขั้นตอนต่อไป ก็จะมีผู้ที่จะต้องขึ้นมาทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรี และลำดับก็คือ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี อันดับหนึ่ง มาทำหน้าที่แทน ขณะเดียวกัน ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ต้องทำหนังสือชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงขั้นตอนการดำเนินการหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ รับคำร้องฝ่ายค้านปมดำรงตำแหน่งครบ 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และมีมติ 5:4 ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ตั้งแต่วันนี้ ว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 5:4 ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรค โดยถือว่ามีเหตุอันควรสงสัยว่าเข้าตามคำร้องของพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือไม่ ซึ่งศาลมีอำนาจสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยหรือจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงคำสั่ง แต่โดยปกติจะเป็นจนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ซึ่งตนไม่ทราบว่าเมื่อไร แล้วส่งเรื่องให้ผู้ถูกร้องคือนายกรัฐมนตรีให้การหรือชี้แจงภายใน 15 วัน นับแต่วันนี้ (24 ส.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะต้องทำคำชี้แจงไป ซึ่งได้ยินว่าทีมกฎหมายของ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ทำคำชี้แจงไว้แล้ว ส่วนจะยื่นอย่างไร และเมื่อไรตนไม่ทราบ

“ระหว่างนี้รองนายกรัฐมนตรีตามลำดับที่เรียงเอาไว้ คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทน หรือที่เรียกว่า รักษาการแทน โดยเรื่องนี้ได้ชี้แจงไปในที่ประชุม ครม. ไปแล้วเมื่อวันที่ 23 ส.ค. ที่ผ่านมา เพื่อให้ ครม. ทุกคนได้รับทราบ และ ครม. จะอยู่เป็น ครม.ตามปกติ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ได้พ้นเพียงแต่หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเคยเกิดขึ้นในอดีต เหมือนนายกฯ ลาไปเมืองนอก หรือป่วย ก็จะถือว่าหยุดปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังเป็น รมว.กลาโหม อยู่อีกตำแหน่งหนึ่ง และเมื่อนับจำนวน ครม.แล้วก็ยังไม่เกิน 36 คน พล.อ.ประยุทธ์ จึงยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ รมว.กลาโหม ได้” นายวิษณุ กล่าว

เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร จะเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการ โดยอัตโนมัติใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ใช่ เพราะได้จัดลำดับเรียงไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ที่จริงจะเปลี่ยนเป็นคนอื่นก็ได้ หาก ครม. จะเปลี่ยน แต่ในขณะนี้ยังมองไม่เห็นว่าจะเปลี่ยนทำไม เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรี มีอำนาจเต็มในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า “เหมือนกับนายกรัฐมนตรีทุกอย่าง” เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีรักษาการ มีอำนาจในการยุบสภาหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า “ทำได้ แต่จะไปทำทำไม ทำได้เหมือนายกรัฐมนตรีทุกอย่าง” ส่วนหากมีการยุบสภาจะต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ภายในกี่วันนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า 45-60 วัน

เมื่อถามว่า นายวิษณุ จะเข้าไปให้คำปรึกษาและคำแนะนำต่อการร่างคำชี้แจงศาลรัฐธรรมนูญของพล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนได้ยินว่าทีมกฎหมายของนายกฯ ได้เตรียมการไว้ก่อนแล้ว เพียงแต่ว่าตอนแรกเราไม่รู้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะให้ชี้แจงหรือไม่ หนึ่งอาจจะไม่ให้ชี้แจง และสองอาจจะให้ชี้แจง แต่ไม่รู้ว่าให้ใครชี้แจง เช่น ให้รัฐบาลชี้แจง ซึ่งหากให้รัฐบาลชี้แจงสำนักเลขาธิการ ครม. จะต้องเป็นผู้ทำคำชี้แจง แต่หากให้นายกฯ เป็นผู้ชี้แจง ซึ่งเป็นผู้ถูกร้องนายกฯ จะต้องเป็นผู้ชี้แจงและเป็นคนเซ็น ซึ่งเอกสารหลักฐานที่จะต้องชี้แจงฝ่ายกฎหมายของนายกฯ ได้เตรียมไว้หมดแล้ว แต่อาจจะต้องนำมาปรับปรุงเพราะบัดนี้ เรารู้แล้วว่าให้ผู้ถูกร้องชี้แจงภายใน 15 วัน

ขณะที่ความเคลื่อนไหวล่าสุด ตอนเย็นวันที่ 24 สิงหาคม นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เคารพผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญทุกประการ โดยจะหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีตั้งแต่วันนี้ (24 สิงหาคม) เป็นต้นไป จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย โดยจะยังคงปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมต่อไปตามปกติ โดยในระหว่างนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะปฏิบัติหน้าที่รักษาการแทน และปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับคณะรัฐมนตรี โดยมิได้มีผลกระทบอย่างใดต่อการบริหารประเทศ และการปฏิบัติงานของข้าราชการ หรือการดำเนินนโยบายอื่นๆของรัฐบาล

“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขอให้ประชาชนเคารพในผลการพิจารณาของศาลฯ และหลีกเลี่ยงการวิพากษ์วิจารณ์การปฏิบัติหน้าที่ของศาล ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มได้เชื่อมั่นในกฎหมายและหลักนิติธรรมของบ้านเมือง ซึ่งเป็นกลไกสำคัญของการอยู่ร่วมกันในสังคม และช่วยให้ประเทศชาติสงบสุข” คำแถลงตอนหนึ่งระบุ

ดังนั้น หากพิจารณามาถึงตอนนี้ก็ต้องถือว่าทุกอย่างอยู่ในกระบวนการทางกฎหมาย ทุกอย่างต้องดำเนินการตามขั้นตอน นั่นคือ ต้องเคารพการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญที่ผูกพันทุกองค์กร เมื่อสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ ยุติการปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีจนกว่าจะมีคำวินิจฉัย และเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ยุติปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่ง หลังจากนี้ ก็ต้องรอให้ศาลวินิจฉัยออกมา เมื่อชี้ออกมาแบบไหนก็ต้องตามนั้น

อย่างไรก็ดี หากมองกันอีกมุมหนึ่งการที่ศาลสั่งให้รับคำร้อง และสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ (ชั่วคราว) แบบนี้ มันก็เหมือนกับการดึงกลับมาสู่กติกา ฝ่ายค้านและฝ่ายม็อบที่กำลังรุกคืบเข้ามาในเวลานี้ก็ต้องชะงัก ในเมื่อยื่นให้ศาลได้วินิจฉัยแล้วก็ต้องรอฟังเท่านั้นไม่มีเหตุผลอื่น เพราะเมื่อสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ นายกฯเขาก็หยุดแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็ต้องรอฟังคำวินิจฉัยชี้ขาดเท่านั้น

ขณะเดียวกัน สำหรับ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ต้องทำหน้าที่นายกฯรักษาการ ก็จะกลายเป็น “เป้านิ่ง” แทนที่ ส่วนจะไหวหรือไม่ อีกไม่นานก็รู้!!


กำลังโหลดความคิดเห็น