xs
xsm
sm
md
lg

“เชาว์” วัดใจศาล รธน.สร้างบรรทัดฐาน 8 ปี “อดีตหัวหน้า ศรภ.” ชี้ แค่ 3 ปีกว่า “แพทย์ชนบท” ปลุกกระแส “พอเถอะ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ นายเชาว์ มีขวด วัดใจศาล รธน.ชี้ขาด สร้างบรรทัดฐานนายกฯ 8 ปี ขอบคุณข้อมูล-ภาพจากสยามรัฐออนไลน์
“เชาว์” ฟันธง 8 ปี “บิ๊กตู่” นับหนึ่งแต่เป็นนายกฯ วัดใจ ศาล รธน.ชี้ขาด คำตัดสินสร้างบรรทัดฐานนายกฯคนอื่น “อดีตหัวหน้า  ศรภ.” เชื่อ “ลุงตู่” เป็นแค่ 3 ปี 3 เดือน “แพทย์ชนบท” ชวนองค์กรทางสังคมจุดกระแสพอได้แล้ว

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (18 ส.ค.) นายเชาว์ มีขวด ทนายความอาสา โพสต์ Facebook Chao Meekhuad เรื่อง 8 ปีของประยุทธ์ กับ 8 ปีของอดีตนายกฯคนอื่น ความจริงที่ไม่ต่างกัน

มีเนื้อหาระบุว่า ประเด็นที่ถกเถียงกันเรื่องการนับเวลาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่า เริ่มตั้งแต่เมื่อใด ตามที่รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 158 วรรคสี่ ได้บัญญัติไว้ว่า “นายกรัฐมนตรีจะดำรงตำแหน่งรวมกันแล้วเกินแปดปีมิได้ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการดํารงตําแหน่งติดต่อกันหรือไม่ …” ซึ่งมี 3 ปมเวลา คือ หนึ่งนับตั้งแต่วันที่ พลเอก ประยุทธ์ เริ่มดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คือ วันที่ 24 สิงหาคม 2557 สอง นับตั้งแต่วันที่รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ประกาศใช้คือ วันที่ 6 เม.ย. 2560 และสาม นับตั้งแต่วันที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปหลังการเลือกตั้งครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 คือ วันที่ 9 มิ.ย. 2562 มาตรา 158 วรรคสี่ ที่บัญญัติห้ามมิให้นายกรัฐมนตรีดำรงตำแหน่งรวมกันเกินกว่า 8 ปี เจตนารมณ์ก็เพื่อควบคุมฝ่ายบริหาร มิให้อยู่ในอำนาจเป็นเวลานานเกินไป ดังนั้น คำว่า ระยะเวลารวมกันเกิน 8 ปีแล้วหรือไม่ จึงแทบไม่ต้องตีความกันให้เสียเวลา ภาษากฎหมายเขาเรียกพยานหลักฐานเช่นนี้ ว่า ข้อเท็จจริงที่รู้กันทั่วไป เป็นสิ่งที่ไม่ต้องสืบพยาน เพราะศาลรู้เองได้

นายเชาว์ กล่าวว่า เป็นเรื่องท้าทายตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 ท่าน เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะมีผลผูกพันกับทุกคนทุกองค์กร โดยเฉพาะประเด็นนี้ไม่ใช่เฉพาะแค่ พล.อ.ประยุทธ์ แต่รวมถึงอดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยที่เคยดำรงตำแหน่งนี้มาแล้ว และยังมีโอกาสที่จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง เช่น นายอภิสิทธิ์ เวชชาวีวะ นายชวน หลีกภัย นายอานันท์ ปันยารชุน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือแม้กระทั่ง นายทักษิณ ชินวัตร ก็ตาม

“ลองหลับตานับเวลาการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนอื่นดูว่า แต่ละคนเป็นนายกรัฐมนตรีมาแล้วคนละกี่ปี เช่น นายอภิสิทธิ์ เคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาแล้ว 2 ปี กับ 231 วัน ระยะเวลาในการเป็นนายกรัฐมนตรีของนายอภิสิทธิ์ จึงเหลืออยู่เพียง 5 ปี กับ 134 วัน ใช่หรือไม่ ถ้าใช่ก็ไม่ต่างอะไรกับ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เป็นนายกรัฐมนตรีมาแล้ว 7 ปี กับ 359 วัน จะครบ 8 ปี ในวันที่ 24 ส.ค.นี้แล้ว ไม่จำเป็นต้องตีความกฎหมายให้เสียเวลา ว่าจะเริ่มนับตั้งแต่วันไหน

หากมีการตีความบิดเบี้ยวไป ก็ตามถามหามาตรฐานว่า อดีตนายกรัฐมนตรีท่านอื่น จะถูกรีเซตการนับวาระใหม่ด้วยใช่หรือไม่ หากมีโอกาสได้กลับมาบริหารประเทศเท่ากับจะอยู่ได้ 8 ปี เนื่องจากยังไม่เคยเป็นนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 159 ตามที่กล่าวอ้างกัน”

ภาพ พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ เชื่อตาม รธน.ลุงตู่ยังอยู่ไม่ถึง 4 ปี ขอบคุณข้อมูล-ภาพจากสยามรัฐออนไลน์
ขณะเดียวกัน พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์ ระบุว่า

“ลุงตู่อยู่มากี่ปีกันแน่ ต่างคนก็ต่างคิดกันไปครับ”

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ปี 2560 มาตรา 158 วรรคแรก ระบุว่า

“นายกรัฐมนตรีต้องแต่งตั้งจากบุคคลซึ่ง สภาผู้แทนราษฎร

ให้ความเห็นชอบ ตาม มาตรา159 มาตรา 159 ระบุ “คุณสมบัติ” ของผู้ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีไว้

