“ส.ว.เสรี” วิเคราะห์ปม 8 ปี นายกรัฐมนตรี นับจาก วันที่ 9 มิ.ย. 62 นับตาม รธน. ปี 60 เผย ระบุไว้ชัดมาตรา 170 และ 158 ชี้ ไม่เกี่ยวกับความชอบโกรธเกลียดฝ่ายใด ใครเป็นนายกฯยึดตามนี้
วันนี้ (15 ส.ค.) นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. กล่าวถึงข้อถกเถียงเกี่ยวกับการนับระยะเวลา 8 ปี การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า การนับระยะเวลาพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในรัฐธรรมนูญปี 2560 ระบุไว้ชัดเจน ตามมาตรา 170 วรรคสอง ว่า นอกจากเหตุที่ทำให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามวรรคหนึ่งแล้ว ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเมื่อครบกำหนดเวลาตามมาตรา 158 วรรคสี่ ด้วย ที่ระบุ “นายกรัฐมนตรีจะดำรงตำแหน่งรวมกันเกิน 8 ปีมิได้ ไม่ว่าจะดำรงตำแหน่งติดต่อกันหรือไม่ แต่มิให้นับรวมระยะเวลาระหว่างอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปหลังพ้นตำแหน่ง”ดังนั้น การนับเวลา 8 ปี ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต้องนับตามรัฐธรรมนูญ ปี 2560 มาตรา 170 วรรคสอง ไม่ใช่นับเวลาตามรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) หรือฉบับอื่นๆ ส่วนบทเฉพาะกาลรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 264 นั้น เป็นเรื่องการให้ ครม.ตามรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) ปี 2557 ทำหน้าที่ต่อไปเป็น ครม.ตามรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ไม่เกี่ยวกับการนับเวลาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
นายเสรี กล่าวต่อว่า ส่วนความเห็นคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) บางคนที่เสนอความเห็นไว้อย่างไร จะขัดกับรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 170 วรรคสอง และมาตรา 158 วรรคสี่ ไม่ได้นั้น ความเห็นดังกล่าว เป็นข้อกฎหมายล้วนๆ ไม่เกี่ยวกับความชอบ โกรธ เกลียดฝ่ายใด ไม่ว่าใครเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องนับเวลา 8 ปี ตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 170 และ 158 บัญญัติ ดังนั้น ระยะเวลาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องนับ 8 ปี นับแต่วันประกาศแต่งตั้งตามรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 158 วรรคสี่ คือ วันที่ 9 มิ.ย. 2562 เป็นต้นไป