xs
xsm
sm
md
lg

“อนุทิน” เตรียมแลกเปลี่ยนข้อมูลนโยบายกัญชาทางการแพทย์ กับ รมว.สาธารณสุขมาเลเซีย ในช่วงการประชุมเอเปกว่าด้วยสาธารณสุขและเศรษฐกิจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รองนายกฯ “อนุทิน” เตรียมแลกเปลี่ยนข้อมูลนโยบายกัญชาทางการแพทย์ กับ รมว.สาธารณสุขมาเลเชีย ในช่วงการประชุมเอเปกว่าด้วยสาธารณสุขและเศรษฐกิจ


วันนี้ (22 ส.ค.) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลไทยโดยกระทรวงสาธารณสุข จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับสูงเอเปกว่าด้วยสาธารณสุขและเศรษฐกิจ ครั้งที่ 12 ระหว่างวันที่ 22-26 ส.ค. 2565 ที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งจะมีรัฐมนตรีสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข และที่เกี่ยวข้องจากสมาชิกเอเปคเข้าร่วมทั้งรูปแบบออนไซต์และออนไลน์

ในวันที่ 24 ส.ค. 2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข มีกำหนดพบหารือกับ นายไครี จามาลุดดิน รมว.สาธารณสุขมาเลเซีย ที่ให้ความสนใจต่อนโยบายกัญชาทางการแพทย์และเพื่อเศรษฐกิจของไทย และเวลานี้มาเลเซียได้ประกาศนโยบายที่จะใช้กัญชาทางการแพทย์ในประเทศ

สำหรับประเด็นที่จะหารือมีทั้งกรณีร่างกฎหมายกัญชา กัญชง พ.ศ.... ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาตามขั้นตอน รวมถึงปัญหา อุปสรรคและการแก้ไขปัญหาและข้อจำกัดต่างๆ ระหว่างการผลักดันนโยบาย รวมถึงกระทรวงสาธารณสุขจะจัดให้คณะจากมาเลเซียได้เยี่ยมแปลงปลูกกัญชา กัญชง ตลอดจนกรรมวิธีการแปรรูปไปสู่ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทั้งเวชภัณฑ์ เครื่องสำอาง

“รองนายกฯ อนุทิน และรมว.สาธารณสุขมาเลเซีย ได้พบหารือกันเบื้องต้นเกี่ยวกับการผลักดันกัญชาทางการแพทย์ไปในช่วงที่ทั้ง 2 ท่านเดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาอนามัยโลก สมัยที่ 75 ที่นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส เมื่อปลายเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งในครั้งนั้นทางมาเลเซียได้ขอมาศึกษาดูงานในไทยเพื่อได้เห็นขั้นตอนการผลักดันนโยบายจนสำเร็จของไทย รองนายกฯ อนุทินจึงเชิญให้มาในช่วงนี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งได้ร่วมประชุมระดับสูงเอเปกว่าด้วยสาธารณสุขฯ และศึกษาดูงานไปในโอกาสเดียวกัน” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์การประชุมระดับสูงเอเปกว่าด้วยสาธารณสุขฯ นอกจากการหารือในหัวข้อต่างๆ แล้วจะมีการนำผู้เข้าร่วมประชุมศึกษาดูงานความก้าวหน้าด้านสาธารณสุขของไทยในหลายประเด็น รวมถึงเข้าร่วมในพิธีการเปิดสำนักงานเลขาธิการอาเซียนศูนย์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่ (ACPHEED) ซึ่งประเทศไทยได้รับความไว้ใจจากชาติสมาชิกอาเซียนให้ตั้งสำนักงานนี้ขึ้นที่กรุงเทพฯ


กำลังโหลดความคิดเห็น