“ประวิตร” ประชุมกองทุนกีฬาฯ หนุนแผนพัฒนานักกีฬาสู่ความเป็นเลิศระดับนานาชาติ ยกมาตรฐาน “มวยไทยอาชีพ-การไหว้ครู” อนุรักษ์วัฒนธรรม สร้างมูลค่า ศก. ควบคู่ช่วยเหลือ/เยียวยานักมวยที่ได้รับผลกระทบ ย้ำ ทุกสมาคมฯ ใช้วิทยาศาสตร์การกีฬา เพิ่มศักยภาพ
วันนี้ (17 ส.ค.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ โดย พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบ การสนับสนุนแผนงานพัฒนากีฬาด้านต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านกีฬาของไทย ทั้งในด้านการสนับสนุนระบบการพัฒนานักกีฬาสู่ความเป็นเลิศ ทั้งในระดับชาติและนานาชาติ, การพัฒนาบุคลากรกีฬาสู่ความเป็นเลิศ, การสนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬาอาชีพเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ, การส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมและเครื่องมือทางด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา
ทั้งนี้ ได้มีการรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานกิจกรรมกีฬามวยไทย ได้มีการรายงานถึงการดำเนินโครงการพัฒนากีฬามวยไทยร่วมกับสหพันธ์กีฬามวยไทย (IOC รับรอง) เพื่อส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมขับเคลื่อนกีฬามวยไทยฯ ได้ดำเนินการใน ต่างๆไม่ว่าจะเป็นการยกระดับมาตรฐานกีฬามวยไทยอาชีพ ศึกมวยไทยมรดกคนไทย การจัดรายการแข่งขันมวยไทยรากหญ้า ระดับอาชีพยอดนิยม, รายการประกวดไหว้ครู และวงปี่พาทย์มวยไทย รวมทั้งรายการส่งเสริมและเผยแพร่มวยไทยในค่ายทหาร (4 กองทัพภาค) เป็นต้น รวมถึงแผนการดำเนินโครงการจัดแข่งมวยไทย ในโอกาสครบรอบ 30 ปี การสถาปนาทางการทูต ไทย-คาซัคสถาน ระหว่าง 10-11 ก.ย. 65 ณ สาธารณรัฐคาซัคสถานอีกด้วย และยังได้รับรายงานถึงความคืบหน้าโครงการสนับสนุนฟุตบอลรากหญ้า โดยความร่วมมือระหว่างกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย และฟีฟ่า ซึ่งสมาคมฟุตบอลฯ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง ร่วมกับฟีฟ่า เรียบร้อยแล้ว
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอบคุณนักกีฬาคนพิการ ผู้ฝึกสอนและเจ้าหน้าที่ ที่ทุ่มเทในการแข่งขัน รายการนี้และสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยได้อย่างยิ่งใหญ่ ทำให้คนไทยทั้งประเทศมีความสุข และได้กำชับ กกท.และสมาคมกีฬา ให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ และระเบียบปฏิบัติให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ โดยเคร่งครัด และการบริหารงบประมาณจะต้องเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ต่อการพัฒนากีฬา อย่างเป็นรูปธรรม และเน้นย้ำให้ใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาทุกประเภทกีฬา ทั่วประเทศ อย่างจริงจัง เพื่อยกระดับความเป็นเลิศ ในระดับประเทศ และนานาชาติ ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมยังพิจารณาและเห็นชอบหลักการจ่ายเงินรางวัลและจัดงานมอบเงินรางวัลแสดงความยินดีแก่ นักกีฬา ผู้ฝึกสอน และสมาคมฯ ในการแข่งขัน กีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่11 ณ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ห้วง 30 ก.ค.- 6 ส.ค. 65 ประเทศไทยส่งแข่ง 14 ชนิดกีฬา สร้างผลงานยอดเยี่ยม เป็นอันดับ 2 รองจากเจ้าภาพ โดยทำได้ 117 เหรียญทอง 113 เหรียญเงิน และ 88 เหรียญทองแดง ได้รับอนุมัติ เงินรางวัลรวม 101,420,000 บาท
นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นชอบให้มีการสนับสนุนสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ เพื่อการจัดการแข่งขันกีฬาจักรยานอาชีพ รายการทัวร์ออฟไทยแลนด์ ประเภท หญิงและชาย ประจำปี 2565