โดยสรุปสาระสำคัญว่า

“ให้สภาเห็นชอบบุคคลท่ีสมควรได้รับแต่งตั้งเป็น นายกรัฐมนตรี จาก ผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อ ท่ีพรรคการเมืองแจ้งไว้ ตามมาตรา88”

มาตรา158 วรรคท้าย ระบุว่า “นายกรัฐมนตรี จะดำรงตำแหน่งรวมกันแล้ว เกิน 8 ปีไม่ได้”

ตอนลุงตู่เป็นนายกฯครั้งแรก หลังการรัฐประหาร

นั้น ลุงตู่ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ตาม ม.159 อย่างแน่นอน เพราะ เป็นนายกฯ โดยไม่ได้รับการแต่งตั้งจากบุคคลท่ีมีรายชื่อตามที่พรรคการเมืองเสนอมา

ดังนั้น ถ้าดูตามตัวหนังสือในรัฐธรรมนูญ มาตรา 158

และ 159 แล้ว จะเห็นได้ชัดเจนว่า ลุงตู่เพิ่งจะเป็นนายกฯตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันนี้ ได้ประมาณ 3 ปี กับ 3 เดือนเท่านั้น

อนึ่ง ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 วรรคสุดท้าย ได้ระบุไว้ว่า

“รัฐสภา ครม. ศาล องค์กรอิสระ และ หน่วยงานของรัฐต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และหลักนิติธรรม เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ และความผาสุกของประชาชนโดยรวม”

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นความเห็นส่วนตัวเท่านั้น ยังต้องรอดู ดุลพินิจ ของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้โดยตรงต่อไป ครับ

ภาพ “แพทย์ชนบท” ออกแถลงการณ์ปลุกกระแสไล่ประยุทธ์ “พอเถอะ” ขอบคุณข้อมูล-ภาพจากสยามรัฐออนไลน์
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เพจเฟซบุ๊ก ชมรมแพทย์ชนบท โพสต์ข้อความระบุว่า

“แถลงการณ์ชมรมแพทย์ชนบท

“8 ปีแล้ว พอเถอะนะ”

กติกาทางสังคมเรื่องการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีรวมกันต้องไม่เกิน 8 ปี เป็นเจตนารมณ์ที่ก้าวหน้าของทั้งรัฐธรรมนูญ 2550 และ 2560

วันที่ 23 สิงหาคม 2565 นับว่าครบ 8 ปีการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างชัดเจน ท่านรับเงินเดือนนายกรัฐมนตรีมา 8 ปีแล้ว ท่านใช้อำนาจนายกรัฐมนตรีมา 8 ปีแล้ว ท่านรับสวัสดิการจากภาษีประชาชนในฐานะนายกรัฐมนตรีมา 8 ปีแล้ว นี่คือ ข้อเท็จจริงที่ตรงไปตรงมาว่าท่านเป็นนายกรัฐมนตรีมา 8 ปีแล้ว จึงถึงเวลาที่นายกรัฐมนตรีจะก้าวลงจากตำแหน่งอย่างมีศักดิ์ศรีตามเจตนารมณ์แห่งรัฐธรรมนูญ 2560

ในช่วงเวลาหนึ่งสัปดาห์ที่ยังเหลืออยู่นี้ ชมรมแพทย์ชนบทขอเชิญชวนให้ทุกองค์กรในสังคมไทย ร่วมกันแสดงออก สร้างกระแส “8 ปี พอแล้ว” กันให้กระหึ่ม

ประเทศไทยยังมีคนดีคนเก่งที่สามารถทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีได้จำนวนไม่น้อย ขอให้นายกฯประยุทธ์ มีสำนึกประชาธิปไตย ก้าวลงจากตำแหน่งตามกติกาอย่างคนรู้จักพอ เปิดทางให้เมืองไทยเดินไปข้างหน้า เปิดโอกาสให้ประชาธิปไตยได้เติบโต

8 ปีแล้ว พอเถอะนะ นายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ชมรมแพทย์ชนบท 18 สิงหาคม 2565” (จากสยามรัฐออนไลน์)

แน่นอน, ประเด็นการตีความกฎหมาย ดีที่สุด ทุกฝ่ายต้องรอฟังคำวินิจฉัยของ “ศาลรัฐธรรมนูญ” ที่องค์คณะ 9 คน จะใช้ความรู้ความสามารถและความยุติธรรม อย่างเต็มที่ในการตัดสินเรื่องนี้

เพราะถ้าฟังแต่ละฝ่ายตีความกันเอง ส่วนใหญ่ก็มักหยิบยกเหตุผลที่เข้าทางตัวเอง มาตัดสิน เพราะอย่าลืมว่า มีทั้งคนที่อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ ออกจากตำแหน่ง และอยากให้อยู่ต่อ ดังนั้น จึงไม่แปลกที่จะมีขบวนการเขย่าบัลลังก์ “บิ๊กตู่” เรื่อง 8 ปี นายกฯถี่ขึ้นทุกวัน

ที่น่าสนใจไปกว่านั้น วันนี้ “ชมรมแพทย์ชนบท” ถึงกับออกโรงเชิญชวนองค์กรในสังคม ช่วยกันสร้างกระแส “8 ปีพอได้แล้ว” โดยที่ไม่ต้องรอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

ทำให้น่าสนใจว่า ถ้าองค์กรในสังคมไทย เอาด้วย ก็ไม่รู้ว่า ประเทศไทยปกครองด้วยอะไร ด้วยการสร้างกระแสความไม่พอใจ หรือ ด้วยหลักนิติธรรม นิติรัฐ อย่างที่ถวิลหากันหนักหนา?


กำลังโหลดความคิดเห็น