xs
xsm
sm
md
lg

กรมที่ดิน ยัน! ระเบียบมหาดไทยยึดคืนที่ดินร้าง 10 ปี บังคับใช้ 43 ปี ยังไม่เคยมีคำสั่งศาลให้เพิกถอนตกเป็นของแผ่นดิน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมที่ดิน ยัน! ระเบียบมหาดไทย ว่าด้วยการดำเนินการเกี่ยวกับที่ดินที่ถูกทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์หรือปล่อยให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่าให้ตกเป็นของรัฐ บังคับใช้ตั้งแต่ 9 มีนาคม 2522 กว่า 43 ปี ยังไม่เคยมีคำสั่งศาล ให้เพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินให้ตกเป็นของรัฐ หรือ “ยึดคืนตกเป็นของแผ่นดิน” ย้ำ กระแสข่าวเจ้าของที่ดินปล่อยที่ดินทิ้งร้าง ไม่ทำประโยชน์นานเกิน 10 ปี ระวังโดนรัฐยึดคืน ตรวจสอบกับ แอปฯ “กรมที่ดิน” ได้ 24 ชม.

วันนี้ (19 ส.ค.) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า แฟนเพจ “กรมที่ดิน” เผยแพร่ การชี้แจงกรณี เจ้าของที่ดินปล่อยที่ดินทิ้งร้างไม่ทำประโยชน์นานเกิน 10 ปี ระวังโดนรัฐยึดคืน

ระบุว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชนสรุปรายละเอียดได้ว่า “หากเจ้าของที่ดินปล่อยที่ดินทิ้งร้างไม่ทำประโยชน์นานเกิน 10 ปี ระวังโดนรัฐยึดคืน” นั้น

กรมที่ดิน ขอชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้ การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตาม มาตรา 6 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497

บัญญัติว่า “นับตั้งแต่วันที่ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับนี้ใช้บังคับ บุคคลใดมีสิทธิในที่ดินตามโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ หากบุคคลนั้นทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์ในที่ดิน หรือปล่อยที่ดินให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่าเกินกำหนดเวลาดังต่อไปนี้

(1) สำหรับที่ดินที่มีโฉนดที่ดิน เกินสิบปีติดต่อกัน

(2) สำหรับที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ เกินห้าปีติดต่อกัน

ให้ถือว่าเจตนาสละสิทธิในที่ดินเฉพาะส่วนที่ทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์ หรือที่ปล่อยให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่า เมื่ออธิบดี (กรมที่ดิน) ได้ยื่นคำร้องต่อศาล และศาลได้สั่งเพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินดังกล่าวให้ที่ดินนั้นตกเป็นของรัฐเพื่อดำเนินการตามประมวลกฎหมายนี้ต่อไป”

ซึ่งกระทรวงมหาดไทย ได้วางระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการดำเนินการเกี่ยวกับที่ดินที่ถูกทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์หรือปล่อยให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่าให้ตกเป็นของรัฐ พ.ศ. 2522 ลงวันที่ 9 มีนาคม 2522

ส่วนกรณี การปล่อยที่ดินทิ้งร้างไม่ทำประโยชน์เกิน 10 ปี โดนรัฐยึดคืน กรมที่ดิน ระบุว่า การพิจารณาว่าที่ดินแปลงใดมีผู้ทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์ หรือปล่อยให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่าให้พิจารณาถึงการทำประโยชน์ เพียงแต่ล้อมรั้วหรือเสียภาษีบำรุงท้องที่ แต่ไม่ทำประโยชน์ย่อมถือว่าเป็นการทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์หรือปล่อยให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่า

สำหรับที่ดินซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยในหมู่บ้านหรือในเมือง แม้จะยังไม่ได้ปลูกบ้านอยู่อาศัยแต่เจ้าของยังมีเจตนายึดถือเพื่อตนอยู่

ให้ถือว่าที่ดินนั้นเป็นที่ดินที่ได้ทำประโยชน์แล้วโดยสภาพ โดยภายในเดือนมกราคมของทุกปีจังหวัดจะสำรวจว่ามีที่ดินแปลงใดบ้างที่มีผู้ทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์หรือปล่อยให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่าเกินกำหนดเวลาสิบปีติดต่อกันสำหรับที่ดินที่มีโฉนดที่ดิน หรือห้าปีติดต่อกันสำหรับที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ และรายงานกระทรวงมหาดไทยทราบ ซึ่งก่อนส่งเรื่องให้กระทรวงมหาดไทยจะมีขั้นตอนการดำเนินการสรุปได้ดังนี้

(1) จังหวัดหรืออำเภอจะทำหนังสือแจ้งให้เจ้าของที่ดินที่ทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์หรือปล่อยให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่า จัดการหรือเร่งรัดให้มีการทำประโยชน์ภายในเวลา 3 เดือนนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง

(2) เมื่อครบกำหนดแล้วยังไม่จัดการให้มีการทำประโยชน์ให้จังหวัดตั้งกรรมการเพื่อพิจารณาว่ามีการทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์ในที่ดินหรือปล่อยที่ดินให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่าเกินกำหนดเวลาจริงหรือไม่เพียงใด

(3) เมื่อคณะกรรมการมีความเห็นว่ามีการทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์ในที่ดินหรือปล่อยที่ดินให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่าเกินกำหนดเวลาจริงให้จังหวัดทำความเห็นส่งกรมที่ดินเพื่อพิจารณาดำเนินการส่งเรื่องให้อัยการยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อให้ศาลสั่งเพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินดังกล่าวให้ตกเป็นของรัฐต่อไป

ทั้งนี้ กรมที่ดิน ได้ตรวจสอบแล้วปรากฏว่า ตั้งแต่มีการประกาศระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการดำเนินการเกี่ยวกับที่ดินที่ถูกทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์หรือปล่อยให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่าให้ตกเป็นของรัฐ พ.ศ. 2522 ยังไม่เคยมีคำสั่งศาลให้เพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินให้ตกเป็นของรัฐ แต่อย่างใด

กรมที่ดินจึงขอแนะนำให้ประชาชนผู้มีสิทธิในที่ดินได้ตรวจสอบที่ดินและเข้าทำประโยชน์ในที่ดินเพื่อปกป้องและรักษาสิทธิในที่ดินของตนเอง โดยสามารถตรวจสอบรูปแปลงที่ดินผ่าน Application LandsMaps ของกรมที่ดิน ได้ตลอด 24 ชั่วโมง


กำลังโหลดความคิดเห็น